ซาไกพิฆาต!ซัดแฮทริกพาสิงโตถล่ม 4-0

ซาไกพิฆาต!ซัดแฮทริกพาสิงโตถล่ม 4-0 

เจอร์เมน เดโฟระเบิดฟอร์มการทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจัดการเหมาแฮทริกช่วยให้อังกฤษประเดิมเกมคัดเลือกยูโร 2012 ด้วยชัยชนะเหนือบัลแกเรียไปแบบขาดลอย 4-0 เก็บ 3 คะแนนแรกได้สมใจหมาย 

ยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่ม G 

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2553
 

อังกฤษ 4 : 0 บัลแกเรีย 

ประตู : 
1-0 เจอร์เมน เดโฟ น.3,2-0 เจอร์เมน เดโฟ น.61,3-0 อดัม จอห์นสัน น.83,4-0 เจอร์เมน เดโฟ น.86 

สิงโตคำราม อังกฤษลงเปิดเวมบลีย์ประเดิมสนามเกมแรกในรอบคัดเลือกยูโร 2012 ด้วยเสื้อชุดใหม่ที่โดนแฟนบอลด่าเละเทะว่าไม่รู้จะออกมาทำไม ในเมื่อฟอร์มห่วยแตก ฉะนั้นพวกเขาคงต้องโชว์ฟอร์มให้ดีให้ได้ในเกมนี้ 

สตีเว่น เจอร์ราร์ดยังคงรับหน้าที่เป็นกัปตันทีม เพราะริโอ เฟอร์ดินานด์ยังไม่สามารถกลับมาติดทีมได้ ซึ่งถือว่าฟาบิโอ คาเปลโล่มีปัญหาในการจัดทีมไม่น้อย เพราะขาดทั้งแฟรงค์ แลมพาร์ด และจอห์น เทอร์รี่ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ 

ซึ่งนั่นทำให้ต้องใช้ฟีล จาเกียลก้า และไมเคิ่ล ดอว์สันลงยืนคู่กันในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ในขณะที่แดนหน้าเป้นเจอร์เมน เดโฟจับคู่กับเวย์น รูนี่ย์ ในขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูก็เป็นโจ ฮาร์ทที่น่าจะยึดมือหนึ่งได้ถาวรเลย หากรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้ 

ครึ่งแรก 

เร็วเว่อร์ค้าบ!สิงโตนำแล้ว 
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที อังกฤษก็ได้ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วชนิดเหงื่อยังไม่ทันออก โดยต้องชมเวย์น รูนี่ย์ที่วิ่งอ้อมไปรับบอลจากแอชลี่ย์ โคลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะหยอดข้ามแผงหลังให้โคลวิ่งเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายยิงจังหวะแรกทันที แต่ติดเซฟของทางมิไฮลอฟ แต่บอลกระฺฉอกทำให้แบ็คซ้ายผิวสีจิ้มบอลต่อไปให้กับเจอร์เมน เดโฟที่ยืนรออยู่กลางประตูตวัดวอลเล่ย์ด้วยซ้ายยิงบอลเข้าไปตุงตาข่าย ทีมชาติอังกฤษออกนำไปก่อน 1-0 

เกมเริ่มทรงๆ 
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีแรกของเกม อังกฤษยังคงพยายามที่จะขึงเกมรุกบุกใส่ทางบัลแกเรีย แต่หลังจากได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว ก็ยังไม่สามารถถ่างแนวรับของทางบัลแกเรียเข้าไปลุ้นยิงประตูแบบจะแจ้งได้อีกเลย 

จอห์นสันจะยิงตัวเองเฉย 
นาทีที่ 20 โจ ฮาร์ทแทบจะอยากว๊ากใส่เกล็น จอห์นสัน เพราะอยู่ดีๆ พี่แกก็สกัดบอลที่บัลแกเรียเปิดมาจากด้านข้างอย่างกับก่ะว่าจะแปบอลให้เสียบเสาแรกไปซะอย่างนั้น แต่ยังดีที่ฮาร์ทไวรีบตะครุบบอลเอาไว้ก่อนที่จะไหลผ่านเส้นประตูไป 

จังหวะนี้เล่นเอาแบ็คขวาจากลิเวอร์พูลหน้าเสีย พร้อมกับชูนิ้วโป้งให้โจ ฮาร์ทที่ช่วยเซฟกู้ทั้งทีม และหน้าของตัวเองเอาไว้ได้ 

หมูเฟอะฟะโดนเฉ่ง 
อีก 3 นาทีต่อมา เวย์น รูนี่ย์เหมือนจะมองหาเพื่อนเพลิน จนทำให้แต่งบอลสองสามจังหวะ แล้วก็แตะบอลออกข้างสนามหน้าตาเฉย เล่นเอาแฟนบอลโห่ล้อ และทางฟาบิโอ คาเปลโล่ถึงกับต้องตะโกนเรียกเพื่อกระตุ้นให้มีสมาธิมากกว่านี้หน่อย 

