คิงคัมแบ็คสวย!โขก เบิกร่องสิงโตขย้ำ 3-1

ล็ดลี่ย์ คิงกลับมาลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในรอบ 3 ปีได้อย่างสวยงาม หลังจากเป็นคนโหม่งประตูขึ้นนำให้กับทีม ก่อนที่ 'สิงโตคำราม' จะอุ่นเครื่องเอาชนะเม็กซิโกไปได้ 3-1 โดยในเกมนี้กิลเลอร์โม ฟรังโก้ตกเป็นเหยื่อของสภาพสนามเวมบลีย์ไป

เกมอุ่น เครื่องก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

วันจันทร์ที่ 24 พฤษาคม 2553

อังกฤษ 3 - 1 เม็กซิโก

ประตู : 1-0 เล็ดลี่ย์ คิง น.17,2-0 ปีเตอร์ เคร้าซ์ น.35,2-1 กิลเลอร์โม ฟรังโก้ น.45+,3-1 เกล็น จอห์นสัน น.47

สิงโตวาง หมู,เปรตยืนหน้า-ไร้เงาแข้งสิงห์
ฟาบิโอ คาเปลโล่กุนซือทีมชาติอังกฤษเลือกใช้เวย์น รูนี่ย์ และปีเตอร์ เคร้าซ์จับคู่ในแดนหน้า ส่วนกองหลังเป็นริโอคู่กับคิง ที่เพิ่งจะกลับมาลงเล่นให้กับทีมชาติในรอบ 3 ปี

ประเด็นที่น่าสนใจนอกเหนือจากผลการแข่งอุ่นเครื่องแล้วก็คือ สภาพสนามเวมบลีย์ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า มีผลทำให้นักเตะที่ลงเล่นบาดเจ็บได้ง่าย ซึ่งนั่นทำให้แฟน 'สิงโตคำราม' หวาดเสียวไม่น้อย เพราะ 'หมูพลิ้ว' ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า 100%

ก่อนเริ่มเกมบรรดาแฟนบอลของทีมชาติอังกฤษในสนาม เล่นแปลอักษรบนอัฒจรรย์เป็นรูปธงชาติ แลดูสวยงาม และสามัคคีเป็นอย่างมาก

ครึ่งแรก

คาร์ริ คเกือบทำเพื่อนงานเข้า
เริ่มเกมมาได้ 9 นาที โอกาสแรกเป็นของทางฝั่งเม็กซิโก จากจังหวะที่คาร์ริคจ่ายบอลขวางสนามไม่ดี ดอส ซานโตสตัดบอลได้ ก่อนจะลากไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ แล้วยิงไกลทันที ทิศทางบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ติดบล็อกของทางริโอ เฟอร์ดินานด์ออกหลังไป

ขิงหัวแตก
นาทีที่ 14 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดถึงกับได้เลือด จากจังหวะที่เขาปะทะกับผู้เล่นของเม็กซิโกกลางอากาศ ทำให้หัวแตก ก่อนที่จะออกไปปฐมพยาบาลข้างสนาม

กลับมาอีกทีก็กลายเป็น 'หัวขิงพันผ้า' เพื่อป้องกันแผลที่แตก และให้เลือดหยุดไกล เดินลงสนามมาเล่นต่อได้

คิงโขกฉลอง การกลับมาในรอบ 3 ปี!!!
นาทีที่ 17 เล็ดลี่ย์ คิงก็ฉลองการกลับมาลงเล่นให้กับทีมชาติในรอบ 3 ปี ด้วยการโขกทำประตูขึ้นนำในจังหวะที่เจอร์ราร์ดเปิดเตะมุมจากฝั่งซ้าย บอลเลยไปทางเสาสอง ปีเตอร์ เคร้าซ์โหม่งชงกลับมาตรงกลางที่มีคิงอยู่ยืนคนเดียว โขกเหน่ง ๆ เข้าไปตุงตาข่าย อังกฤษขึ้นนำไปก่อน 1-0

