ความผิดพลาดทั้ง 7 นัด ของลิเวอร์พูล



ความผิดพลาดทั้ง 7 นัดของล

เอฟเอคัพก็เสมอกับทีมคู่รักคู่แค้นร่วมเมืองไปอีกหนด้วยสกอร์เท่ากับนัดที่ทั้งคู่อัดกันในลีก แฟนบอลหลายคนเริ่มเซ็งกับผลงานของทีมที่เล่นดียามเจอบิ๊กโฟร์ด้วยกัน แต่ดันพลาดท่าทำแต้มหกเรี่ยราดในนัดที่ไม่ควรพลาด เราจะพาคุณย้อนไปดูทั้ง 7 นัดที่หงส์แดงควรจะทำได้ดีกว่านี้ พร้อมรายชื่อผู้เล่นให้คุณได้วิพากษ์วิจารณ์ราฟาเอล เบนิเตซได้อย่างสนุกปาก ไปดูกันเลยครับ

แอสตัน วิลล่า 0 – 0 ลิเวอร์พูล (31 สิงหาคม 2008)

4-4-2 : เรน่า / อาร์เบลัว, คาราเกอร์, สเคอร์เทล, ดอสเซน่า / เคาท์(ออเรลิโอ 71), อลองโซ่, มาสเคราโน่, ลูคัส / คีน(เบนายูน 79), ตอร์เรส(เอ็นก๊อก 30)

นี่ไม่ใช่แมทช์ที่ลิเวอร์พูลควรได้แต้มเลยด้วยซ้ำ จากการที่ทีมขาดกัปตันทีมอย่างเจอร์ราร์ดไป(บาดเจ็บ) ราฟาเลือกที่จะส่งทีมลงเล่นแบบไม่มีปีกอาชีพ โดยใช้เคาท์ยืนกราบขวา และลูคัสกราบซ้าย และทำทุกอย่างเพียงแค่เพื่อจะไม่แพ้ รวมถึงการเปลี่ยนออเรลิโอลงมาแทนเคาท์ในนาทีที่ 71 เพื่อเสริมเกมรับให้แน่นมากขึ้น ทิ้งให้บาเบิลนั่งหน้าหงิกที่ม้านั่งสำรองตลอด 90 นาที จนจบเกมด้วยผลเสมอโนสกอร์สุดจืด เสียสถิติชนะรวดในนัดนี้นี่เอง

ลิเวอร์พูล 0 – 0 สโต๊ค (20 กันยายน 2008)

4-4-2 : เรน่า / อาร์เบลัว, คาราเกอร์, สเคอร์เทล, ดอสเซน่า / เคาท์, เจอร์ราร์ด, อลองโซ่, ริเอร่า(บาเบิล 65) / คีน(เบนายูน 73), ตอร์เรส

1 สัปดาห์ให้หลังเกมปราบแชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลกลับทิ้งขว้างโอกาสที่จะเก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมนี้ ทั้งๆที่มีโอกาสง้างตีนยิงมากถึง 27 หน แม้ลูกที่เจอร์ราร์ดซัดตุงไปในนาทีที่ 3 จะเป็นการล้ำหน้า แต่ทีมก็เหลือเวลาไล่ขโยกทีมน้องใหม่ที่ตั้งใจมาอุดเต็มที่กว่า 87 นาที แม้จะมีสองคู่หูเทพอย่าง “ต๊อด-เจิด” ลงเล่นครบ 90 นาที แต่ลิเวอร์พูลก็ไม่มีปัญญาเอาชนะทีมช่างปั้นหม้อในบ้านตัวเอง จบเกมแบบโนสกอร์อีกครั้งแบบน่าละเหี่ยใจ

ลิเวอร์พูล 0 - 0 ฟูแล่ม (22 พฤศจิกายน 2008)

4-4-2 : เรน่า / อาร์เบลัว, คาราเกอร์, แอกเกอร์, ออเรลิโอ / เคาท์(เอล ซาร์ 81), ลูคัส, มาสเคราโน่(อลองโซ่ 64), ริเอร่า(บาเบิล 7Cool / คีน, ตอร์เรส

