ชื่นมื่น!บาร์ซ่าบุกโซ้ยมิลานหวิว 3-2 ควงกันเข้ารอบ


ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม H 

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554
 

 เอซี มิลาน 2 : 3 บาร์เซโลน่า  

สนาม : ซาน ซีโร่ 

ประตู : 0-1 มาร์ค ฟาน บอมเมล (ทำเข้าประตูตัวเอง น.14), 1-1 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช น.20, 1-2 ลิโอเนล เมสซี่ (จุดโทษ น.31), 2-2 เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง น.54, 2-3 ชาบี เอร์นานเดซ น.63
 
ครึ่งแรก 

แทนคุณ!บอมเมลสงเคราะห์ประตูให้บาร์ซ่า 
เปิดฉากมาได้ 14 นาทีบาร์เซโลน่าก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่เมสซี่ตักบอลเข้าไปทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษให้กับทางเกอิต้าที่จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตวัดเข้ามาที่หน้าประตูแล้วเป็นบอมเมลอดีตเด็กเก่า"อาซูลกราน่า"ที่วิ่งมาสกัดจนทำบอลเข้าไปตุงตาข่าย 

เชสก์วอลเล่ย์เต็มข้อ 
อีก 3 นาทีถัดจากนั้นอัลคันทาร่าลากบอลลุยเข้าไปทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษก่อนชิพบอลไปที่เสาแรกให้ฟาเบรกาสตามเข้าไปวอลเล่ย์ติดเซฟของอับเบียติ 

โรบินโญ่พลาดเหลือเชื่อ 
นาที 19 อิบราฮิโมวิชกระชากบอลขึ้นไปทางด้านซ้ายก่อนเปิดเลียดผ่านหน้าปากประตูไปเข้าทางบัวเต็งที่ยิงสวนกลับมาให้โรบินโญ่ชาร์จที่ระยะแค่ 4 หลาแต่ข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ 

อิบรายิงอย่างเฉียบ 
อีกหนึ่งนาทีให้หลังความพยายามของ"รอสโซเนรี่"ก็มาประสบผลเมื่อเซดอร์ฟได้บอลยาวจากกลางสนามก่อนจ่ายไซด์ก้อยจากทางด้านซ้ายเข้าไปให้อิบราฮิโมวิชวิ่งสอดเข้าไปยิงสวนตัวบัลเดสที่เสาแรกเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1 

เมสซี่อัดชนคาน 
นาที 22 "บาร์ซ่า"น่าได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อชาบีแทงบอลออกขวาให้ฟาเบรกาสสปีดเข้าไปล้มตัวเปิดบอลเลียดเข้ามาให้เมสซี่ที่โดนอบาเต้เบียดอยู่ด้วยเข้าชาร์จจ่อๆที่กรอบ 6 หลาไปชนคานอย่างน่าเสียดาย 

เมสซี่ซัดโทษสองหนให้บาร์ซ่านำ 2-1 
อย่างไรก็ตามยอดทีมคาตาลันก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาที 31 หลังชาบีทำชิ่งกับฟาเบรกาสแล้วไปโดนอาควิลานี่เหนี่ยวตัวในเขตโทษจนล้มลงไปซึ่งผู้ตัดสินก็เป่าเป็นจุดโทษทันทีแล้วก็เป็นเมสซี่ที่รับอาสายิงครั้งแรกเข้าประตูแต่ดันไปดึงจังหวะหลอกอับเบียติจึงโดนใบเหลืองไปพอมายิงหนสองเลยซัดตูมเดียวเข้าไปเสียบมุมทางเสาขวา 

อับเบียติเซฟอย่างสวย 
พอนำบอลกลับมาเล่นกันใหม่ทางทีมเยือนก็โหมบุกอีกครั้งแล้วเป็นเมสซี่ที่กระชากบอลลุยเข้าหาเขตโทษก่อนจ่ายออกซ้ายไปให้บีญ่าจับบอลหนึ่งจังหวะแล้วกระทุ้งไปติดเซฟของอับเบียติจนได้เป็นเพียงแค่ลูกเตะมุมเท่านั้น 

บัวเต็งกระทุ้งหนักจริง 
นาที 38 ชาบีมาทำพลาดเสียบอลให้กับโรบินโญ่และหัวหอกแซมบ้าก็โยนบอลไปให้บัวเต็งทางด้านขวาของเขตโทษซึ่งเขาก็ยิงยัดเข้ามาที่ประตูแต่บัลเดสพุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน 

เมสซี่ลากหลบสามจนได้ยิง 
นาทีต่อมาเมสซี่งัดโชว์สเต็ปเลื้อยผ่านบอมเมล,เนสต้าก่อนกระชากหนีอบาเต้ที่ยืนเป็นคนสุดท้ายจนได้ง้างเท้าซ้ายข้างถนัดยิงไปติดเซฟของอับเบียติที่ล้มตัวดักได้ไม่พลาด 

ธิอาโก้โขกถากเสา 
ท้ายครึ่งแรก"ปีศาจแดง-ดำ"โหมบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่องและลูกเตะมุมทางด้านซ้ายที่เซดอร์ฟโยนเข้ามาที่เสาแรกก็ถูกธิอาโก้ ซิลวาเทคตัวเข้าโหม่งหลุดกรอบไปนิดเดียว ทำให้สกอร์ยังหยุดอยู่ที่บาร์เซโลน่านำ 2-1 

