ความหวังของทีมห้างขายยา

หลังจากต้องพบกับฤดูกาลอันน่าเจ็บปวดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในยุคใหม่ คาดหวังจะมีโอกาสกลับมาลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาอีกหน งานนี้สโมสรจึงคาดหวังกับ มิชาเอล บัลลัค จอมทัพมากประสบการณ์ ที่ย้ายกลับมาทำมาหากินในถิ่นเดิม ว่าคงช่วยสร้างแรงบันดาล ใจให้ผู้เล่นดาวรุ่งทั้งหลายได้

 


ความฝันในการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกมีสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากจบครึ่งฤดูกาลแรกด้วยการอยู่บนหัวแถวของตารคาง แต่มันเกิดมอดลงช่วง 10 สัปดาห์สุดท้าย เพราะหลังทำสถิติไม่พ่ายคู่แข่งในลีก 24 แมตช์ ห้างขายยา ก็ออกไปแพ้ 1. เอฟเซ เนิร์นแบร์ก 2-3 จากนั้นผลงานก็สาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ ความเชื่อมั่นหมดสิ้นไป มันตามมาด้วยการแพ้อีก 4 เกม และเสมอ 3 แมตช์ ทำให้อันดับในตารางของพวกเขาเลื่อนลงมากระทั่งจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 ตามหลัง เอฟเซ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้แชมป์ไปครอง ถึง 11 คะแนน

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100820B8M5K.jpg
จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือคนเก่งของเลเวอร์คูเซ่น มีงานท้าทายรออยู่ในฤดูกาลหน้า



 



ฤดูกาลก่อน แม้เลเวอร์คูเซ่นมีนักเตะมากประสบการณ์อย่าง ซามี่ ฮูเปีย, มานูเอล ฟรีดริช และ ฮันส์ ซาร์ไป แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นสปิริตของนักเตะดาวรุ่งซึ่งมีกว่าครึ่งทีม ในช่วงโค้งสุดท้าย ดังนั้นสิ่งที่ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือจอมเก๋า และ รูดี้ โฟลเลอร์ ผู้อำนวยการกีฬา ต้องทำเพื่อแน่ใจว่าการลงเล่นฤดูกาลใหม่พวกเขาจะไม่แผ่วปลายเหมือนคนขาดอ๊อกซิเจน และลื่นไถลเหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมา คือหันมาสร้างทีมขึ้นจากดาวรุ่งมากพรสวรรค์ แต่บวกผู้เล่นตัวเก๋ามากขึ้น โดยมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนทีมเพื่อก้าวขึ้นไปนำจ่าฝูงลีก และรักษาตำแหน่งเอาไว้ให้ยาวนานกว่าเดิม
 
 


การได้กองกลางที่มีประสบการณ์อย่าง ไกเซอร์น้อย มาได้โดยไม่เสียเงินแม้แต่แดงเดียว เนื่องจากนักเตะหมดสัญญากับ เชลซี เป็นเรื่องที่โชคดีของ เลเวอร์คูเซ่นจริงๆ ที่สำคัญ บัลลัคกับ ห้างขายยา มีความผูกพันกันอยู่แล้ว เพราะเจ้าตัวเคยใช้เวลาค้าแข้งที่ ไบ อารีน่า  3 ซีซั่น ช่วงระหว่างปี 1999-2002 และเป็นยุคที่เลเวอร์คูเซ่นประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์ เพราะได้ทั้งรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล เมื่อปี 2002

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100820J8O3K.jpg
มิชาเอล บัลลัค (ซ้าย) กลับมาเป็นกำลังหลักให้ทีม ห้างขายยา อีกครั้ง
 
 

หลังจากนั้นกัปตันทีมชาติเยอรมัน ตัดสินใจย้ายออกไปคว้าแชมป์บุนเดสลีกา กับ เดเอฟเบ โพคาล อย่างละ 3 สมัย และ เดเอฟเบ ลีกา โพคาล อีก 1 ครั้ง กับ เสือใต้บาเยิร์น มิวนิค พอเล่นให้กับ เชลซี ก็ประสบความสำเร็จพอสมควร โดยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 หน รวมถึง เอฟเอ คัพ 3 สมัย บัลลัคยังมีประสบการณ์ในการมีส่วนร่วมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลายครั้ง ซึ่งดาวเตะวัย 33 ปี รู้อยู่เต็มอกว่าเป้าหมายของการเดินทางกลับมายังสโมสรเดิมนั้น ก็เพื่อช่วยทีมในการไล่ล่าแชมป์ลีกสถานเดียวเท่านั้น และต้องเรียกความเชื่อมั่นของนักเตะ ห้างขายยา กลับมาอีกครั้ง


