หลุยส์ นานี่เป็นฮีโร่ของเหล่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างแท้จริงหลังยิงประตูขึ้นนำด้วยลูกชิพหนีมือโกเมสในช่วง ท้ายเกมส์ ก่อนจะมาเรียกจุดโทษให้ไรอัน กิ๊กส์ยิงตอกย้ำชัยชนะส่งผีแดงบดท็อตแน่ม สเปอร์ส 3-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแล้ว
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2553
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 1 ท็อตแน่มฮอตสเปอร์ส
ประตู : 1-0 ไรอัน กิ๊กส์ น.58 (จุดโทษ) , 1-1 เลดลี่ย์ คิง น.70 , 2-1 หลุยส์ นานี่ น.80 , 3-1 ไรอัน กิ๊กส์ น.85 (จุดโทษ)
ครึ่งแรก
กิ๊กส์ยิงฟรีคิกติดกำแพง
จังหวะการทำประตูครั้งแรกของเกมส์กว่าจะมาถึงปาเข้าไปในนาทีที่ 15 โดยเจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะประมาณ 27 หลาเยื้องไปทางขวาและเป็นไรอัน กิ๊กส์ที่อาสาปั่นฟรีคิกแต่ติดกำแพงก่อนแนวรับทีมเยือนจะช่วยกันเคลียร์ออกไปได้
ฮาร์โก้วอร์มเรียกเสียงกรี๊ด
ไม่ค่อยมีจังหวะลุ้นทำประตูกันซะเท่าไหร่ จนกล้องจับไปข้างสนามเป็นโอเว่น ฮากรีฟส์มิดฟิลด์จอมเจ็บที่กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง วิ่งลงมาวอร์มอยู่ข้างสนามเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ดได้ทั่วสนาม
ผีพลาดขึ้นนำอาร์ทซัดติดบล็อค
นาทีที่ 28 แมนฯ ยูไนเต็ดพลาดโอกาสการขึ้นนำอย่างน่าเสียดายหลังปาทริซ เอฟร่าลากบอลตะลุยเข้าเขตโทษก่อนตบเข้าในหวังให้ไรอัน กิ๊กส์ชาร์จแต่กองหลังสเปอร์สวิ่งมาสกิดไว้ได้ก่อน บอลไปถึงเบอร์บาตอฟได้พลิกตัวยิงแต่เป็นเลดลี่ย์ คิงที่ล้มตัวสไลด์บล็อคออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
เอฟร่ามาบ้างยิงข้ามคาน
นาทีที่ 31 หลุยส์ นานี่ที่ครองบอลอยู่บริเวณกลางสนามสายตาแหลมคมมองเห็นปาทริซ เอฟร่าวิ่งทำทางไปทางซ้ายจึงตักบอลทะลุช่องผ่านไปให้ทันที บอลไปถึงเอฟร่าปล่อยบอลตกหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ดีพอ เหินโด่งข้ามคาน
หน้าลิงส่องฟรีคิกข้ามคาน
ผ่านมาถึงนาทีที่ 35 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สได้ลุ้นจากฟรีคิกหลังหลุยส์ นานี่รวบเดวิด เบนท์ลี่ย์ล้มลงจากระยะประมาณ 25 หลาเป็นแกเร็ธ เบลแบ็คซ้ายฟอร์มฮอจที่รับหน้าที่ปั่น บอลผ่านกำแพงมาได้แต่เหินโด่งข้ามคานออกไป
เบิร์บเกี่ยวบอลลงวอลเล่ย์ข้ามคานนิดเดียว
นาทีที่ 40 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟโชว์การจับบอลขั้นเทพหลังใช้เท้าเกี่ยวลูกครอสของราฟาเอล ก่อนจะวอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาทันทีแต่บอลเหินโด่งข้ามคานออกไป
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
นานี่ยิงฟรีคิกติดกำแพงอีก
นาทีที่ 52 ของการแข่งขันแมนฯ ยูไนเต็ดได้ฟรีคิกบริเวณ 30 หลาจากจังหวะที่แกเร็ธ เบลไปเหนี่ยวไรอัน กิ๊กส์รุ่นพี่เพื่อนร่วมชาติและเป็นหลุยส์ นานี่ที่อาสายิงฟรีคิกแต่ติดกำแพงไม่ได้ลุ้น
เบิร์บโหม่งเฉี่ยวเสา
นาทีที่ 53 แมนฯ ยูไนเต็ดน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ บอลเริ่มจากลูกเตะมุมไรอัน กิ๊กส์เล่นสั้นส่งให้ปาทริซ เอฟร่าก่อนที่แข้งฝรั่งเศสจะครอสเข้าเขตโทษและเป็นดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เอาชนะกองหลังสเปอร์สขึ้นโหม่งบอลไปทางเสาไกลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ผีได้จุดโทษ!เอก็อตโต้รวบเอฟร่าล้มทั้งยืน
