ขาดเธอ...ขาดใจ

มีนักเตะหลายคนใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งมีค่าดั่งทองสำหรับสโมสรของพวกเขา ไม่ว่าฝนจะตก หรือ แดดจะออก นักเตะเหล่านี้มักจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเสมอ พวกเขาคือนักเตะที่ได้รับการการันตีตำแหน่งตัวจริงเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพราะถ้าขาดเธอ ฉันคงมีสิทธิ์ขาดใจได้เหมือนกัน และต่อไปนี้คือ The Top 10 untouchables หรือ 10 นักเตะที่ใครก็ห้ามมาแตะต้อง และเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ของ พรีเมียร์ลีก จากการจัดอันดับของ เดอะ ซัน แทบลอยด์จอมสาระแนแฉไม่เกรงใจใครแห่งเมืองผู้ดี


10. ไตตรัส บรัมเบิ้ล



อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่าทำเป็นหัวเราะไปนะตัวเอง โอเค บรัมเบิ้ล อาจจะไม่ใช่ขวัญใจของใครๆ แต่ก็มิอาจปฎิเสธได้ว่า กองหลังร่างอวบ คือนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ (ดี) คงเส้นคงวาที่สุดของ วีแกน นิวคาสเซิ่ล ควักกระเป๋า 5 ล้านปอนด์ ซื้อตัวเขามาจาก อิปสวิช เมื่อปี 2002 ขณะที่ เดอะ ลาติกส์ รับเซ้งต่อมาฟรีๆ เมื่อ 2 ปีก่อน งานนี้บอกได้คำเดียวว่า โคตรคุ้ม เมื่อ บรัมเบิ้ล เกิดงัดฟอร์มเก่งแบบที่แทบจะไม่เคยได้เห็นในชุด สาลิกาดงหลงทาง ออกมาโชว์ได้ดื้อๆ ถึงแม้ปัจจุบันจะยังคงออกลูกเฟอะฟะบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่เขาคนนี้นี่แหละที่เป็นเสาหลักในแนวรับของ วีแกน ในฤดูกาลแรกของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม


9. ทิม เคฮิลล์


เคฮิลล์ ใช้เวลา 7 ปีกับ มิลล์วอลล์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2004 นับจากนั้นมา ชีวิตค้าแข้งของเขาก็มีแต่ขาขึ้นแบบวันเวย์ ดาวเตะออสซี่ ต้องรับบทหัวหอกเสียเป็นส่วนใหญ่ในฤดูกาลที่แล้ว หลังกองหน้าเพื่อนร่วมทีมนัดกันโดนโรคกระดูกเปราะเล่นงานกันอย่างพร้อมเพรียง ความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศที่ขัดแย้งกับความสูง และจังหวะปิดบัญชีที่คมกริบ ซึ่งเคยแสดงให้เห็นมานักต่อนักจากแผงมิดฟิลด์ของ เคฮิลล์ ช่วยให้ทีมของ เดวิด มอยส์ ไปไกลถึงรอบชิงฯ เอฟเอ คัพ และจบด้วยอันดับ 5 ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ดาวเตะทีมชาติออสเตรเลีย ได้กลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้ง กระนั้น เขาก็ยังคงอันตรายเหมือนเดิมทั้งในจังหวะที่ทีมได้ลูกตั้งเตะ และโอเพ่น เพลย์


8. แบร็ด ฟรีเดล



ฟรีเดล ดูเหมือนจะอยู่คู่กับ พรีเมียร์ลีก มาตลอดกาล นั้นก็เพราะหมอนี่เฝ้าเสาอยู่ในอังกฤษนานกว่าทศวรรษเข้าไปแล้ว มือกาวชาวเมืองมะกัน ย้ายจาก โคลัมบัส ครูว์ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 1997 แต่กว่าจะได้โชว์ฝีไม้ลายมือให้คอลูกหนังเมืองผู้ดีได้ประจักษ์แก่สายตาก็ต้องรอไปอีกถึง 3 ปี หลังโบกมือลา แอนฟิลด์ ไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ฟรีเดล จัดเป็นมือกาวที่ไว้ใจได้ที่ กุหลาบไฟ และได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ก่อนจะย้ายมาเฝ้าเสาให้ แอสตัน วิลล่า เมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว และยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมดังเดิมมาจนกระทั่งปัจจุบัน


