ชั่วโมงนี้ต้องเบล!ยิงสองอย่างสวยไก่จิกนิว 2-1ขึ้นที่ 3


 
ฮอตจริงอะไรจริงสำหรับแกเร็ธ เบลที่แม้จะพลาดแฮทริกแต่ก็ยิงฟรีคิกสุดสวยกับประตูชัยสุดคมช่วยให้ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สที่เอาชนะนิวคาสเซิ่ลซึ่งนอกจากจะแพ้ยังต้องเสียโยฮัน กรุฟฟร็องน์ที่เจ็บหนักหลังยิงเปิดซิงได้ไป 2-1 แซงเชลซีขึ้นที่ 3 ชั่วคราวก่อนเลย

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556


ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส 2 - 1 นิวคาสเซิ่ล

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน

ประตู :
1-0 เบล น.5, 1-1 กรุฟฟร็องน์ น.24, 2-1 เบล น.78

สเปอร์สเปิดบ้านหวังเก็บชัยชนะต่อเนื่องหลังจากนัดที่แล้วเลิกเสมอแล้วเก็บ 3 คะแนนแบบเต็มมือได้ จนทำให้ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 4 ของตาราง

เบลคือจอมทัพที่เป็นตัวลุยให้กับเจ้าบ้านในเกมที่ไร้ซึ่งหัวหอกในแดนหน้าเพราะข่าวร้ายคือเดโฟต้องพักยาวถึง 3 สัปดาห์ ส่วนอเดบายอร์ก็ยังไม่ฟิตพอเพราะเพิ่งกลับมาจากการรับใช้ชาติ

ตัวอื่นๆใช่ย่อยเหมือนกันสำหรับ ไก่เดือยทอง เรียงหน้ากันมาเลยไม่ว่าจะเป็นเลนน่อน, โฮลท์บี้หรือเด็มเบเล่ที่พร้อมวิ่งวนสลับสอดแทรกไปช่วยกันยิงอยู่แล้ว

นิวคาสเซิ่ลยังคงเน้นไปที่พลพรรคทัพฝรั่งเศสเหมือนเดิม มีทั้งกาบาย, เดบูชี่, ซิสโซโก้และกรุฟฟร็องน์ในแดนหน้า

นิวคาสเซิ่ลเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นกับฟอร์มของทีมที่กลับมาชนะ 2 เกมติดได้และถ้าเก็บนี้พวกเขาเก็บ 3 คะแนนเต็มก็มีลุ้นไต่ถึง 3 อันดับบนตารางพรีเมียร์ ลีก

ครึ่งแรก

ชั่วโมงนี้ของเขา!หน้าลิงปั่นฟรีคิกเฉียบสุดตีน
นาทีที่ 5 สุดยอดเทคนิคในการยิงฟรีคิกโดยแท้สำหรับเบลที่ชั่วโมงนี้แรงเกินใคร เมื่อสเปอร์สได้ลูกตั้งเตะตำแหน่งน่ารักน่าชิงหน้ากรอบเขตโทษ เบลรับอาสาเป็นคนสังหารวิ่งเข้าสะบัดหลังเท้ายิงลูกพุ่งปั่นเหินก่อนฮุคข้ามกำแพง ตกพื้นก่อนหนึ่งทีแล้วเข้าไปสัมผัสตาข่ายชนิดที่ครูลบินยังไงก็ไม่ไหว เพราะลูกนี้เบียดเสาพอดีเป๊ะเลย เจ้าบ้านชิง 1-0


นิวมีมึนเลยงานนี้
เสียซะเร็วก็ต้องเมาหมัดกันบ้างสำหรับนิวคาสเซิ่ลที่โดนลูกยิงฟรีคิกของเบลเข้าไป แม้ว่าตอนแรกจะพยายามฮึดเอาคืนแต่ยังเร่งกันไม่ค่อยขึ้น สเปอร์สเองคึกอยู่แล้วเลยดาหน้าใส่เหมือนเคย ยากเลยสำหรับเกมนี้ของพาร์ดิว

ยากไป!ซิสเซ่โหม่งย้อนหลุดกรอบ
นาทีที่ 19 ถ้าเล็งเหลี่ยมนี่ล่ะก็ยากไปหน่อยสำหรับโอกาสลุ้นประตูของนิวคาสเซิ่ลที่จัดการเปิดบอลพุ่งทะแยงไปเสาไกลให้กับซิสเซ่ขยับหนีกับดักล้ำหน้าเข้าไปโหม่งย้อนศรไปเสาสองเพราะมันสุดตัวแล้ว แต่บอลไม่เสียบเสาดั่งใจ หลุดออกหลังไปนั่นเอง