นี่เป็นประตูที่ 2 ของคิงจากการลงเล่น 20 นัดให้กับทีมชาติอีกด้วย

หมูเแอบค้อนธีโอจ่ายช้า
นาทีที่ 25 อังกฤษได้โอกาสสวนกลับจากความผิดพลาดของกองกลางเม็กซิโก ทำให้วัลค็อตได้กระชากบอลขึ้นไปทางฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าเลี้ยง จนลืมดูว่ารูนี่ย์ยืนว่างอยู่ตรงกลาง พอเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาเห็นแล้วจ่าย ก็ไม่ทัน เพราะกองหลังเม็กซิโกดันขึ้นจนทำให้ 'ไอ้หมู' ล้ำหน้าไปเรียบร้อย

จังหวะนี้รูนี่ย์ออกอาการเซ็งเล็กน้อย และมีแอบหันไปมองค้อนวัลค็อตที่จ่ายมาให้ช้าเกินไปด้วย

กรีนซูเปอร์ เซฟฟฟฟฟฟฟ!!!
3 นาทีต่อมา โรเบิร์ต กรีนขอทำคะแนนแซงหน้าบรรดาผู้รักษาประตูคนอื่น ๆ ในทีมชาติอังกฤษไปก่อน ด้วยการล้มตัวเซฟลูกยิงโล่ง ๆ ของเวล่าอย่างสวยงาม จากจังหวะที่เล็ดลี่ย์ คิงผู้ทำประตูแรกในเกมนี้พลาดเสียจังหวะ ก่อนที่เวล่าจะได้หลุดเข้าไปยิงติดเซฟของกรีนในท้ายที่สุด

สิงโตชัก รวน-โดนส่องติดเสา
นาทีที่ 31 กองหลังของอังกฤษที่เล่นกันป้อแป้ก็เกือบจะเสียประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ซัลซิโด้ได้ยิงนอกกรอบ จังหวะแรกเขายิงติดบล็อก ก่อนที่จะยิงซ้ำดาบสอง บอลพุ่งโค้งเหมือนจะเสียตาข่าย แต่ชนเสาออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

สิงโตนำห่าง 2-0
นาีทีที่ 35 อังกฤษก็มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากลูกเตะมุม ที่เจอร์ราร์ดปั่นโค้งจากการเล่นสั้นเข้ามาให้รูนี่ย์ได้โหม่งเต็ม ๆ แต่ติดเซฟแล้วบอลชนคาน บอลโด่งขึ้นบนอากาศ ทำให้ปีเตอร์ เคร้าซ์ที่สูงกว่าใครเพื่อน เทคตัวเบียดกองหลัง และผู้รักษาประตูของเม็กซิโก ก่อนที่บอลจะติดตัวเขาแล้วไตร่ตามแขนเข้าประตูไป 'สิงโตคำราม' นำห่าง 2-0

เวล่า ยิง-กรีนเซฟอีก!!
ได้ประตูที่ 2 ไปได้แค่นาทีเดียว อังกฤษก็เกือบถูกตีไข่แตก จากจังหวะที่เวล่าได้หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ยังคงไม่ผ่านมือโรเบิร์ต กรีนที่โชว์ฟอร์มหนึบเซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง

สนาม เวมบลีย์คายพิษสง-ฟรังโก้เจ็บข้อเท้า
ก่อนหมดเวลา 4 นาที สภาพสนามของเวมบลีย์ก็คายพิษสงสมคำร่ำลือ เพราะกิลเลอร์โม ฟรังโก้ลงไปนั่งเจ็บข้อเท้าที่กลางสนาม โดยเขาทำท่าเหมือนว่าข้อเท้าพลิก ก่อนที่จะต้องออกไปปฐมพยาบาลกันที่ข้างสนาม

เม็กซิโกเอา จนได้
นาทีสุดท้ายของเกม อังกฤษก็มาพลาดเสียประตูจากจังหวะเตะมุม ที่ผู้เล่นของเม็กซิโกโหม่งบอลหลุดไปที่เสาสอง เลจห์ตัน เบนส์สกัดออกมาไม่ดีในจังหวะแรก ทำให้ฟรังโก้ที่ยังกระเผลกอยู่ได้แปจ่อ ๆ ลอดดากเข้าประตูไป สุดที่กรีนพุ่งตัวไปเซฟไว้ได้ทัน เม็กซิโกตีไข่แตกได้แล้ว

ผู้ตัดสินเป่าจบครึ่งแรกทันที อังกฤษนำเม็กซิโก้อยู่ 2-1 แม้ว่าจะไม่สามารถครองบอล ทำเกมบุกได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลยก็ตาม