7. เบรเด้ ฮันเกลันด์



การได้รับความสนใจจากทีมหญ่อย่าง อาร์เซน่อล ตลอดซัมเมอร์นี้ สามารถอธิบายถึงความยอดเยี่ยมของ ฮันเกลันด์ ได้เป็นอย่างดี หลายคนอาจทำหน้างงเหมือนน้องฉงน ตอนที่ รอย ฮอดจ์สัน ควักเงิน 2.5 ล้านปอนด์ลาก กองหลังร่างยักษ์ มาอยู่กับ ฟูแล่ม เมื่อปีก่อน แต่ทำไปทำมาหมอนี่กลับกลายเป็นการทำสัญญาที่คุ้มเกินคุ้มซะงั้น ปราการหลังทีมชาตินอร์เวย์ ใช้เวลาไม่นานในการกลายร่างเป็นหัวใจในแนวรับของ เจ้าสัวน้อย และได้รับการยอมรับว่า เป็นนักเตะที่มีฟอร์มคงเส้นคงวาที่สุดคนหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก สโมสรใหญ่ยังคงจับจ้อง ฮันเกลันด์ ชนิดไม่ยอมวางตา แต่ ฟูแล่ม ก็คงจะไม่ยอมเสียเขาไปให้ใครง่ายๆ เหมือนกัน ถึงแม้เงินจะมีอำนาจมหาศาลในแวดวงลูกหนัง แต่ อดีตดาวเตะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ยังคงแฮปปี้ดีกับชีวิตใน คราเวน ค็อตเทจ อย่างน้อยก็ในตอนนี้


6. เควิน เดวิส


เดวิส คือกองหน้าทรงโบราณในแบบฉบับของ โบลตัน เป๊ะๆ เขาอาจจะไม่ใช่กองหน้าลีลาคลาสสิก แต่ แกรี่ เม็กสัน ก็ไม่คิดจะขายเขาให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น ครั้งใดที่ โบลตัน ทำผลงานได้ดี แน่นอนว่า เดวิส จะต้องมีชื่อเป็นผู้ทำสกอร์ หรือ อย่างน้อยก็ต้องมีส่วนทำให้ทีมได้ประตู มันอาจไม่เวิร์กตอนเขาเลือกย้ายไป แบล็คเบิร์น ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1998 แต่ หัวหอกจอมบู๊ ก็กลายเป็นดาวยิงเจ้าประจำของ โบลตัน มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เซาแฮมป์ตัน เมื่อ 6 ปีก่อน ถามว่า เดวิส สำคัญกับ เดอะ ทร็อตเตอร์ส แค่ไหน ก็ไม่มากมายอะไร แค่ถ้าไม่มีหมอนี่พวกเขาก็คงจะไม่ได้ลอยหน้าอยู่ใน พรีเมียร์ลีก มาอย่างยาวนานเช่นทุกวันนี้แน่นอน


5. เชส ฟาเบรกาส


ฟาเบรกาส ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2003 ด้วยวัยเพียง 16 ขวบ และใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่ของเหล่า เดอะ กันเนอร์ส ได้อย่างเต็มตัว จากดาวรุ่งพรสวรรค์ เชส ก้าวขึ้นมาเป็นจังหวะหัวใจของ อาร์เซน่อล และเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของยุโรปไปแล้วในปัจจุบัน บาร์ซ่า อยากได้ตัวเขากลับไปยัง คัมป์ นู ขณะที่ เรอัล มาดริด ก็ย่องมาแจกขนมจีบให้กินอยู่เป็นนิจ แต่ ดาวเตะทีมชาติสเปน ยังคงภักดีต่อ อาร์เซน่อล และเชื่อขนมกินได้เลยว่า ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่มีทางจะะเหมือนเดิมแน่นอน หากปราศจาก กัปตันเชส ฟาเบรกาส อยากจะช่วยให้ อาร์เซน่อล ยุติช่วงเวลาอันร้างไร้ถ้วยรางวัล และจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในแผนการทำทีมของ เวนเกอร์ สำหรับฤดูกาลนี้ ยิ่งไปกว่านั้น หนุ่มเชส ยังหวังจะช่วยให้ พลพรรคกระทิงดุ สานต่อความสำเร็จใน ยูโร 2008 ในฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้อีกด้วย


4. เชย์ กิฟเว่น


เมื่อ มาร์ค ฮิวจ์ส ได้รับไฟเขียวจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้จ่ายเงินได้ไม่อั้น เป้าหมายลำดับแรกๆ ของเขาก็คือการคว้า กิฟเว่น มาจาก นิวคาสเซิ่ล ซิตี้ ทุ่มเงิน 7 ล้านปอนด์ในการดึง กิฟเว่น เข้าสู่ทีม และเขาก็ตอบแทนได้อย่างคุ้มค่าด้วยการโชว์ฟอร์มเซฟประตูสวยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความยอดเยี่ยมของ กิฟเว่น ทำให้ โจ ฮาร์ท นายทวารแห่งอนาคตของทีมชาติอังกฤษ กลายเป็นคนดีไม่มีที่อยู่ และต้องระเห็จไปเฝ้าปากประตูให้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ซีซั่น ในอนาคตอาจจะมีดาวเตะค่าตัวแพงตบเท้าเข้าสู่ถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ อีกมากมาย แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครที่จะมอบความมั่นคงปลอดภัยชนิดไม่หวั่นแม้วันมามากให้กับ เรือใบสีธนบัตร ได้เท่ากับ กิฟเว่น อีกแล้ว

