ดร็อกบาเบิ้ลเชลซีเฉือนปืนซิวแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์

ดร็อกบาเบิ้ลเชลซีเฉือนปืนซิวแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2548 23:01 น.

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ฟอร์มสดเบิ้ลสกอร์ช่วยให้เชลซี เฉือนเอาชนะ ปืนใหญ่ อาร์เซนอลไปได้ 2-1 พร้อมกับซิวแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนที่ศึกพรีเมียร์ชิพ ฤดูกาล 2005/06 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า

ศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2005
เชลซี 2-1 อาร์เซนอล


เชลซี แชมป์พรีเมียร์ชิพ ประจำฤดูกาล 2004/05 ลงทำศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง อาร์เซนอล เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยเกมที่มิลเลเนี่ยม สเตเดี้ยม ในกรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ โฮเซ่ มูรินโญ่ กุนซือคนเก่งสามารถจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนามและก็ได้ อาร์เยน ร็อบเบน หายบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาขึ้นเกมด้านข้างดังเดิม ส่วนในรายของ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ต้องนั่งรอที่ข้างสนามไปก่อน เช่นเดียวกับ เฮอร์นัน เครสโป ซึ่งกลับมาจากการยืมตัว

ด้าน อาร์เซนอล ดีกรีแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาลก่อน เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ มีปัญหาในการจัดทัพเล็กน้อยเนื่องจาก โซล แคมป์เบลล์ มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อน่องหมดสิทธิลงเล่นในช่วงต้นซีซั่น แต่ก็ยังมี ฟิลิป เซนเดอรอส ดาวรุ่งฟอร์มเยี่ยมลงยืนคู่กับ โคโล่ ตูเร่ ส่วนแดนกลางใส่ทั้ง เชส ฟาเบรกาส และมาติเยอ ฟลามินี่ ลงคุมทัพแทนที่การจากไปของ ปาทริค วิเอร่า โดยมี เธียรี่ อองรี กัปตันทีมเป็นหน้าตัวเป้า

เริ่มเกมขึ้นมา อาร์เซนอล ซึ่งเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อนพยายามเปิดเกมบุกใส่เชลซีทันที แต่เมื่อเกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 8 กลับกลายเป็นเชลซี ที่ฉวยโอกาสได้ประตูนำไปก่อน 1-0 เมื่อเดล ออร์โน่ โยนบอลจากแดนหลังให้ ดร็อกบาพักด้วยอกหนีการประกบของเซนเดอรอส เข้าไปตวัดวอลเล่ย์ด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านมือเลห์มันน์ เสียบหน้าต่าง

แม้ว่าจะเสียประตูไปก่อนแต่ อาร์เซนอล ไม่ได้เสียกำลังใจแต่อย่างใด พยายามทำเกมรุกเร้าใส่เชลซี มากยิ่งๆ ขึ้นเมื่อผ่านช่วง 20 นาทีไปแล้ว แต่ยังเจาะไม่เข้าเนื่องจากขุนพลแข้งสิงห์บลูส์ลงไปตั้งรับในแดนตัวเองแน่นทีเดียว

อีกสี่นาทีถัดมา เกมดูจะเดือดมากขึ้นหลังจากนักเตะทั้งสองฝ่ายเริ่มปะทะกันหนัก มาคราวนี้มาเกเลเล่ พยายามจะนำบอลมาเล่นเร็วจากจังหวะที่ฟาเบรกาส ล้มไปนอนกับพื้นทำให้ทั้งสองฝ่ายลุกขึ้นมาผลักอกกัน ผู้ตัดสิน โฮเวิร์ด เว็บบ์ ต้องชักใบเหลืองให้ทั้งคู่ไปสงบสติอารมณ์

มาถึงนาทีที่ 37 ความผิดพลาดของมาเกเลเล่ เกือบทำให้เชลซีน้ำตาตกเมื่อ อองรีตัดบอลไปได้ก่อนจ่ายย้อนหลังปิแรสแต่กลายเป็นดีเมื่อตูเร่ ซึ่งเติมขึ้นมาสับไกด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงแต่เช็ก ที่เพิ่งได้เซฟจะจะเป็นครั้งแรกไม่พลาดปัดพ้นเสาไปได้หวุดหวิด ช่วงท้ายครึ่ง อาร์เซนอล พยายามขึงเกมบุกอีกครั้งแต่ยังไม่สามารถฝ่าแผงเกมรับสุดเหนียวของเชลซีไปทำอันตรายได้จบ 45 นาทีแรก เป็นทางเชลซีที่รักษาสกอร์นำ 1-0 เอาไว้ได้