ซิงแตก!กุฟฟร็องน์ยิงแฉลบพานิวตีเจ๊า
นาทีที่ 24 เกมนี้ไม่มีใครยอมใครซะแล้ว เพราะนิวคาสเซิ่ลที่แม้ว่าเกมจะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ก็ถือว่าได้ประตูตีเสมอกลับมาเร็วจากจังหวะที่กรุฟฟร็องน์ฉีกไปเอาบอลที่เพื่อนเปิดย้อนมาโดยไม่มีตัวประกบ ก่อนจะเอี้ยวตัวซัดหมายไปเสาไกล แต่บอลแฉลบหลังของดอว์สันที่พยายามเข้าบล็อกจนเปลี่ยนทางเข้าประตู นับหนึ่งกันใหม่สำหรับเกมนี้

นิวเกมดูดีขึ้นมาทันตา
หลังจากได้ประตูตีเสมอเหมือนเกมของนิวคาสเซิ่ลจะดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนมีหลายจังหวะที่ได้ขยับทำเกมขึ้นไปป้วนเปี้ยนในฝั่งของสเปอร์สแบบต่อเนื่องให้เห็น ด้านเจ้าบ้านมีลุยเหมือนกัน แต่คงต้องบอกว่ายังไม่สุดพอ

น่าจะดีกว่านี้นะเดบูชี่
นาทีที่ 43 จังหวะสวนกลับของนิวคาสเซิ่ลเกือบจะสวยงามอยู่แล้วเชียว เพราะซิสเซ่พลิกพาเอาบอลไปได้ ก่อนที่จะจิ้มออกข้างให้กับเดบูชี่ที่วิ่งเติมขึ้นมาเปิดจังหวะเดียว หมายให้เพื่อนที่ควบทำทางอยู่อีกฝั่งได้แตะหลุดเข้าไปหล่อญอริสให้หายอยาก แต่กลายเป็นว่าเปิดแรงเกิน บอลหลุดออกข้างไปโน่นเลย

จบ 45 นาทีแรกของเกมที่พอเสมอก็สูสีกันจริงๆ สเปอร์ส 1 นิวคาสเซิ่ล 1 ต้องดูว่าโบอาสจะมีวิธีแก้เกมยังไงให้ทีมเจาะเข้าไปถึงพื้นที่สุดท้ายของนิวคาสเซิ่ให้ได้ ส่วนนิวคาสเซิ่ลกำลังดีขึ้นเรื่อยๆปรับอีกนิดคงมีลุ้นอีกตุง

ครึ่งหลัง

ถึงเลือด!วอล์คเกอร์รับน้องกุฟฟร็องน์จนขึ้นเปล
นาทีที่ 55 เป็นจังหวะที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลย เมื่อกุฟฟร็องน์เข้าถึงบอลในจังหวะ 50-50 กับทางวอลเกอร์ จนไปโดนเอาปุ่มสตั๊ดที่แบ็คสเปอร์สหงายเข้ามาเตะหวดบอลเสียบเข้าไปที่หน้าแข้งจนทำให้ล้มกลิ้งลงไป ก่อนจะเปิดสนับเผยให้เห็นถึงแผลเหวอะที่เฉือนเนื้อหลุดจนเลือดไหลริน สุดท้ายต้องมีการปฐมพยาบาลและให้อ๊อกซิเจนกันแล้วหามขึ้นเปลไปในที่สุด น่าเห็นใจอย่างแรงที่การนัดเปิดซิงประตูของตัวเองต้องมาเจ็บเยอะแบบนี้สำหรับกุฟฟร็องน์


นิวคาสเซิ่ลจึงจำต้องเปลี่ยนเอามาร์กโวซ์ลงไปเล่นแทน

โดน ... โดนแล้วล่ะ!หน้าลิงถูกเสียบคว่ำ
จังหวะลุ้นประตูไม่มี แต่จังหวะบาดเจ็บมีมาเรื่อยๆสำหรับเกมนี้เมื่อเบลได้บอลมาจากเลนน่อนก่อนที่จะพยายามใช้สปีดลิงวิ่งกระชากพาหนี แต่โดนเพิร์ชพุ่งเข้าเสียบก่อนจังหวะลงพื้นจะผิดเหลี่ยมข้อเท้าพลิกจนกลิ้งเจ็บไป แต่แกร่งน่าดูเพราะกลับมาเล่นต่อได้เหมือนเดิม

ต้องลงแล้ว!บ้ายอร์ยืนหน้าให้ไก่
นาทีที่ 69 รอช้ากว่านี้ท่าไม่ดีแน่นอนสำหรับสเปอร์สที่ต้องส่งอเดบายอร์ลงไปเล่นแทนโฮลท์บี้เพื่อให้ทีมมีศูนย์หน้าคอยค้ำแนวรับของนิวคาสเซิ่ล เปิดมิติให้ทีมเพิ่มมากขึ้น

