จอมเฮบลู!ดร็อกฮีโร่กดชัยชิงเอฟเอคัพ
แฟนปืนใหญ่อาร์เซนอลได้ดูถ่ายทอดสดเอฟเอ คัพนัดแรกในฤดูกาลนี้ถึงกับเจ็บปวดไปถึงทรวงเมื่อทีมรักอดเข้าชิงชนะเลิศหลังนำก่อนแต่พ่ายให้คู่ปรับร่วมเมืองอย่างเชลซีที่ยิงแซงสองเม็ดโดยประตูชัยมาจากลูกทึกของดิดิเยร์ ดร็อกบาก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น
เอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2552
อาร์เซนอล 1-2 เชลซี
ประตู : 1-0 วัลค็อตต์ น.18,1-1 มาลูด้า น.33,1-2 ดร็อกบา น.83
ผู้ชม : 80,103 คน
ครึ่งแรก
แค่ 4 นาทีอาร์เซนอลที่เริ่มด้วยความกระตือรือร้นเกือบงานเข้าหลังลูกสาดยาวจากแดนหลังย้อยตกพื้นตรงหน้าเขตโทษเป็นฟาเบียงสกี้ออกมาเงอะงะสองจิตสองใจดร็อกบาโขกสวนบอลค่อยๆกลิ้งกำลังจะเข้าประตูที่ไม่มีใครอยู่แล้วแต่กิบส์กองหลังดาวรุ่งตัวสกัดก่อนข้ามเส้นอีก 2 หลาเท่านั้น
คู่นี้สูสีกันตามคาดเพราะหลังจากจังหวะดังกล่าวแล้วเกมผ่านมา 10 กว่านาทียังไม่มีโอกาสได้ยิงกันเลยเนื่องจากเป็นบอลทันกันเข้าถึงเนื้อถึงตัวกันตลอด
แต่แล้วนาที 18 ปืนใหญ่ได้ประตูจากโอกาสครั้งแรกจากจังหวะที่อเดบายอร์ไปพักบอลตรงปีกซ้ายก่อนยึกยักอยู่พักนึงแล้วแทงตัดไปเส้นหลังให้เคียราน กิบส์แบ็คดาวรุ่งเปิดบอลย้อยมาเสาสองตรงระยะ 8 หลาเป็นวัลค็อตต์แปด้วยอีซ้ายแบบไม่เต็มบอลแฉลบมือแอชลีย์ โคลเด็กเก่าจนปีเตอร์ เช็กเสียจังหวะบอลตกพื้นผ่านมือเช็กที่ล้มตัวปัดแล้วแต่ไม่ทันจริงๆ
เชลซีตอบโต้ทันทีและอีก 4 นาทีน่าจะตีเสมอได้หลังมาลูด้าวิ่งควบเอาบอลที่เพื่อนแทงเข้าในกรอบตรงฝั่งซ้ายก่อนล้มตัวสไลด์ยิงบอลทะลุใต้แขนฟาเบียงสกี้ที่ล้มช้าบอลผ่านเสาสองออกไปแบบเสียวกันทั้งสนาม
พอได้ประตูอาร์เซนอลหันมาใช้ลูกถนัดคือรับแล้วสวนกลับในขณะที่เชลซีเป็นฝ่ายชวนทะเลาะเน้นครองบอลเข้าทำมากกว่า
พูดไม่ทันขาดคำประตูคลาสสิคก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อนาที 33 ลูกวางยาวจากกลางสนามของบัลลัคมาตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายซึ่งมาลูด้าดูดลงราวกับเทพมาจุติจากนั้นแทนที่จะลากออกซ้ายเพื่อให้เข้าเท้าถนัดแต่กลับเลือกลากตัดเข้าในจนเอบูเอ้ขยับช้ากว่าและยิงหักข้อบอลเลียดยัดเสาแรกหมดปัญญาที่ฟาเบียงสกี้จะพุ่งถึง เสมอกันแล้วจ้า
อีก 4 นาทีต่อมาปืนใหญ่เกือบทำตัวให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากหลังเอาเกมรุกของเชลซีในหน้ากรอบเขตโทษตัวเองได้แล้วแต่เดนิลสันไม่ยอมเคลียร์ไปผ่านต่อให้เอบูเอ้ในเขตโทษจนเลื้อยหนีไม่พ้นอเนลก้าที่ฉกไปจากเท้าก่อนตะบันยิงเลียดด้วยอีซ้ายบอลชนเสาดังโครม