เปิดฉากในครึ่งหลัง เวนเกอร์ เริ่มขยับเปลี่ยนตัวให้อาร์เซนอล ทีเดียว 3 คน จากที่กำหนดให้เปลี่ยนได้ในเกมนี้ได้ 6 คน โดยส่งทั้ง จิลแบร์โต้ ซิลวา , อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ลงเล่นแทน ฟลามินี่ , ปิแรส และเบิร์กแค้มป์

ซึ่งเกมของอาร์เซนอล ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในการทำเกมรุกที่ดูจะไหลลื่นยิ่งขึ้น แต่จังหวะสวนกลับของเชลซี ก็มาสัมฤทธิ์ผลเมื่อร็อบเบน งัดบอลให้กุ๊ดยอห์นเซ่นโขกต่อให้ดร็อกบา หลุดเข้าไปล็อกหลบเลห์มันน์และโลแรน ก่อนกลับตัวยิงด้วยขวาบอลพุ่งเสียบตาข่ายเชลซี ทะยานนำห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 58 และมูรินโญ่ ก็แก้เกมทันทีด้วยการส่ง ติอาโก้ เมนเดส และเฮอร์นัน เครสโป ลงสนามมาเล่นแทน กุ๊ดยอห์นเซ่น และดร็อกบา ซึ่งเพิ่งทำผลงานเยี่ยมทั้งคู่

แต่ความพยายามของอาร์เซนอล ก็มาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 65 ไล่มาเหลือ 1-2 จากจังหวะที่ลุงเบิร์ก หลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนเปิดเข้ากลาง ติอาโก้พลาดปล่อยให้บอลลอดขาและก็เป็น ฟาเบรกาสสอดเข้ามายิงด้วยซ้ายผ่านมือเช็ก ซุกตาข่าย

ถัดมาเชลซีเปลี่ยนเอาร็อบเบน ซึ่งขึ้นเกมฝั่งขวาแทบจะไม่ได้ออกไปพร้อมกับให้โอกาส ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงมาทำหน้าที่แทน จากนั้นทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนตัวกันอย่างสนุก อาร์เซนอลให้ โฮเซ่ เรเยส , ปาสกาล ซีก็อง และจัสติน ฮอยท์ เล่นแทนลุงเบิร์ก , เซนเดอรอส และโลแรน ส่วนเชลซีให้ โจ โคล ลงไปแทนดัฟฟ์

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอล ดันเกมบุกค่อนข้างจะเต็มตัว ส่วนเชลซีรอตัดเกมและหาจังหวะสวนกลับขึ้นไปเป็นระยะๆ นาทีที่ 87 แลมพาร์ด ได้โอกาสซัดไกลระยะกว่า 40 หลา ร้อนถึงเลห์มันน์ ต้องปัดทิ้งไป จังหวะถัดมาอองรี ได้โอกาสสับไกแบบเต็มๆ บอลพุ่งเรียดแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเช็ก ครบ 90 นาที ไม่มีฝ่ายใดทำเพิ่มกันได้ทำให้ เชลซีเก็บชัยเหนืออาร์เซนอลไปได้ 2-1 พร้อมกับคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ ประจำปี 2005 มาครอง

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , เปาโล แฟร์ราร่า , จอห์น เทอร์รี่ , วิลเลี่ยม กัลลาส , อาซิเอร์ เดล ออร์โน่ , โคล้ด มาเกเลเล่ , เดเมี่ยน ดัฟฟ์ , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , อาร์เยน ร็อบเบน , ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

อาร์เซนอล : เยนส์ เลห์มันน์ , โลแรน เอตาเม่ , โคโล่ ตูเร่ , ฟิลิป เซนเดอรอส , แอชลี่ย์ โคล , เฟดริก ลุงเบิร์ก , เชส ฟาเบรกาส , มาติเยอ ฟลามินี่ , โรแบร์ ปิแรส , เดนนิส เบิร์กแค้มป์ , เธียรี่ อองรี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์