งานหนักของ “โรนัลโด้” ?

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำผลงานกับต้นสังกัดอย่าง รีล มาดริด ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังพา"ราชันชุดขาว" ผงาดคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3ปี ด้วยการดวลจุดโทษดับ แอตเลติโก มาดริด อริร่วมเมือง ในรอบชิงชนะเลิศที่เมืองมิลาน

อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่ ซาน ซิโร กลายเป็นอดีตไปแล้วตอนนี้สมาธิทั้งหมดของ โรนัลโด้เป็นไปอยู่ที่การลงรับใช้โปรตุเกสในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2016"ที่ประเทศฝรั่งเศส จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 10 มิ.ย.-10 ก.ค.นี้

โรนัลโด้ผ่านฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกที่โปรตุเกสในปี 2004จบลงด้วยคราบน้ำตาหลังทีมฝอยทองพ่ายกรีซแบบพลิกล็อกในรอบชิงดำ ครั้งต่อมาในปี 2008"ซีอาร์ 7" พา โปรตุเกส ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศก่อนพ่ายให้กับ เยอรมนีและครั้งล่าสุดในปี 2012 โรนัลโด และพองเพื่อนไปได้ไกลถึงรอบตัดเชือกก่อนจะไปเสร็จสเปนในการดวลเป้า

สำหรับศึกยูโร2016 ว่ากันว่าน่าจะเป็นยูโรครั้งสุดท้ายของ โรนัลโด ซึ่งอยู่ในวัย 31 ย่าง 32ปีแล้วและมันก็น่าจะเป็นยูโรครั้งที่เขาต้องแบกภาระหนักอึ้งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาด้วย

ในรอบคัดเลือกโปรตุเกส ยิงประตูได้ 11 ประตู เฉลี่ยเพียงนัดละ 1.4 ประตู พวกเขาชนะด้วยสกอร์ 1-0ถึง 7 นัด ที่สำคัญจากทั้งหมด 11 ประตูที่ทำได้เป็นผลงานของ โรนัลโด ถึง 5 ประตูขณะที่นักเตะคนอื่นไม่มีใครยิงได้เกิน 1 ประตู

ปัญหาของโปรตุเกสคือพวกเขาขาดแคลนกองหน้าชั้นดีอย่างหนักหลังหมดยุคของ ฮูโก อัลเมยดา, เฮลเดอร์ ปอสติกา และนูโน โกเมส

ในบรรดา23 นักเตะชุดยูโร 2016 ของโปรตุเกส มีกองหน้าอาชีพแค่คนเดียวคือ เอแดร์ที่ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวในรอบคัดเลือก และยิงได้แค่ 2 ประตูจากการรับใช้ชาติ24 นัด นับตั้งแต่ประเดิมสนามเป็นหนแรกเมื่อปี 2012

แฟร์นันโดซานโตส โค้ชทีมชาติโปรตุเกส หวังว่า นักเตะอย่าง ริคาร์โด กวาเรสมา และนานี จะก้าวขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระในการทำประตูได้แต่สถิติของทั้งคู่ในฤดูกาลนี้ก็ดูไม่จืดหลังยิงรวมกันได้แค่ 5 ประตูจากการลงสนาม35 เกมให้ต้นสังกัดในฤดูกาลนี้

จากทั้งหมดที่ร่ายยาวมาด้านบนเห็นได้ชัดเจนว่าความหวังในการพังตาข่ายของโปรตุเกสแทบจะอยู่ที่ โรนัลโด้ คนเดียวเท่านั้นและนั่นทำให้ ยูโร 2016 น่าจะเป็นยูโรที่ ซีอาร์ 7ต้องแบกภาระหนักอึ้งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแน่นอน