ซิสเซ่บันดาลชัย!ยิงทดเจ็บสาลิกาพลิกแซงทุบหม้อ 2-1

ซิสเซ่บันดาลชัย!ยิงทดเจ็บสาลิกาพลิกแซงทุบหม้อ 2-1 

โล่งขึ้นมาได้เยอะเลยสำหรับ"สาลิกาดง"นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดที่โดนนำไปก่อนจากจุดโทษของวอลเตอร์ส ก่อนได้กาบายปั่นฟรีคิกและซิสเซ่ยิงประตูชัยทดเจ็บพาทีมพลิกซิว 2-1 ขึ้นอันดับ 13 ห่างโซนตกชั้น 9 แต้ม 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค 

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2556
 

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2:1 สโต๊ค ซิตี้ 

ประตู
 : 0-1 วอลเตอร์ส(จุดโทษ) นง67, 1-1 กาบาย น.73, 2-1 ซิสเซ่ น.90+2 

ครึ่งแรก 

เปิดฉากมา 10 นาทีแรกยังไม่มีอะไรกันมากมาย แม้ช่วงต้นเลยจะเป็นทางสโต๊คที่ได้บุกต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีอะไร ส่วนนิวคาสเซิ่ลมีได้จบไปทีจากการโต้กลับแล้วมายิงไกลของซิสโซโก้แต่ก็หลุดเป้าไปพอสมควร 

หลังจากนั้นมาก็เป็นโอกาสของ"สาลิกาดง"อีกครั้ง หนนี้ก็มาจากการยิงไกลระยะเกือบ 25 หลาหน้าเขตโทษของกาบายแต่ก็ยังไม่เข้าเป้าบอลลอยหลุดเสาไกลออกหลังไปไม่เท่าไหร่ 

เจ้าบ้านยังมาอย่างต่อเนื่องได้จบอีกแล้วจากบอลทางริมเส้นซ้ายเปิดเข้ากลางไปโดนโหม่งสกัดออกมาหน้าเขตโทษ โฮนาสเอาบอลลงได้เข้าซ้ายก่อนหลอกแตะเข้าขวาแล้วก็เลือกปั่นเลย แต่บอลก็ยังโค้งไม่พอหลุดเสาไกลออกหลัง 

ผลัดกันบุกสนุกพอตัวเหมือนกัน เริ่มต้นจาก"ช่างปั้นหม้อ"ได้ลุ้นจากจังหวะเคราช์ก่อนที่เอาบอลมาได้หน้าเขตโทษแม้จะใช้แขนช่วยแต่ไม่มีนกหวีดแล้วได้ยิงแค่ก็เบาไป ผลัดกันมาเป็นจังหวะของนิวคาสเซิ่ลบ้างซานตอนพาบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วสับด้วยขวาแต่ตรงตัวเบโกวิช 

นาที 36 โอกาสทองที่สุดจนถึงตอนนี้ของนิวคาสเซิ่ลก็ว่าได้จากจังหวะซานตอนให้กาบายทางริมเส้นซ้ายกลางสนามแล้วมองยาวก่อนเปิดตูมเดียวเข้าเขตโทษบอลข้ามหัวกองหลังสโต๊คไปแล้วตกใส่ตรงหน้าของกุฟฟร็องพยายามดีดแล้วแต่ยังแรงไปหน่อยบอลลอยหลุดคานไปซะงั้น

ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 41 โอกาสเป็นของ"สาลิกา"อีกแล้วจากบอลทิ้งไปทางซ้ายให้กับซานตอน ก่อนค่อยๆเลี้ยงจี้เข้ากรอบแล้วเลือกคืนมาหน้าเขตโทษให้กับกาบายตั้งป้อมยิงเข้าไป บอลมันไปแฉลบนิดนึงก่อนหลุดเสาออกหลัง สุดท้ายก็ยังเสมอกันอยู่ 0-0 

ครึ่งหลัง 

กลับมาครึ่งหลังก็ยังเป็นนิวคาสเซิ่ลดูได้ลุ้นกว่าหน่อยนึงและมีโอกาสลุ้นเกิดขึ้นจากติโอเต้กลางสนามเปิดบอลขึ้นหน้าให้ซิสโซโก้ทะลุไปทางขวา เบโกวิชออกมาปิดมุมไกลบีบให้ซิสโซโก้ต้องรีบยิง สุดท้ายก็ยังติดมือที่เอื้อมปัดไว้ได้เฉียดฉิวพอดี 