ธีโอชิพได้เสียว 
นาทีที่ 31 ธีโอ วัลค็อตต์เล่นฝืนจังหวะมากไปนิด หลังหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษไ้ด้ แต่เหมือนพยายามจะล็อคให้เข้าขวาเพื่อหาจังหวะยิงเหน่งๆ แต่ถูกกองหลังของบัลแกเรียยืนบังเอาไว้ เจ้าตัวเลยตัดสินใจชิพบอล ซึ่งก็ทำได้ดี บอลลอยเหมือนจะเสียวว่าเสียบคานพอดีหรือไม่ ทำให้มิไฮลอฟต้องตัดสินใจปัดทิ้งเพื่อเซฟเอาไว้ก่อน 

มิลเนอร์ปั่นได้สวย 
นาทีที่ 41 หลังจากเกมทำท่าจะตื้อ ๆ จนดูน่าเบื่อไปนิด ก็มาได้ลุ้นจากจังหวะที่เจมส์ มิลเนอร์ได้บอลทางกราบซ้าย เจ้าตัวรีบพาบอลจี้เข้าหากองหลังในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะหักเข้าขวาแล้วปั่นไปเสาสองทันที แต่ดูเหมือนว่าบอลจะถูกปลายสตั๊ดของกองหลังบัลแกเรีย ทำให้วิถีลูกโค้งไม่พอหลุดเสาสองออกไป 

ช่วงท้ายครึ่งแรก จอห์นสันเกือบทำเพื่อนงานเข้าหลังป้ายบอลคืนให้สั้นเกิน ยังดีที่เพื่อนสกัดออกมาได้ทันก่อน ไม่งั้นงานนี้ฮาร์ทอาจต้องได้ดวลเดี่ยวกับแข้งบัลแกเรียแน่นอน ทำให้จบ 45 นาทีแรก อังกฤษที่ดูๆไปแล้วฟอร์มก็ไม่ได้ถือว่าดีสักเท่าไรออกนำบัลแกเรียไปก่อน 1-0 

ครึ่งหลัง 

หมูชิพเกือบได้เฮ 
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 5 นาที จากจังหวะโยนยาวของฮาร์ทไปถึงเจอร์เมน เดโฟที่โหม่งชงกลับหลังให้กับเวย์น รูนี่ย์หน้ากรอบเขตโทษ ตอนแรกไอ้หมูพยายามดึงบอลรอเพื่อนเติมขึ้นทางขวา แต่พอเห็นว่าไม่มีใครเติมก็จัดการชิพระยะไกล ทั้งน้ำหนัก และทิศทางพอดีเป๊ะ แต่ทางมิไฮลอฟยังถอยไปปัดทิ้งออกหลังได้ทันเวลา 

สิงโตเกือบโดนตีเจ๊า 
นาทีที่ 53 อังกฤษที่กำลังพยายามตั้งเกมบุกในช่วงครึ่งหลังเพลินๆ เกือบโดนพังประตูตีเสมอแล้ว จากจังหวะที่ฟีล จาเกียลก้าก่ะจังหวะขึ้นโหม่งบอลไม่ดีนัก ทำให้บอลตกพื้นก่อนที่จะมีช่องว่างเบ้อเริ่มทำให้โบยินอฟจ่ายบอลต่อให้โปปอฟทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะตัดสินใจซัดทันที แต่บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูออกไป 

อูวว์!ดอว์สันเข่าบิดน่าหวาดเสียว 
อีกเพียงแค่ 1 นาทีต่อมา แฮร์รี่ เร้ดแนปป์กุนซือของสเปอร์สถึงกับร้อง เพราะไมเคิ่ล ดอว์สันที่เบียดไปกับผู้เล่นของบัลแกเรีย จนทำให้ตัวเองล้มแล้วผิดท่าข้อเท้า กับเข่าบิดฝืนธรรมชาติ เจ้าตัวลงไปนอนร้องโอดโอยออกมาชัดเจนเลยว่า Help Me! ซึ่งเป็นจังหวะที่กล้องสูบเข้าไปพอดี ท่าทางอาจจะต้องพักยาวเลยก็เป็นได้ 

ทำให้ต้องห่ามส่งเขาออกนอกสนาม พร้อมกับสีหน้าที่เจ็บปวดสุดๆ พร้อมกับเปลี่ยนเอาแกรี่ เคฮิลล์ลงไปเล่นแทน ซึ่งถือว่าเป็นการประเดิมสนามของเขาด้วย 

