ซูเปอร์ไฟต์ส่อล่ม! ปาเกียว ไม่รับเงื่อนไขตรวจโด๊ป

บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์มวยโลกชื่อดัง เผยข่าวร้าย ไม่มีอีกแล้ว ศึกมวยไฟต์หยุดโลกระหว่าง แมนนี่ ปาเกียว กับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ หลังเคลียร์เรื่องเจาะเลือดตรวจโด๊ปไม่ได้ เปรยถ้าโชคดีไฟต์นี้อาจมีขึ้นในช่วงปลายปีหน้า พลางจวก นักชกไร้พ่ายชาวอเมริกัน ขี้ขลาด ไม่อยากชก และคิดแผนนี้มากวนประสาท ปาเกียว


บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์มวยโลกคนดัง พูดเน้นๆ อย่างเสียงดังฟังชัดว่า มวยคู่หยุดโลกระหว่าง แมนนี่ ปาเกียว ยอดมวยหมายเลขหนึ่งของโลกชาวฟิลิปปินส์ กับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดมวยไร้พ่ายชาวอเมริกัน เดือนมีนาคมปีหน้า จบเห่ ไม่มงไม่มีอีกแล้ว เพราะไม่สามารถประนีประนอมเรื่องการตรวจโด๊ปด้วยการเจาะเลือด ระบบมาตรฐานขององค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐอเมริกา (ยูเอสเอดีเอ) 
 
แผนจัดศึกมวยคู่หยุดโลกใน ลาส เวกัส ที่คาดว่าอาจทำให้นักชกแต่ละคนรับทรัพย์ถึงคนละ 40 ล้านดอลล่าร์ (ราว 1,400 ล้านบาท) มีอันต้องเป็นหมัน เนื่องจากความไม่ลงรอยกันเรื่องการตรวจโด๊ป เมื่อ ฟลอยด์ ยืนยันต้องการตรวจโด๊ปตามขั้นตอนมาตรฐานของ ยูเอสเอดีเอ ที่รวมถึงการสุ่มตรวจเลือดก่อนชกไม่กี่วัน แต่ฝ่าย ปาเกียว บอกว่า ต้องการให้ตรวจโด๊ปตั้งแต่เดือนมกราคม หรือก่อนชกราวๆ 30 วัน รวมถึงยอมให้ตรวจหลังการชก
 
มันจบแล้ว มัน-จบ-แล้ว เท่าที่ผมรู้ก็คือ ไม่มีการชกไฟต์นี้แล้ว แล้วมีโอกาสที่จะมีไฟต์นี้ในฤดูใบไม้ร่วง (ปลายปี 2010) มั้ย ? ไว้เรามารอดูกันอีกที อารัม กล่าว พลางด่าฝ่าย ฟลอยด์ ว่าขี้ขลาด ไม่กล้าขึ้นชกตั้งแต่แรก เลยเอาวิธีนี้มากวนประสาท ปาเกียว ที่ไม่อยากให้ตัวเองถูกเจาะเลือดอย่างกระชั้นชิดก่อนชก
 
ฟลอยด์ ขี้ขลาด เขาไม่มีกะจิตกะใจจะชกอยู่แล้ว และนี่คือเรื่องที่ทำให้ ปาเกียว รำคาญใจ เมย์เวทเธอร์ ขนาดพยายามกดดันให้มีการตรวจเลือดตอนชั่งน้ำหนัก เขารู้ว่า แมนนี่ จะหัวเสียที่ตัวเองถูกเจาะเลือดไปตรวจ และเกิดความรู้สึกว่าตัวเองจะอ่อนแอลง นี่คือเรื่องรำคาญใจ และผมมองว่า มันคือสัญญาณว่า เขาไม่อยากชก อารัม กล่าว     
 
นอกจากนี้ อารัม ที่เป็นโปรโมเตอร์ของ นักชกตากาล็อก ยังบอกอีกว่า อีกเหตุผลที่ ปาเกียว ไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของ ฟลอยด์ เพราะเขามองว่า ยูเอสเอดีเอ จะลำเอียงเข้าข้าง นักชกอเมริกัน ปาเกียว มองพวกเขาว่าลำเอียง เขาไม่อยากให้พวกนี้มาเกี่ยวข้อง ผมเองก็ไม่อยาก พวกเขาไม่ยืดหยุ่น เอาพวกเขามาใช้ไม่ได้หรอก
 