นาทีที่ 57 แมนฯ ยูไนเต็ดมาได้จุดโทษโดยต้องชมดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่พาบอลจากบริเวณริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษก่อนเหลือบเห็นปาทริซ เอฟร่าวิ่งเติมเข้ามาจึงตอกส้นให้ทันที บอลมาถึงเอฟร่าแต่เป็นเอก็อตโต้ที่เข้าพรวดมาทั้งตัวจนแข้งทีมชาติฝรั่งเศสล้มไปกองกับพื้นอันเดรย์ มาริเนอร์เป่าเป็นจุดโทษ และก็เป็นไรอัน กิ๊กส์ที่ยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็น
จ่าเฉยแก้เกมส์ส่งเลนน่อนลงแล้ว
นาทีที่ 66 แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ตัดสินใจส่งอาร์รอน เลนน่อนปีกของแสยงปาทริซ เอฟร่าที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์ลงสนาม โดยเปลี่ยนตัวเดวิด เบนท์ลี่ย์ออกจากสนาม
ไก่เสมอแล้ว!คิงโหม่งตุงตาข่าย
เกมส์รุกที่ไม่ค่อยจะมีอะไรของทีมเยือน มาได้ประตูจากจังหวะเตะมุมในนาทีที่ 70 โดยแกเร็ธ เบลครอสบอลมาเข้าหัวของเลดลี่ย์ คิงที่ขึ้นโขกบอลไปทางเสาสองตุงตาข่าย กล้องพยายามจะจับไปที่ราฟาเอลที่ยืนคุมเสาไม่ดีโดยจังหวะที่คิงกำลังจะโหม่งเขาได้เดินออกมาจากบริเวณที่ควรจะยืนอยู่แล้ว
บร๊ะเจ้าบัง!ชิพอย่างสวยผีนำอีกครั้ง
นาทีที่ 80 แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเฮกันลั่นสนามโดยบอลเริ่มจากเฟล็ทเชอร์ ที่แตะไปให้กับมาเคด้าตัวสำรองที่พึ่งลงมา จ่ายทะลุช่องทันทีให้กับนานี่วิ่งหลุดไปดวลกับโกเมส และแข้งทีมชาติโปรตุเกสก็ได้โชว์ความสามารถชิพบอลผ่านมือโกเมสส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้นสุดๆ
ซูเปอร์บัง!เรียกโทษกิ๊กส์ยิงอีกผีหนี 3-1
เป็นวันของหลุยส์ นานี่อย่างแท้จริงโดยนาทีที่ 84 ปีกทีมชาติโปรตุเกสลากบอลจากบริเวณกลางสนามลุยเดี่ยวไปถึงเขตโทษของสเปอร์ส ก่อนที่ปาลาซิออสจะทะเล่อทะล่าวิ่งมาชนอาบังจากด้านหลัง มาริเนอร์เป่าเป็นจุดโทษให้เจ้าบ้านอีกครั้งและก็เป็นไรอัน กิ๊กส์คนเดิมที่คราวนี้ยิงไปทางขวาส่งบอลตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 2 ของเขา
ช่วงเวลาที่เหลือแมนฯ ยูไนเต็ดควบคุมสถานการณ์ทุกๆอย่างไว้ได้เปิดบ้านเอาชนะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส 3-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา(เฟเดริโก้ มาเคด้า น.79), จอห์นนี่ อีแวนส์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอฟร่า(จอห์น โอเชีย น.67), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์
, อันโตนิโอ วาเลนเซีย(ไมเคิ่ล คาร์ริค น.60), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, หลุยส์ นานี่ 
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส : เฮอราโย่ โกเมส, เบนอยต์ อัสซู-เอก็อตโต้, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เล็ดลี่ย์ คิง
, แกเร็ธ เบล, เดวิด เบนทลี่ย์(อาร์รอน เลนน่อน น.66), ทอม ฮัดเดิลสตั้น, วิลสัน ปาลาซิออส, ลูก้า โมดริช, เจอร์มาน เดโฟ(ไอเดอร์ กุ๊ดยอนเซ่น น.55), โรมัน พาฟยูเชนโก้(ปีเตอร์ เคร้าช์ น.75) 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