งานนี้แฟนบอลอังกฤษคงต้องลุ้นกันเสียวหน่อย เพราะเคฮิลล์เพิ่งจะลงสนามให้กับทีมชาติเป็นครั้งแรก ต้องจับคู่กับจาเกียลก้าที่เพิ่งผ่านชั่วโมงบินกับอังกฤษมาเพียงแค่ 5 เกมเท่านั้น 

สิงโตรอดตาย-สวนแล้วเดโฟซัดหาย 
นาทีที่ 61 อังกฤษใช้จังหวะสวนกลับแบบมีประสิทธิภาพสุด ๆ จากจังหวะที่เกือบเสียประตูจากจังหวะที่บัลแกเรียหลุดเข้าไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะป้ายเข้ากลางให้อังเกลอฟวิ่งมาซัดเหน่งๆ แต่ติดเซฟของโจ ฮาร์ท 

ก่อนที่อังกฤษจะรีบสวนกลับ บอลจ่ายไปยังเวย์น รูนี่ย์ที่แทงบอลให้กับเจอร์เมน เดโฟหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วจิ้มบอลลอดดากมิไฮลอฟที่พยายามจะพุ่งออกมาบล็อกเข้าไปอย่างสวยงาม อังกฤษนำห่าง 2-0 แล้ว 

ฮาร์ทเซฟอย่างเมพพพ!!! 
อีก 4 นาทีต่อมา ความผิดพลาดของกองหลังอังกฤษทำให้แรงเกลอฟที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนโบยินอฟที่ได้รับบาดเจ็บ ได้โอกาสยืนยิงเหน่ง ๆ คนเดียวในกรอบเขตโทษ แต่ติดเซฟของโจ ฮาร์ทที่เพิ่งออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่เซฟลูกยิงของแรงเกลอฟด้วยมือเดียว ช่วยให้อังกฤษรอดพ้นจากการเสียประตูอีกครั้ง 

เดโฟเกือบได้แฮทริก 
นาทีที่ 74 เจอร์เมน เดโฟหวิดที่จะทำแฮทริกไปแค่นิเดียวเท่านั้น จากจังหวะซัดไกลนอกกรอบเขตโทษของสตีเว่น เจอร์ราร์ดที่กดเน้น ๆ บอลพุ่งเข้ากรอบ มิไฮลอฟล้มตัวปัดเอาไว้ได้ แต่บอลลอยเด้งขึ้นมาสูง เดโหไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าหาบอลเพื่อจะซ้ำให้เป็นประตู แต่มิไฮลอฟยังไวรีบปัดบอลทิ้งออกไปได้ทัน 

จอห์นสัน(ซิตี้)เอาจนได้ 
นาทีที่ 83 อดัม จอห์นสันที่ลงมาเล่นแทนธีโอ วัลค็อตต์ก็มาทำประตูได้ หลังจากพยายามไปก่อนหน้านี้แต่พลาดจนคาเปลโล่หัวเสียพอสมควร แต่จังหวะนี้เขารับบอลจากรูนี่ย์ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะล็อคเข้าซ้ายแล้วจัดการซัดไปเสาแรกไม่เหลือ อังกฤษทิ้งห่าง 3-0 

เดโฟแฮทริกกกก!! 
นาทีที่ 86 ในที่สุดเจอร์เมน เดโฟก็ทำแฮทริกจนได้่ จากการจ่ายของเวย์น รูนี่ย์ที่วันนี้เอะอะพี่แกปั้นให้เพื่อนทำประตูอย่างเดียว ให้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แตะหนีตัวประกบก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายผ่านตัวมิไฮลอฟเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม อังกฤษถล่ม 4-0 แล้ว 

แต่จังหวะนี้ก็ทำให้เดโฟเจ็บข้อเท้าไป เพราะโดนกองหลังของบัลแกเรียเข้าเสียบสกัด งานนี้จ่าแฮร์รี่เซงหนักแน่นอน 

จบ 90 นาทีอังกฤษเก็บชัยชนะในเกมคัดเลือกยูโร 2012 ในเกมแรกกับบัลแกเรียไปได้ 4-0 เก็บ 3 คะแนนเต็ม 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

อังกฤษ : 
โจ ฮาร์ท,ฟีล จาเกียลก้า,แอชลี่ย์ โคล,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,เกล็น จอห์นสัน,สตีเว่น เจอร์ราร์ด,แกเร็ธ แบร์รี่,เจมส์ มิลเนอร์,ธีโอ วัลค็อตต์,เจอร์เมน เดโฟ,เวย์น รูนี่ย์ 

บัลแกเรีย : นิโกลาย มิไฮลอฟ,อีลิยาน มิลานอฟ,อีวาน อีวานอฟ,มาโนเลย์,สติลิยาน เปตรอฟ,มาร์ติน เปตรอฟ.สตานิลาฟ อังเกลอฟ,ชาฟดาร์ ยานคาฟ,วาเลรี่ โบยินอฟ,อีเวลิน โปปอฟ 



 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์