 



บัลลัคต้องสร้างแรงกระตุ้นให้ตัวเองเช่นกัน เมื่อพลาดไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 เพราะบาดเจ็บในการเตะแมตช์สุดท้ายกับ เชลซี และตอนนี้ยังต้องแย่งตำแหน่งกัปตันทีม อินทรีเหล็ก กลับคืนมาอีกครั้ง ซึ่งมันจะทำให้เลเวอร์คูเซ่นได้ประโยชน์ตามไปด้วย ถ้าจอมทัพรายนี้สามารถยืนหยัดสู้ต่อไปทุกๆสัปดาห์ และผู้เล่นที่อยู่ล้อมรอบตัวเขาคงรู้สึกถึงแรงปรารถนานี้ด้วยเช่นกัน โดยไฮย์เกสได้มอบหมายให้บัลลัคทำหน้าที่เป็นคนปั้นเกมจากแผงกลางแทน โทนี่ โครส มิดฟิลด์ดาวรุ่งพรสวรรค์สูง ซึ่งย้ายกลับไปเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค หลังจากหมดสัญญายืมตัว

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100820H3L7N.jpg
นิโคไล ยอร์เกนเซ่น ดาวรุ่งอีกคนที่เลเวอร์คูเซ่นคว้ามาในซีซั่นนี้



 


นอกจากบัลลัคแล้ว มีอดีตนักเตะ ห้างขายยา อีก 2 คนที่ย้ายกลับมาค้าแข้งในถิ่นเก่า โดยรายแรกคือ ฮันโน บาลิตช์ ซึ่งย้ายมาจาก ฮันโนเวอร์ 96 และจะเป็นตัวเลือกในแดนกลางอีกคนหนึ่งเหมือน มาร์เซล ริสเซ่ ดาวรุ่งวัย 21 ปี ที่หมดสัญญายืมตัวกลับมาจาก 1. เอฟเซ เนิร์นแบร์ก แต่ยังไม่หมดแค่นั้น พวกเขายังเดินหน้าเสริมทัพในแผงมิดฟิลด์ด้วยผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง โดมาโกจ์ วิด้า ชาวโครเอเชียวัย 21 ปี จากสโมสร เอ็นเค โอซิเย็ค ขณะ ซิดนี่ย์ แซม ก็ย้ายมาจาก ฮัมบูร์ก เอสเฟา หลังฤดูกาลก่อน ช่วยให้ 1. เอฟเซ ไกเซอร์สเลาเทิร์น เลื่อนชั้นกลับสู่บุนเดสในฐานะแชมป์ลีกาสอง


 



แฟนบอล ห้างขายยา คงดีใจที่เห็นสโมสรของพวกเขาพร้อมจะลงทุนเพื่อสร้างทีม มากกว่าหวังจะขายนักเตะเพื่อทำเงินเพียงอย่างเดียว พวกที่ย้ายออกไปก็เป็นพวกตัวสำรองซึ่งไม่ค่อยถูกใช้งานอย่าง โทมัสซ์ ซเดเบิ้ล ห้องเครื่องชาวโปแลนด์ และ ลูคัส ซีนคีวิช เซนเตอร์แบ๊ก โดย อเลมานเนีย กับ เอฟเซ เอาก์สบวร์ก มารับช่วงต่อ

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100820A2P4O.jpg
เลเวอร์คูเซ่นพร้อมแล้วที่จะกลับมาลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาอีกหน



 


นอกจากผู้เล่นใหม่แล้ว ตัวหลักของเลเวอร์คูเซ่นในปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นขุนพลที่แข็งแกร่งมากระดับหนึ่ง เพราะ เรเน่ อ๊าดเลอร์, กอนซาโล่ คาสโตร, ไซม่อน โรลเฟส, พาทริค เฮลเมส และ สเตฟาน คีสลิงก์ คือพวกที่มีดีกรีทีมชาติเยอรมัน โดยรายหลังรวมถึงซาร์ไป, อาร์ตูโร่ วิดัล, ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้า กับ เอเร็น แดร์ดิย็อค เพิ่งไปทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ประเทศของพวกเขา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถได้เป็นอย่างดี


 


หวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยขุมกำลังที่มากประสบการณ์กับนักเตะดาวรุ่งซึ่งย้ายเข้ามาใหม่ จะทำให้ ห้างขายยา ได้อยู่บนเส้นทางการลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ ตามที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์