3. เวย์น รูนี่ย์



ถึงแม้จะอยู่ในวัยเพิ่งหย่านมเพียง 18 ขวบ แต่ รูนี่ย์ ก็ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องวอดวายถึง 20 ล้านปอนด์ (บวกเงินโบนัสอีกสารพัด) ในการควักตัวเขาออกมาจากอ้อมอกของ เอฟเวอร์ตัน เพราะเวลานั้น หมอได้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดีไปเรียบร้อยแล้ว รูนี่ย์ ออกตัวได้อย่างร้อนแรงภายใต้ยูนิฟอร์ม ปีศาจแดง ด้วยการกระหน่ำแฮตทริกในเกมเปิดตัว ซึ่ง ต้นสังกัดใหม่ของเขา ขย่ม เฟเนร์บาเช่ ชนิดมันส์เท้า 6-2 ใน ศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกเหนือจาก เอฟเอ คัพ รูนี่ย์ ฟาดแชมป์มาเรียบวุธกับทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดยแบ่งเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย คาร์ลิ่ง คัพ 1 สมัย และแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัย สิ่งเดียวที่ รูนัลโด้ ยังขาดอยู่ตอนนี้คือเกียรติยศในระดับนานาชาติ แต่เขากำลังจะได้รับโอกาสอีกครั้งในการพา ทีมชาติอังกฤษ ลุ้นแชมป์ ฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้


2. สตีเว่น เจอร์ราร์ด


ลิเวอร์พูล ที่ไม่มี เจอร์ราร์ด คือสิ่งที่ เดอะ ค็อป ทั้งมวลไม่ต้องการจะเห็นมากที่สุด กองกลางทีมชาติอังกฤษ อาจจะถูกปัญหาบาดเจ็บพรากตัวไปจากสนามอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับอิทธิพลที่เขามีต่อ เร้ด แมชีน การยิงประตูที่สวยงาม และหนักหน่วงคือสิ่งที่เรามักจะได้เห็นจนชินตาจาก กัปตันจี และเขาคือกุญแจสำคัญ ลิเวอร์พูล ใช้ไขสู่ความสำเร็จใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 เจอร์ราร์ด เกือบจะย้ายไป เชลซี หลังค่ำคืนแห่งเกียรติยศที่อิสตันบูล แต่ด้วยเลือดในกายที่เป็นสีแดงสดทำให้ ดาวเตะวัย 29 ปี ยังคงฝากหัวใจไว้ที่แอนฟิลด์มาจนกระทั่งปัจจุบัน เจอร์ราร์ด มีความเป็น ลิเวอร์พูล ตั้งแต่หัวจรดเท้า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากเขาจะลงเล่นอยู่กับทีมรักไปจนกระทั่งแขวนสตั๊ด

1. จอห์น เทอร์รี่



เชลซี อาจจะใช้ ผู้จัดการทีม เปลืองเป็นกระดาษชำระ แต่กุนซือทุกคนที่ก้าวเข้าสู่ เดอะ บริดจ์ ต่างก็เลือกส่ง เจที ลงคุมเนวรับเป็นประจำทุกสัปดาห์ กัปตันทีมชาติอังกฤษ ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสร ก่อนจะเขี่ย ฟร้องค์ เลอเบิฟ กองหลังชาวเมืองน้ำหอม ลงไปนั่งเป็นตัวสำรอง เขาก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของ สิงโตน้ำเงินคราม อย่างเต็มตัวในยุคของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เอฟเอ คัพ และคาร์ลิ่ง คัพ ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ เทอร์รี่ หัวใจแทบสลาย เมื่อเขาลื่นล้มขณะสังหารจุดโทษใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงดำ ที่มอสโก ปี 2008 บอลที่เขาส่งออกไปจากเท้าพุ่งไปชนเสาโครมใหญ่ และทำให้ถ้วย บิ๊ก เอียร์ ถูกส่งมอบให้อริตัวเอ้อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม เทอร์รี่ สามารถคัมแบ็กได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยฟอร์มการเล่นอันเอกอุทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์