ครึ่งหลัง

อังกฤษเปลี่ยนเอาโจฮาร์ท ลงเล่นแืทนโรเบิร์ต กรีน รวมทั้งส่งเดโฟลงแทนเคร้าซ์ และเจมี่ คาร์ราเกอร์ลงสนามแทนริโอ เฟอร์ดินานด์ และนี่เป็นการกลับมาของคาร์ราเกอร์หลังจากที่เคยอำลาทีมชาติไปในช่วงปี 2007

และทางเม็กซิโกก็เปลี่ยนฟรังโก้ออก ก่อนที่จะส่งฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซแข้งดาวรุ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพิ่งจะซื้อตัวเข้ามาร่วมทีมลงสนาม

อ้าว!จอห์นสันลุยขึ้นมาซัดอย่างสวย
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาทีเกล็น จอห์นสันก็มาทำประตูสุดสวยให้กับอังกฤษ จากจังหวะที่เขารับบอลจากวัลคอต ก่อนที่จะเลี้ยงตัดเข้ากลาง ลากหลบกองหลังของเม็กซิโก้ 3 คนแล้วซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งเข้าไปเสียบเสาไกลจากสวยงาม อังกฤษนำห่าง 3-1

สิงโตเกมดี ขึ้นเยอะ
เข้าสู่ช่วงหนึงชั่วโมงเต็มของเกม อังกฤษครองบอลได้ดีกว่าในช่วงครึ่งแรกค่อนข้างมาก แต่เม็กซิโกก็มีจังหวะสวนให้ได้ลุ้นอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน

ขิงซัดหลุด กรอบนิดเดียว
นาทีที่ 68 เจอร์ราร์ดได้โอกาสยิงฟรีคิกที่มิลเนอร์เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ บอลพุ่งเลียดผ่านกำแพงไปได้ แต่หลุดเสาแรกออกไปแค่เดียวเดียวเท่านั้น

หมูเกือบ ส่องไกลได้
นาทีที่ 83 เวย์น รูนี่ย์เกืบอจะพังประตูของเขาเองได้ จากจังหวะที่ผู้รักษาประตูของเม็กซิโก้ออกมาตัดบอลไกล แล้วดันล้นไปเข้าทางรูนี่ย์ ที่ล็อกจังหวะแรกก่อนที่จะบรรจงยิงไกลทันที บอลพุ่งตรงกรอบแต่โดนโรดริเกซโบกสกัดออกมาจากเส้นได้ทัน

จบ 90 นาที อังกฤษอุ่นเครื่องเอาชนะเม็กซิโกไปได้ 3-1 ถือว่าเป็นการทดสอบฟอร์มที่ดีของพวกเขา ก่อนที่จะมีโปรแกรมลงอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่นอีกครั้งในนัดหน้า

รายชื่อผู้ เล่นทั้งสองทีม

อังกฤษ : โรเบิร์ต กรีน 7(ฮาร์ท 6 น.45),เล็ดลี่ย์ คิง 7,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6(คาร์ราเกอร์ 6 น.45),เลจห์ตัน เบนส์ 5,เกล็น จอห์นสัน 8*,เจมส์ มิลเนอร์ 6(อดัม จอห์นสัน 6 น.85),ไมเคิ่ล คาร์ริค 5(ฮัดเดิลสตัน 6 น.62),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 7,ธีโอ วัลค็อต 6(เลนน่อน 7 น.77),ปีเตอร์ เคร้าซ์ 8(เดโฟ 5 น.45),เวย์น รูนี่ย์ 7

เม็กซิโก : ออสก้าร์ เปเรซ 6,ริคาร์โด้ ออสโซริโอ 6,ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ 7,คาร์ลอส ซัลซิโด้ 6,เอฟเฟรน ฆัวเรซ 6,เกราร์โด้ โทร์ราโด้ 6,ราฟาเอล มาร์เกซ 7,จิโอวานี่ ดอส ซานโตส 7 (บลังโก้ 6 น.72),พอล อกีลาร์ 6(บาร์เรร่า 7 น.52),กิลเลอร์โม่ ฟรังโก้ 6(เฮอร์นานเดซ 5 น.45),คาร์ลอส เวล่า 6(กัวร์ดาโด้ 5.5 น.62)

























_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####