ครึ่งหลัง 

เมสซี่ซัลโวเข้าข้างตาข่าย 
เข้าสู่ครึ่งหลังมิลานปรับทัพด้วยการส่งปาโต้ลงมาล่าตาข่ายแทนโรบินโญ่แต่บาร์เซโลน่าก็ลุยต่อโดยในนาที 51 ฟาเบรกาสจ่ายบอลไปทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษให้เมสซี่ใช้ความเร็วสปีดตามไปซัดให้หนีมืออับเบียติจนหลุดไปเข้าข้างตาข่ายที่เสาแรก 

บัวเต็งเอาจนได้ 
ความพยายามในการลุ้นประตูครั้งที่ 4 ของบัวเต็งมาสำเร็จผลในนาที 54 เมื่อเขาเกี่ยวบอลที่มาสเชราโน่โหม่งสกัดไม่ดีได้ที่เขตโทษด้านขวาก่อนแตะหนีอบิดัลเข้าไปยิงยัดใส่บัลเดสที่เสาแรกจนตาข่ายสะเทือน ทำให้มิลานตามตีเสมอเป็น 2-2 

เมสซี่จ่ายโคตรเทพ-ชาบีจบสกอร์ 
แต่แล้วในนาที 63 เมสซี่ก็มาโชว์เครื่องหมายการค้าอันใหม่อย่างการจ่ายคิลเลอร์พาสขั้นเทพที่บอลทะลุช่องฝ่าผู้เล่นมิลานไปได้ 4 คนจนชาบีที่วิ่งสอดเข้าไปในเขตโทษจัดการซัดผ่านมืออับเบียติไปเสียบเสาขวาให้ทีมเยือนนำอีกครั้งเป็น 3-2 

ซานเชซยิงเป็นชุดไม่ได้ประตู 
นาที 69 มิลานหวิดพังด้วยลูกฟรีคิกที่อัลคันทาร่าเปิดบอลเข้าไปให้อเล็กซิซที่เพิ่งลงสนามมาแป๊ปเดียวเข้าชาร์จไปติดเซฟของอับเบียติและแม้ว่าแข้งชิเลี่ยนลุกขึ้นมาซ้ำแต่ก็ยังไม่ได้ประตู 

เชสก์ออก-เปโดรเข้า 
เกมผ่านมาถึงนาที 80 บาร์เซโลน่าก็ถือโอกาสปรับทัพด้วยการส่งเปโดรลงมาลุยแทนฟาเบรกาสซึ่งเป๊ป กวาณ์ดิโอล่าคงหวังใช้ความเร็วของนักเตะเล่นงานมิลานในจังหวะสวนกลับนั้นเอง 

จบเกมทั้งสองทีมควงเข้ารอบ 
ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านพยายามเดินเครื่องหวังตีเสมอแต่ก็ไม่สำเร็จจบเกมบาร์เซโลน่าบุกทุบเอซี มิลานได้ถึงซาน ซีโร่ด้วยสกอร์ 3-2 ทำให้พวกเขาคว้าตั่ซเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จในฐานะทีมแชมป์จากกลุ่ม H แถมยังเพิ่มสถิติไม่แพ้ใครเป็น 22 นัดจากทุกรายการ (ชนะ 16 เสมอ 6) ขณะที่"ปีศาจแดง-ดำ"ก็เข้ารอบในฐานะที่สองของกลุ่มแต่ต้องจบสถิติไม่แพ้ใคร 8 นัดติดจากทุกรายการไว้เพียงเท่านี้ 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

เอซี มิลาน : 
คริสเตียน อับเบียติ 6.5, อิ๊กนาซิโอ อบาเต้ 6, ติอาโก้ ซิลวา 6, อเลสซานโดร เนสต้า 6  (ดานิเอเล่ โบเนร่า น.66), จิอันลูก้า ซามบร็อตต้า 5.5 , อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ 5.5 , มาร์ค ฟาน บอมเมล 5.5   (อันโตนิโอ โนเชริโน่ น.72, N/A), คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ 6 , เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง 7.5 , โรบินโญ่ 4.5 (อเล็กซานเดร ปาโต้ น.46, 6), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 7  

สำรองไม่ได้ใช้ : มาร์โก อเมเลีย, ลูก้า อันโตนินี่, เออร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน, มัสซิโม่ อัมโบรซินี่, 

เทรนเนอร์ : มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี 

บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส 6, การ์เลส ปูโยล 6 , เซย์ดู เกอิต้า 6.5, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 6 , เอริค อบิดาล 6.5 , ชาบี เอร์นานเดซ 7.5 , เซร์กิโอ บุสเก็ตส์ 6.5, เชส ฟาเบรกาส 7 (เปโดร โรดริเกวซ น.80, N/A), ธิอาโก้ อัลคันทาร่า 6.5 (โจนาธาน ดอส ซานโต๊ส น.90, N/A), ลิโอเนล เมสซี่ ***8   , ดาบิด บีญ่า 5.5 (อเล็กซิช ซานเชซ น.68, 6) 

สำรองไม่ได้ใช้ : โฆเซ่ ปินโต้, แม็กซ์เวลล์, เคราร์ด ปิเก้, แอนดรู ฟอนตาส 

เทรนเนอร์ : โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า
 


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์