ครึ่งหลัง
เกมทำท่าจะไฟแลบเพราะทั้งคู่เปิดแลกกันทันทีเนื่องจากไม่มีใครอยากต่อเวลาให้เหนื่อยเปล่าโดยช่วงต้นครึ่งหลังลูกทีมกุส ฮิดดิงค์ได้กดดันจากลูกเตะมุม 2-3 ครั้งจนแนวรับปืนใหญ่วิ่งกันซี่โครงโผล่เลยทีเดียว
ก่อนถึงหนึ่งชั่วโมงนาทีเดียวการต่อบอล 3 จังหวะของอาร์เซนอลเกือบขึ้นนำหนสองจากลูกที่ดิยาบี้เลี้ยงฝ่าดงตีนเชลซีมาได้นิดนึงก่อนฝากให้อเดบายอร์ที่ป้ายต่อให้วัลค็อตต์ตบบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปเสาสองให้ฟาน
เพอร์ซี่แต่บอลนอกจากจะเผื่อแล้วยังแรงด้วยทำให้หอกทีมชาติฮอลแลนด์สไลด์มาทั้งตัวก็ยังไม่ทัน ถ้าบอลช้ากว่านี้อีกนิดนึงน่าจะเป็นประตูเลยทีเดียว
นาที 66 เทอร์รี่สไลด์สกัดวัลค็อตต์ตรงริมเส้นแต่บอลปลิ้นไปข้างหน้าทำให้ปีกลมกรดหลุดไปตบบอลจากเส้นหลังบอลเลยข้ามไปตรงกลางแต่เทอร์รี่ตีลังกาเคลียร์ทิ้งทันควัน
อีก 2 นาทีแลมพาร์ดทำชิ่งกับดร็อกบาที่ไปถึงกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วตบย้อนให้เพลย์เมคเกอร์หน้าใสวิ่งมาวอลเลย์กดลงพื้นตรงระยะ 10 หลาบอลถากข้างหน้าต่างออกไปสุดเสียว
เกมสูสีสุดๆจนโอกาสสวยๆเริ่มน้อยลงแต่แล้วนาที ทุกอย่างแทบจบเมื่อเชลซีสวมวิญญาณวิมเบิลดันเก่าจากจังหวะที่แลมพาร์ดวอลเลย์สาดยาวจากกลางสนามโด่งย้อยให้ดร็อกบาเบียดสู้กับซิลแวสตร์จนพินาศก่อนมาแตะหลบฟาเบียงสกี้ที่วิ่งหน้าตั้งออกมานอกเส้นก่อนแปโล่งๆบอลค่อยๆกลิ้งเข้าไป เชลซีพลิกนำ 2-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียงสกี้,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้,มิกาเอล ซิลแวสตร์,เคียราน กิบส์,เชสก์ ฟาเบรกัส,ธีโอ วัลค็อตต์,เดนิลสัน(นาสรี่ น.86),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่(อาร์ชาวิน น.75),เอ็มมานูเอล อเดบายอร์(เบนด์เนอร์ น.82)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : มาโนน,เบล่า,แรมซี่ย์,ซง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,อเล็กซ์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,มิชาเอล บัลลัค,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,มิกาเอล เอสเซียง,ฟลอร็องต์ มาลูด้า,นิโกลาส์ อเนลก้า(กาลู น.82),ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : ฮิลาริโอ,คาร์วัลโญ่,ดิ ซานโต้,มิเกล,เบลเลตติ,มานเซียน
ขอบคุณข่าวจาก lentee