ด้าน ออสการ์ เดอ ลา โฮย่า แห่ง โกลเด้นบอย โปรโมชั่นส์ ซึ่งอยู่ฝ่าย ฟลอยด์ แสดงความเห็นผ่านเว็บบล็อกของตัวเอง ในทางตรงกันข้ามว่า ถ้าหาก ปาเกียว ไม่อยากเจาะเลือด หรือเชื่อว่าเขาจะอ่อนแอจากเรื่องนี้ มันก็ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถาม คนต้องสงสัยว่าทำไมเขาไม่อยากตรวจ ? มันเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน ? จะมีหลายคนสงสัย นี่ไม่ดีกับใครเลย ถ้าคุณไม่มีอะไรหลบซ่อน ก็น่าจะทำเพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุด    



บานปลาย! ปาเกียว จ้องฟ้อง ฟลอยด์ กล่าวหาโด๊ปยา


แมนนี ปาเกียว กำปั้นชาวฟิลิปปินส์ เจ้าของแชมป์โลก 7 รุ่น เตรียมยื่นเรื่องฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดมวยไร้พ่ายชาวอเมริกันที่กล่าวหาว่าตนใช้สารกระตุ้น หลังจากไม่ตอบรับเงื่อนไขการตรวจโด๊ปสำหรับซูเปอร์ไฟต์ของทั้งคู่
       
        คู่มวยหยุดโลกชิงบัลลังก์รุ่นเวลเตอร์เวทของ องค์กรมวยโลก (WBO) ระหว่าง “แพ็คแมน” กับ “พริตตีบอย” ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 13 มีนาคมปีหน้า แต่เกิดปัญหาเรื่องการตรวจสารกระตุ้นที่ ปาเกียว ไม่ยอมรับการตรวจตามมาตรฐานขององค์การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสเอดีเอ) ซึ่งจะต้องเจาะเลือดและเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจในช่วง 1 วันก่อนและหลังขึ้นชก เนื่องจากยอดนักชกแห่งแดนกาตาล็อกถือเคล็ดไม่เจาะเลือดในช่วง 30 วันก่อนขึ้นเวที
       
        จากนั้น บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์ของแพ็คแมนก็ออกมาประกาศยกเลิกโปรแกรมชกดังกล่าวโดยปริยาย เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องการปรับเงื่อนไขตรวจโด๊ปกันได้ ทว่า เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อนักมวยเลือดปินส์ไม่พอใจที่ถูก เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ตราหน้าว่าใช้สารกระตุ้นจนต้องหลบเลี่ยงการตรวจตามมาตรฐานของยูเอสเอดีเอ โดยออกมาประกาศว่าเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย
       
        ซึ่ง ปาเกียว แถลงอย่างดุเดือดว่า “ทั้ง เมย์เวทเธอร์ ซีเนียร์, เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ และ โกลเดนบอย โปรโมชันส์ คงคิดว่าเป็นเรื่องสนุกและมีสิทธิ์ที่จะกล่าวหาคนอื่นอย่างผิดๆ ว่าใช้สารสเตียรอยด์หรือสารกระตุ้นตัวอื่น ผมพยายามไม่จุดชนวนใดๆ ให้ใหญ่โตก่อนการขึ้นชก แต่หนนี้ผมคิดว่าพวกเขาล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว”
       
        “ผมติดต่อให้ บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์ของผมช่วยรวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อยื่นเรื่องฟ้องศาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนนี้คนที่เข้ามาหาผมมีแต่จะถามว่าใช้สารกระตุ้น และผมเล่นไม่ซื่อบนหนทางก้าวไปสู่การเป็นนักชกหมายเลข 1 ของโลกใช่หรือไม่ ซึ่งผมขอยืนยันว่าไม่เคยใช้สารสเตียรอยด์หรือสารกระตุ้นใดๆ ทั้งสิ้น”
       
        “การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของผมในทุกวันนี้ล้วนมาจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก รวมถึงการหลั่งเลือดบนเวทีในการขึ้นชกครั้งที่ผ่านๆ มา มันไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้เลย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สเตียรอยด์ มีหน้าตาอย่างไร และความเคารพยำเกรงในพระเจ้าก็ช่วยให้ผมแคล้วคลาดจากความปราชัย และประสบกับชัยชนะมาโดยตลอด” แพ็กแมน วัย 31 ปี ร่ายยาว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์