หลังจากรูดม่านการแข่งขันของลีกอันดับ 1 ของโลกอย่าง บาร์เคลย์ พรีเมียร์ลีก ผ่านมาแล้ว 7-8 นัดหลายๆทีมก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ หลายทีมก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง จัยังไงก็แล้วแต่ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ตอนนี้เพิ่งจะเข้าสู่ช่วง 10 นัดแรกยังไงก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไป กันตัดสินแชมป์กันจริงๆของพรีเมียร์ลีกจะเริ่มต้นที่ เดือน มีนาคม 2009
หลังจากที่แข่งขันกันไปแล้วนักเตะหลายๆคนก็เริ่มที่จะโชว์ฟอร์มอันโดดเด่นเตะตาออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน บางคนอาจจะเป็นดาวดังซุปเปอร์สตาร์ แต่บางคนก็โนเนม แต่สามารถทำผลงานได้อย่างสุดยอด เรามาดูกันดีกว่าครับว่าใครจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ประจำลีกที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ได้บ้าง
คนแรกผมของยกให้ อาเมอร์ ซากี้ กองหน้าเลือดมัมมี่ของ เดอะ ลาติกส์
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ากองหน้ารายนี้กำลังทำผลงานได้อย่างสุดยอดหลังจากจัดการซัดไปแล้ว 7 ประตูในลีกชื่อของ ซากี้ ก็ได้รับการจับตามองจากสื่อในอังกฤษ ก่อนหน้านี้ผมก็ที่จะบอกได้เลยว่าหลายๆคนไม่รู้จักกับกองหน้าเลือดมัมมี่รายนี้ ก่อนตลาดซื้อขายจะปิด สตีฟ บรูซ ทำการเซ็นสัญญายืมตัว ซากี้ มาจากทีมในลีกมัมมี่เป็นเวลา 1 ปี หลัวจากการประเดิมสนามแล้ว ซากี้ ก็ตอบแทนความไว้วางใจจาก สตีฟ บรูซ ด้วยการซัดประตูตั้งแต่การลงสนามนัดแรก
ผลงานที่สุดยอดของวีแกนไม่ได้อยู่ที่ ซากี้ คนเดียว แต่ผมมองดูแล้วควรจะยกเครดิตให้กับบรรดากองกลางของทีมอย่าง ปลาซิออส และ วาเลนเซีย ซึ่งทั้งคู่เป็นแรงขับเคลื่อนให้แดนกลางมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ต้องมาติดตามกันดูครับว่าหลังจากผ่านไปแล้ว 10 นัด อาเมอร์ ซากี้ คนนี้จะรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้นานแค่ไหน
คนที่ 2 ที่ผมจะนำเสนอก็คือ ธีโอ วัลค็อต ปีกทางเรียบของ เดอะ กันเนอร์
ทำไมผมถึงคิดว่า วัลค็อต น่าจะก้าวขึ้นได้ในปีนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ วัลค็อตจะย้ายมาร่วมชายคา อาร์เซน่อลเป็นเวลาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ส่วนใหญ่มักจะลงเล่นในฐานนะตัวสำรองซะมากกว่า แต่ในปีนี้ เวงเกอร์ ได้ให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นการยิงแฮตทริกในเกมส์ทีมชาติอังกฤษ ยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับกองหน้าเลือดผู้ดีรายนี้ หลังจากที่ คเล็บ ได้ย้ายไปร่วมชายคาบาร์ซ่าแล้ว วัลค็อตก็ได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจุดอ่อนของ วัลค็อต
จะอยู่ที่การยิงประตู แต่ผมเชื่อว่า เวงเกอร์ จะทำให้จุดอ่อนของวัลค็อตกลายเป็นจุดแข็งได้ในอนาคต และผมยังมีความเชื่ออีกอย่างว่า อนาคตอันใกล้ชื่องของ
ธีโอ วัลค็อต จะก้าวขึ้นมาและได้รับการเปรียบเทียบกับตำนาน ปีกจรวดทางเรียบ อย่าง มาร์ค โอเวอร์มารส์ ได้ในอนาคต
คนที่ 3 ที่ผมคิดว่ามีดีพอจะก้าวขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ก็คือ แอชลี่ย์ ยัง
ปีกซ้ายธรรมชาติค่าตัว 10 ล้านปอด์นตอนที่ย้ายจาก วัตฟอร์ด มาร่วมชายค่าที่ วิลล่า ปาร์ค ในตอนนั้นผมยังคงจำได้เลยว่าสื่อในอังกฤษต่างวิเคราะห์ไปต่างๆนานาว่าการทุ่มเงินก้อนโตของวิลล่าในครั้งนั้นเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าแน่นอน แต่ในปัจจุบันต้องบอกได้เลยว่าตำแหน่งปีกซ้ายในทัพสิงห์ผยองไม่มีใครที่จะเบียดนักเตะที่ชื่อว่า แอชลี่ย์ ยัง ได้สำเร็จจากลีลาการเล่นที่ดุเด็ดเผ็ดมัน มีความเร็วที่เป็นจุดเด่น ผมจึงไม่แปลกใจสักเท่าไรว่าทำไม โอนีล
ถึงจับ ยัง กับ อั๊กบอลลาฮอร์ มาเล่นเป็นกองหน้ากึ่งปีกทั้งคู่เนื่องจากความเร็วของทั้งคู่สร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้เสมอ แม้ว่าในทัพวิลล่า ยัง อาจจะไม่โดดเด่นเท่ากับ
อั๊กบอลลาฮอร์ และ คาริว แต่ ยัง ค่อนข้างจะมีประโยชน์กับทีมอย่างมหาศาล ต้องค่อยตามดูกันต่อไปว่า แอชลี่ย์ ยัง ในปีนี้จะก้าวขึ้นมาได้สำเร็จหรือไม่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