การขาดหายไปของเจอร์ราร์ดทำให้ราฟาต้องเลือกใช้บริการกองกลางคนอื่นแทน และแทนที่จะใช้อลองโซ่ แกดันจิ้มไปที่ลูกรักอย่างลูคัส เป็นเกมที่แฟนบอลลิเวอร์พูลส่งเสียงตะโกนเรียกให้ราฟาเปลี่ยนตัวอลองโซ่ลงมาเล่นซักทีตลอดทั้งเกม และราฟาก็เปลี่ยนอลองโซ่ลงมาจนได้ แต่เป็นมาสเคราโน่ที่โดนถอดออกแทนที่จะเป็นลูคัสลูกรัก ทำให้แฟนบอลส่งเสียงโห่ใส่ราฟาดังกระหึ่มไปทั่วแอนฟิลด์ทันที เป็นอีกเกมที่นักเตะลูกรักอย่างเคาท์และลูคัสได้ลงครบ 90 นาที และไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้ แม้จะมีคู่กองหน้าอย่างคีนกับตอร์เรสและได้โอกาสจบสกอร์กว่า 18 หน ลิเวอร์พูลก็ไม่มีปัญญาทำอะไรทีมเยือน จบเกมแบบโนสกอร์ชวนเซ็งกันทั้งเมือง

ลิเวอร์พูล 0 – 0 เวสต์แฮม (1 ธันวาคม 2008)

4-4-2 : เรน่า / อาร์เบลัว, คาราเกอร์, ฮูเปีย, ดอสเซน่า / เบนายูน, เจอร์ราร์ด, อลองโซ่, ริเอร่า(บาเบิล 7Cool / เคาท์, คีน(เอ็นก๊อก 66)

“บุกเข้าไปสิ บุกเข้าไป!” เสียงตะโกนแหกปากดังกระหึ่มจากทุกทิศของสนามแอนฟิลด์ แต่เกมรับที่สุดอ่อนยุ่ยของทีมเยือนก็ยังเหนียวแน่นพอจะยันไม่ให้เจ้าถิ่นกระซวกตาข่ายได้ การขาดหายไปของศูนย์หน้าความหวังอย่างตอร์เรส ทิ้งไว้ให้ร็อบบี้ คีนต้องวิ่งเป็นหนูถีบจั่นอย่างไร้ค่า ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกและเอาดาวรุ่งอย่างเอ็นก๊อกที่เล่นบอลก๊อกแก๊กสมชื่อลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 66 แม้ราฟาจะเปลี่ยนบาเบิลลงมาเพิ่มความแตกต่างในช่วงท้ายเกม แต่ก็สายเกินไปจะทำอะไรได้ หงส์แดงเขวี้ยงคะแนนทิ้งไป 2 แต้มอย่างน่าเขกกะโหลกตัวเองอีกเกม

ลิเวอร์พูล 2 – 2 ฮัลล์ ซิตี้ (13 ธันวาคม 2008)

4-2-3-1 : เรน่า / อาร์เบลัว, ฮูเปีย, คาร์ราเกอร์, ดอสเซน่า / มาสเคราโน่(ลูคัส 87), อลองโซ่ / เบนายูน(เอล ซาร์ 74), เจอร์ราร์ด, ริเอร่า(บาเบิล 82), เคาท์

เบนิเตซพูดอย่างภูมิใจหลังเกมว่า “ทุกอย่างเพอร์เฟ็คหมด เพียงแค่เรายิงประตูที่ 3 ไม่ได้เท่านั้นเอง” แฟนๆหงส์แดงไม่มีทางเห็นด้วยกับประโยคนี้แน่ๆ เจอร์ราร์ดซัด 2 ตุงให้ทีมแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ในเกมที่ต้องการชัยชนะอย่างเต็มที่ ราฟาเลือกที่จะเล่นรัดกุมด้วยการส่งกองกลางลงไปถึง 5 คน และทิ้งกองหน้าราคา 20 ล้านปอนด์อย่างคีนไว้ข้างสนามจนครบ 90 นาที ในช่วงท้ายเกมก็ยังมีหน้าส่งลูคัสลูกรักลงไปเสริมเกมรับ และก็ได้ 1 แต้มในบ้านตัวเองไปอย่าง “เพอร์เฟ็ค” ตามที่เบนิเตซต้องการจริงๆ