เกมไม่มีโอกาสลุ้นกันมากนักจนนาที 66 "สาลิกา"มาเสียจุดโทษจากจังหวะที่ติโอเต้ไปเสียบใส่วอลเตอร์สช้าจังหวะไปไม่รอดกรรมการแจกให้"ช่างปั้นหม้อ"ทันทีแล้วสุดท้ายก็เป็นวอลเตอร์สลุกมาสังหารเองไม่เหลือยิงไปคนละทางกับเอลเลียตพุ่งเลย สโต๊คออกนำแล้ว 1-0 

เจ้าบ้านเกือบได้จุดโทษเหมือนกันจากหลังสโต๊คไปจ่ายคืนหลังพลาดเกือบโดนซิสเซ่ฉก เดือดร้อนเบโกวิชต้องออกมาตัดบอลไวแล้วเข้าทางซิสโซโก้ได้เลี้ยงจี้เข้ามาอีกทีก่อนโดนทำฟาวล์ที่อีกแค่ก้าวเดียวก็เข้าเขตโทษแล้ว 

สุดท้ายจากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษดังกล่าวก็พาให้"สาลิกา"ตามตีเสมอสำเร็จจากการปั่นฟรีคิกของกาบายที่เรียกว่าหมดจดจริงๆ ส่งบอลข้ามกำแพงมาพุ่งหาเข้าสามเหลี่ยมชนอย่างจังหายเข้าประตูไปเลย นิวคาสเซิ่ลตามตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จแล้ว 

หลังจากนั้นเกมก็ดูเร้ากว่าเดิมทันที โอกาสอาจจะยังไม่มากแต่การบุกมาน่ากลัวทั้งสองสองฝั่ง นิวคาสเซิ่ลพยายามเสริมเกมรุกด้วยมาร์กโวซ์ลงมาแทนติโอเต้ ส่วนสโต๊คก็แอบลุ้นจากการยิงของวอลเตอร์สไปทีแต่ก็ติดบล็อก 

ท้ายเกมแล้วรูปเกมยังออกได้หมด โอกาสบุกยังเป็นของนิวคาสเซิ่ลมากกว่าแต่สโต๊คเองก็สวนขึ้นมาได้จบเหมือนกัน โอกาสจบมีอีกแล้วจากวอลเตอร์สตรงกรอบเขตโทษทางซ้ายแต่ก็ยิงหลุดไปแบบไม่ได้ลุ้น 

ทดเจ็บได้เฮกันลั่นเซนต์ เจมส์ ปาร์คเลยเพราะมาได้ประตูชัยจนได้จากบอลมาฝากให้กับมาร์กโวซ์หน้าเขตโทษเล็งอยู่นานก่อนจ่ายลูกคิลเลอร์ พาสให้กับซิสเซ่หลุดกับดักล้ำหน้าไปดวลกับเบโกวิชตรงเขต 6 หลาแล้วยิงแบบเน้นๆเข้าประตูไป นิวคาสเซิ่ลพลิกกลับนำ 2-1 จนได้ 

จบเกมนิวคาสเซิ่ลเอาชนะสโต๊คไปได้ 2-1 ทำให้สถานการณ์ดูดีกว่าเดิมเดียวขึ้นมาอยู่อันดับ 13 มี 33 แต้ม จะห่างวีแกนที่อยู่อันดับ 18 ถึง 9 คะแนนแม้จะแข่งมากกว่าเกมเดียวก็ตามและนี่ยังเป็นชัยชนะในบ้านเกมที่ 3 ติดกันด้วย 


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
 : โรเบิร์ต เอลเลียต, ดาวิเด้ ซานตอน (ไฮดาร่า น.73), มาปู ยานก้า-เอ็มบิว่า, มาติเยอ เดบูชี่, สตีเฟ่น เทย์เลอร์, โยฮัน กาบาย, มุสซ่า ซิสโซโก้, โฮนาส กูเตียร์เรซ, ชีค ติโอเต้ (มาร์กโวซ์ น.73), ปาปิส ซิสเซ่, โยอัน กุฟฟร็อง (เคมป์เบลล์ น.86) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : สตีฟ ฮาร์เปอร์, เวอร์น่อน อนิต้า, เจมส์ เพิร์ช, กาเบรียล โอแวร์ต็อ 

สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช, มาร์ก วิลสัน, ไรอัน ชอว์ครอส, แอนดี้ วิลกินสัน, ไรอัน ช็อตตัน, เจฟฟ์ คาเมร่อน, เกล็นน์ วีแลน, สตีเฟ่น เอ็นซองซี่, โจนาธาน วอลเตอร์ส, คาเมร่อน เจโรม (ไวท์เฮด น.88), ปีเตอร์ เคราช์ (โจนส์ น.85) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โธมัส โซเรนเซ่น, ชาร์ลี อดัม, ไมเคิล ไนท์ลี่ย์, เบร็ค เชีย, ไมเคิ่ล โอเว่น
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์