ความฝันของซามูไร

ขุนพลซามูไร’ฝันไกลถึงรอบตัดเชือก


การผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 1992 ดูเหมือนจะทำให้ชื่อของพลพรรคนักเตะ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก กลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก


เพราะก่อนที่จะเข้าห้ำหั่นในศึกฟุตบอลยุโรปครั้งนั้น เดนมาร์ก แทบจะไม่เคยลงทำศึกในฟุตบอลทัวร์นาเมนท์ใหญ่ๆ ของโลกมาก่อนเลย


แต่หลังจากการคว้าแชมป์ครั้งนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นแรงกระตุ้นให้วงการฟุตบอลเดนมาร์กตื่นตัว และกลายเป็นทีมชั้นนำของยุโรปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


โดยหลังจากปี 1992 พวกเขาก็ผ่านเข้าไปห้ำหั่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาโดยตลอด ขณะที่ในฟุตบอลโลก ก็ผ่านเข้ามาแข่งขัน 2 ครั้ง ในปี 1998 และ2002


ที่สำคัญผลงานของ เดนมาร์ก ในฟุตบอลโลกถือว่า “ยอดเยี่ยม” ทีเดียว โดยพวกเขาไม่เคยตกรอบแรกเลยตลอดการลงเล่นทั้ง3 ครั้ง โดยในปี 1986 และ 2002 ผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนในปี 1998 ทะลุเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนไปแพ้ให้กับ บราซิล อย่างสูสี 2-3


ถึงแม้เมื่อ 4 ปีก่อนที่ เยอรมนี พวกเขาจะไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกไปเป็น 32 ทีมสุดท้ายได้ แต่มาในเวิลด์คัพฉบับซาฟารีครั้งนี้ พลพรรค “โคนม” กลับมาสู่วงโคจรฟุตบอลโลกได้อย่างองอาจ และยิ่งใหญ่อีกครั้ง


โดยในรอบคัดเลือก เดนมาร์ก ถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ โปรตุเกส และสวีเดนสองทีมแกร่งของยุโรป แต่พวกเขาก็สามารถผ่านเข้ารอบเข้ามาเป็นทีมอันดับ 1 ของกลุ่มได้สำเร็จ และแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวจากการลงเล่นทั้งหมด 10 นัด


ที่สำคัญพวกเขายังสามารถบุกไปเอาชนะ โปรตุเกส ได้ถึงถิ่น 3-2 และสามารถเอาชนะ สวีเดน คู่รักคู่แข่งร่วมสแกนดิเนเวียได้ทั้งไปและกลับ ด้วยสกอร์ 1-0 ทั้ง 2 นัด


เดนมาร์ก ชุดนี้มีผู้เล่นฝีเท้าดีอยู่ในทีมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน โพลเซน ห้องเครื่องฝีเท้าดีจากยูเวนตุส, ดาเนียลแอกเกอร์ กองหลังเท้าหนักของลิเวอร์พูล,เดนิส รอมเมดาห์ล ปีกมหาภัยจากอาแจ็กซ์,นิคลาส เบนท์เนอร์ หัวหอกดาวรุ่งของอาร์เซนอล และ ยอห์น ดาห์ล โทมัสสัน กัปตันทีมผู้ผ่านประสบการณ์การเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว


อีกหนึ่งจุดเด่นของ เดนมาร์ก ชุดนี้ก็คือการวางหมากของ มาร์ติน โอลเซน กุนซือผู้อยู่กับทีมมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี


พิสูจน์ได้จากฝีไม้ลายมือของเขาในการนำ “โคนม” ลุยสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่คือฟุตบอลโลก 2002 และ ฟุตบอลยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยในฟุตบอลโลก โอลเซน นำทีมผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะไปพ่ายให้กับ อังกฤษ


ส่วนในฟุตบอลยูโร โอลเซน นำทีมทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะไปพ่าย”ขุนพลแห่งเมืองเทพนิยาย” กรีซ 1-0 ก่อนที่กรีซ จะฝ่าด่านเข้าไปเป็นแชมป์ได้ในที่สุด


ฟุตบอลโลกครั้งนี้ผมกล้าพูดได้เลยว่า เดนมาร์ก มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบกว่าครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์จากการค้าแข้งจากทั่วโลก หรือแม้แต่ตัวกุนซือเองก็มีประสบการณ์ รวมถึงรู้จักนักเตะเป็นอย่างดี


ดูแล้วถ้าหากพวกเขาลงเล่นใน “เวิลด์คัพฉบับซาฟารี” แบบเต็มที่ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า เดนมาร์ก อาจจะสร้างเทพนิยายฉบับที่ 2 ให้เกิดขึ้น ด้วยการกรุยทางไปเป็นแชมป์โลกก็เป็นได้


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์