เกมอืดๆตันๆอีกแล้ว
เหมือนจะลุยใส่กันได้พักหนึง แต่ตอนนี้เกมของทั้งสองทีมมันเป็นตันๆอีกครั้งหนึง นิวคาสเซิ่ลเหมือนจะตื้อไปหลังบุกไม่ขึ้น ส่วนสเปอร์สก็เล่นเรื่อยๆ ได้อเดบายอร์มาก็จริง แต่ดูยังตามเกมไม่ทันเท่าไหร่

พลาดงี้ก็เสร็จสิ!หน้าลิงฉกไปยิงอย่างคม
นาทีที่ 78 พลาดเองชัดๆสำหรับกองหลังของนิวคาสเซิ่ลในจังหวะที่ขยับขึ้นไปยืนสูง เทย์เลอร์พยายามชิ่งโหม่งตรงกลางสนามเก็บบอลไม่ได้ เห็นมีโคลอชชินี่อยู่ใกล้เลยพยายามจะเรียกให้เพื่อนมาเอาบอล สุดท้ายกัปตันทีมออกตัวช้าโดนเบลวิ่งควบเข้าฉก ก่อนแปบอลผ่านตัวของครูลเข้าประตูไป สเปอร์ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากหน้าเดิมอย่างเบลที่ยิงไป 4 ประตูจากการลงเล่น 3 เกมหลังสุด

ครูลเซฟโคตร!หน้าลิงเกือบแฮทริก
จังหวะสวนกลับของสเปอร์สเกือบจะทำให้พวกเขาได้ประตูนำห่าง เมื่อเบลแตะบอลหนีกองหลังของนิวคาสเซิ่ลไปได้ ก่อนที่จะเงยหน้าเล็งแล้วซัดนอกกรอบด้วยเท้าซ้ายเต็มตีน แม้ว่าบอลจะพุ่งแรงแถมฮุคเร็ว แต่ก็ไม่ผ่านครูลที่ดีดตัวปัดเสยออกหลังไปได้เยี่ยม

แม้ว่านิวคาสเซิ่ลจะพยายามเอาคืนในช่วงเวลาที่เหลือ ได้ลุ้นสุดก็จังหวะอเมโอบี้ลุยเข้าไปยิงแต่ติดเซฟของญอริสซะก่อน แถมเบลยังเกือบทำแฮทริกได้จากลูกยิงด้วยขวาโล่งๆแต่บอลเหินคานออกไป ทำให้จบ 90 นาทีจึงเป็นท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สที่เฉือนเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 มีเพิ่มเป็น 48 คะแนนขึ้นที่ 3 ชั่วคราวก่อนเอาใจแช่งเชลซีที่จะลงเตะในรอบ 4 ทุ่มให้สะดุด

ด้านนิวคาสเซิ่ลเศร้าใจนัก เพราะอุตส่าห์ฟอร์มดีขึ้นชนะมา 2 เกมสุดท้ายก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ในนัดนี้ มี 27 คะแนนเท่าเดิม ยังอยู่กึ่งๆระหว่างกลางกับท้ายตาราง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส
: ฮูโก้ ญอริส, ไคล์ นอจ์ตัน(เอก็อตโต้ น.74), มุสซ่า เด็มเบเล่(ลิเวอร์มอร์ น.90), ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ไคล์ วอล์คเกอร์, แอร่อน เลนน่อน, สก็อตต์ ปาร์คเกอร์, เลวิส โฮลท์บี้(อเดบายอร์ น.69), สตีเว่น คอลเกอร์, คลิ้นท์ เด็มป์ซี่ย์, แกเร็ธ เบล


สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด ฟรีเดล, แยน แฟร์ทองเก้น, วิลเลี่ยม กัลลาส, กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน

นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล, ดาวิเด้ ซานตอน, โยฮัน กาบาย, มาติเยอ เดบูชี่, สตีเว่น เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ้ โคลอชชินี่, มุสซ่า ซิสโซโก้, เจมส์ เพิร์ช(ทิโอเต้ น.82), โยนาส กูเตียร์เรซ(อเมโอบี้
น.86), ปาปีส ซิสเซ่, โยฮัน กรุฟฟร็องน์(มาร์กโวซ์ น.59)

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : สตีฟ ฮาร์เปอร์, เวอร์นอน อนิต้า, มาโป แยงก้า-เอ็มบีว่า, กาเบรียล โอแบร์ตอง















 


แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์