แฟนปืนใหญ่อาร์เซนอลได้ดูถ่ายทอดสดเอฟเอ คัพนัดแรกในฤดูกาลนี้ถึงกับเจ็บปวดไปถึงทรวงเมื่อทีมรักอดเข้าชิงชนะเลิศหลังนำก่อนแต่พ่ายให้คู่ปรับร่วมเมืองอย่างเชลซีที่ยิงแซงสองเม็ดโดยประตูชัยมาจากลูกทึกของดิดิเยร์ ดร็อกบาก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น
เอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2552
อาร์เซนอล 1-2 เชลซี
ประตู : 1-0 วัลค็อตต์ น.18,1-1 มาลูด้า น.33,1-2 ดร็อกบา น.83
ผู้ชม : 80,103 คน
ครึ่งแรก
แค่ 4 นาทีอาร์เซนอลที่เริ่มด้วยความกระตือรือร้นเกือบงานเข้าหลังลูกสาดยาวจากแดนหลังย้อยตกพื้นตรงหน้าเขตโทษเป็นฟาเบียงสกี้ออกมาเงอะงะสองจิตสองใจดร็อกบาโขกสวนบอลค่อยๆกลิ้งกำลังจะเข้าประตูที่ไม่มีใครอยู่แล้วแต่กิบส์กองหลังดาวรุ่งตัวสกัดก่อนข้ามเส้นอีก 2 หลาเท่านั้น
คู่นี้สูสีกันตามคาดเพราะหลังจากจังหวะดังกล่าวแล้วเกมผ่านมา 10 กว่านาทียังไม่มีโอกาสได้ยิงกันเลยเนื่องจากเป็นบอลทันกันเข้าถึงเนื้อถึงตัวกันตลอด
แต่แล้วนาที 18 ปืนใหญ่ได้ประตูจากโอกาสครั้งแรกจากจังหวะที่อเดบายอร์ไปพักบอลตรงปีกซ้ายก่อนยึกยักอยู่พักนึงแล้วแทงตัดไปเส้นหลังให้เคียราน กิบส์แบ็คดาวรุ่งเปิดบอลย้อยมาเสาสองตรงระยะ 8 หลาเป็นวัลค็อตต์แปด้วยอีซ้ายแบบไม่เต็มบอลแฉลบมือแอชลีย์ โคลเด็กเก่าจนปีเตอร์ เช็กเสียจังหวะบอลตกพื้นผ่านมือเช็กที่ล้มตัวปัดแล้วแต่ไม่ทันจริงๆ
เชลซีตอบโต้ทันทีและอีก 4 นาทีน่าจะตีเสมอได้หลังมาลูด้าวิ่งควบเอาบอลที่เพื่อนแทงเข้าในกรอบตรงฝั่งซ้ายก่อนล้มตัวสไลด์ยิงบอลทะลุใต้แขนฟาเบียงสกี้ที่ล้มช้าบอลผ่านเสาสองออกไปแบบเสียวกันทั้งสนาม
พอได้ประตูอาร์เซนอลหันมาใช้ลูกถนัดคือรับแล้วสวนกลับในขณะที่เชลซีเป็นฝ่ายชวนทะเลาะเน้นครองบอลเข้าทำมากกว่า
พูดไม่ทันขาดคำประตูคลาสสิคก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อนาที 33 ลูกวางยาวจากกลางสนามของบัลลัคมาตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายซึ่งมาลูด้าดูดลงราวกับเทพมาจุติจากนั้นแทนที่จะลากออกซ้ายเพื่อให้เข้าเท้าถนัดแต่กลับเลือกลากตัดเข้าในจนเอบูเอ้ขยับช้ากว่าและยิงหักข้อบอลเลียดยัดเสาแรกหมดปัญญาที่ฟาเบียงสกี้จะพุ่งถึง เสมอกันแล้วจ้า
อีก 4 นาทีต่อมาปืนใหญ่เกือบทำตัวให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากหลังเอาเกมรุกของเชลซีในหน้ากรอบเขตโทษตัวเองได้แล้วแต่เดนิลสันไม่ยอมเคลียร์ไปผ่านต่อให้เอบูเอ้ในเขตโทษจนเลื้อยหนีไม่พ้นอเนลก้าที่ฉกไปจากเท้าก่อนตะบันยิงเลียดด้วยอีซ้ายบอลชนเสาดังโครม
