กุลลิทตัวสั่นอยากกลับมารับงานกุนซือ

รุด กุลลิท ตำนานนักเตะดัตช์ ยอมรับ ถ้าหากมีโอกาสคุมทีมอีกครั้ง เขาจะกลับไปเป็นกุนซืออีกครั้งแน่นอน และเผยอีกว่ายังติดตามดูผลงานของ เอซี มิลาน อย่างต่อเนื่อง พร้อมหยอด หวังให้"ปีศาจแดง-ดำ" กลับมาเป็นทีมยิ่งใหญ่ระดับโลกให้ได้

     รุด กุลลิท ตำนานมิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ ออกมายอมรับว่า มีความต้องการที่จะกลับไปเป็นเทรนเนอร์คุมทีมฟุตบอลอีกครั้ง หลังจากเริ่มทนกลิ่นยั่วยวนจากวงการลูกหนังไม่ไหว และยังเปิดเผยอีกว่า คอยตามติดตามผลงานของ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน อดีตทีมเก่าที่ตนเองเคยโด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงปลายทศวรรษ 80 และยังหวังให้ทีมรักของตนกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง
  
     กุลลิท ซึ่งผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีม หลังจากแขวนสตั๊ด และเคยกุมบังเหียนทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, เฟเยนูร์ด และ แอลเอ  แกแล็กซี่  กล่าวให้สัมภาษณ์ระหว่างการแข่งขันกอล์ฟคนดัง "มิสชั่น ฮิลล์ส สตาร์ โทรฟี่" ที่ประเทศจีน ว่า "แน่นอนว่าผมอยากจะกลับไปเป็นโค้ช การได้เกี่ยวข้องกับฟุตบอลนั้นยอดเยี่ยม และถ้าหากผมได้โอกาสที่ถูกจังหวะ ผมจะทำมันอย่างแน่นอน"
  
     ขณะเดียวกัน อดีตกองกลางเจ้าของฉายา "งูเก็งกอง" ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่ววงการลูกหนัง ในสมัยที่ยังค้าแข้งให้กับทัพ "รอสโซเนรี่" พาทีมคว้าสคูเด็ตโต้ ถึง 3 สมัย และ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือที่เรียกกันในสมัยนี้ว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 ปีซ้อน ก็เอ่ยถึงอดีตต้นสังกัดว่า ในตอนนี้ความเกรียงไกรของ "ปีศาจแดง-ดำ" ยังไม่สามารถเทียบได้ยุคของตน ที่กวาดคว้าแชมป์เป็นว่าเล่น
  
     "มิลาน ตอนนี้ยังเล่นได้ไม่ดีเท่ากับที่เคยเล่นได้ในอดีต แต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา สโมสรในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา คว้าแชมป์กว่า 30 โทรฟี่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่าไม่มีสโมสรไหนในโลกที่จะทำได้อย่างนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่คุณจะต้องมีขึ้นและลง" กุลลิท วัย 48 ปี กล่าว 
  
     พร้อมกันนี้ อดีตดาวเตะเจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ประจำปี 1987 ยังกล่าวถึงกรณีที่สภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในตอนนี้ ส่งผลกระทบต่อสโมสรฟุตบอล รวมไปถึง มิลาน ที่จำเป็นต้องขาย ริคาร์โด้ กาก้า ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติบราซิล ให้แก่ เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
  
     "นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยขึ้นกับสโมสรใหญ่อย่าง มิลาน ในอดีต แต่แน่นอนว่าตอนนี้คุณต้องมีเงิน แต่ มิลาน อยู่ในใจของผมเสมอ ผมตามดูพวกเขาอยู่เสมอ และหวังว่าพวกเขาจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง"



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์