สโต๊ค 0 – 0 ลิเวอร์พูล (10 มกราคม 2009)

4-2-3-1 : คาร์ราเกอร์, ฮูเปีย, สเคอร์เทล, ออเรลิโอ / ลูคัส, มาสเคราโน่ / เบนายูน(บาเบิล 76), เจอร์ราร์ด, ริเอร่า(ตอร์เรส), เคาท์

หลังเกมถล่มนิวคาสเซิ่ลยับไป 5-1 แฟนๆระริกระรี้ว่านี่คือฟอร์มของแชมเปี้ยน และฟอร์มของแชมเปี้ยนก็มาแสดงให้เห็นชัดแจ๋วว่ามันแค่ลวงตาในแมทช์ต่อมา ราฟาเลือกเล่นรัดกุมอีกครั้งด้วยการอัดมิดฟิลด์ไปถึง 5 คน (และแน่นอนว่าต้องมีลูคัสเป็นหนึ่งในนั้น) พร้อมทั้งไม่ยอมส่งกองหน้าอาชีพที่ฟิตเต็มถังอย่างคีนลงเล่น แต่กลับใช้ศูนย์หน้าตัวรับอย่างเคาท์ลงเล่นเต็มเกม ไม่น่าแปลกใจอะไรอีกแล้วที่เราจะเห็นสีหน้าเหนื่อยหน่ายและเสียงโห่จากกองเชียร์ลิเวอร์พูลที่มีให้ราฟาเอล เบนิเตซอีกเกม

ลิเวอร์พูล 1 – 1 เอฟเวอร์ตัน (19 มกราคม 2009)

4-4-2 : เรน่า / คาร์ราเกอร์, ฮูเปีย, สเคอร์เทล, ออเรลิโอ / เคาท์, เจอร์ราร์ด, อลองโซ่, ริเอร่า(บาเบิล 89) / คีน(เบนายูน 67), ตอร์เรส(ลูคัส 85)

ราฟาเลิกใช้แผนกองกลาง 5 ตัวในเกมนี้ เพราะต้องการ 3 แต้มเพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกลับมาจากแชมป์เก่า หงส์แดงออกนำในนาทีที่ 68 และดูเหมือนจะพอใจกับสกอร์เท่านี้ จนเหลือเวลาอีก 5 นาทีจะหมดเวลาและชัยชนะกำลังจะเป็นของเจ้าถิ่น เบนิเตซตัดสินใจถอดตอร์เรสออกและส่งลูคัสลูกรักลงมาเล่นแทนเพื่อแพ็คเกมรับ แต่อึดใจเดียวเท่านั้นทีมเยือนก็ตีเสมอทันทีจากทิม เคฮิลล์ และจบเกมไปด้วยสกอร์ 1-1 นี่เอง เป็นการการันตีตำแหน่งจ่าฝูงให้แชมป์เก่าทันที สถานการณ์การลุ้นแชมป์ที่เคยได้เปรียบโดนตัวเองกระทืบทิ้งไปหมดสิ้น คงไม่แปลกใจอะไรที่หลายคนไม่ให้ความเชื่อมั่นเลยว่าหงส์แดงจะสามารถเป็นแชมป์พรีเมียร์ได้ในปีนี้ เพราะนอกจากจะต้องนั่งแช่งคู่แข่งให้พลาดท่าเองอย่างน่าอนาถแล้ว ลิเวอร์พูลยังต้องลุ้นเหนื่อยทุกครั้งที่เจอทีมที่อ่อนชั้นกว่าเรื่อยไป

กลางสัปดาห์นี้มาดูกันว่าจะมีเกมน่าทอดถอนใจของหงส์แดงอีกหรือไม่ ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ตัวใครตัวมันแล้วล่ะครับเหล่าสาวกหงส์แดงทุกคน..

โจ้หลาเดียว


www.lentee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์