ครึ่งหลัง
เกมทำท่าจะไฟแลบเพราะทั้งคู่เปิดแลกกันทันทีเนื่องจากไม่มีใครอยากต่อเวลาให้เหนื่อยเปล่าโดยช่วงต้นครึ่งหลังลูกทีมกุส ฮิดดิงค์ได้กดดันจากลูกเตะมุม 2-3 ครั้งจนแนวรับปืนใหญ่วิ่งกันซี่โครงโผล่เลยทีเดียว
ก่อนถึงหนึ่งชั่วโมงนาทีเดียวการต่อบอล 3 จังหวะของอาร์เซนอลเกือบขึ้นนำหนสองจากลูกที่ดิยาบี้เลี้ยงฝ่าดงตีนเชลซีมาได้นิดนึงก่อนฝากให้อเดบายอร์ที่ป้ายต่อให้วัลค็อตต์ตบบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปเสาสองให้ฟาน
เพอร์ซี่แต่บอลนอกจากจะเผื่อแล้วยังแรงด้วยทำให้หอกทีมชาติฮอลแลนด์สไลด์มาทั้งตัวก็ยังไม่ทัน ถ้าบอลช้ากว่านี้อีกนิดนึงน่าจะเป็นประตูเลยทีเดียว นาที 66 เทอร์รี่สไลด์สกัดวัลค็อตต์ตรงริมเส้นแต่บอลปลิ้นไปข้างหน้าทำให้ปีกลมกรดหลุดไปตบบอลจากเส้นหลังบอลเลยข้ามไปตรงกลางแต่เทอร์รี่ตีลังกาเคลียร์ทิ้งทันควัน
อีก 2 นาทีแลมพาร์ดทำชิ่งกับดร็อกบาที่ไปถึงกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วตบย้อนให้เพลย์เมคเกอร์หน้าใสวิ่งมาวอลเลย์กดลงพื้นตรงระยะ 10 หลาบอลถากข้างหน้าต่างออกไปสุดเสียว
เกมสูสีสุดๆจนโอกาสสวยๆเริ่มน้อยลงแต่แล้วนาที ทุกอย่างแทบจบเมื่อเชลซีสวมวิญญาณวิมเบิลดันเก่าจากจังหวะที่แลมพาร์ดวอลเลย์สาดยาวจากกลางสนามโด่งย้อยให้ดร็อกบาเบียดสู้กับซิลแวสตร์จนพินาศก่อนมาแตะหลบฟาเบียงสกี้ที่วิ่งหน้าตั้งออกมานอกเส้นก่อนแปโล่งๆบอลค่อยๆกลิ้งเข้าไป เชลซีพลิกนำ 2-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียงสกี้,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้,มิกาเอล ซิลแวสตร์,เคียราน กิบส์,เชสก์ ฟาเบรกัส,ธีโอ วัลค็อตต์,เดนิลสัน(นาสรี่ น.86),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่(อาร์ชาวิน น.75),เอ็มมานูเอล อเดบายอร์(เบนด์เนอร์ น.82)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : มาโนน,เบล่า,แรมซี่ย์,ซง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,อเล็กซ์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,มิชาเอล บัลลัค,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,มิกาเอล เอสเซียง,ฟลอร็องต์ มาลูด้า,นิโกลาส์ อเนลก้า(กาลู น.82),ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : ฮิลาริโอ,คาร์วัลโญ่,ดิ ซานโต้,มิเกล,เบลเลตติ,มานเซียน
ขอบคุณข่าวจาก lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
