กิเลนผยอง-ฉลามชลระทึก ศึกชิงหัวตารางไทยลีก

แม้ว่าตอนนี้การแย่งแชมป์ลีกของลีกใหญ่ ๆ ของยุโรป จะเร้าใจมาก เพราะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายจนเหลือการ ชิงดำกันเป็นคู่ ๆ แล้ว เช่น ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเชลซี บาร์เซโลนากับรีล มาดริด อินเตอร์ มิลาน กับโรม่า หรือว่าบาเยิร์น มิวนิก กับชาลเก้ 04

แต่เมื่อหันกลับมาดูศึกไทยพรีเมียร์ลีกในบ้านเรา แม้จะออกตัวมาไม่นานก็ต้องบอกว่า เข้มข้นในระดับใช้ได้ทีเดียว โดยเฉพาะการแย่งชิงตำแหน่งหัวตารางนั้นน่าติดตาม เพราะใส่กันอย่างเร้าใจ บดบี้กันไม่หยุด

แชมป์เก่าทีม "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ดที่มีนักเตะชูโรงอย่าง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ธีรศิลป์ แดงดา ดัสกร ทองเหลา และนักเตะต่างชาติเด่น ๆ หลายคน เช่น ซูมาโฮโร่ ยาย่า ดักโน เซียก้า ซึ่งมีระวิ โหลทอง บอสใหญ่ค่ายสยามกีฬาเป็นประธานสโมสร ยังคงรักษามาตรฐานทีมฟุตบอลเกรดเอของไทยไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งลีลาการเล่น สีสันในสนาม และกองเชียร์ที่แน่นขนัด

ผลการแข่งขัน 4 นัดแรกชนะรวด โดยแมตช์เมื่อวันเสาร์ที่ 17 เม.ย.โชว์ฟอร์มดุถล่มทีม "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี อภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธานสโมสรไปถึง 5-1 นั่นทำให้คว้า 12 คะแนนเต็ม

แต่ด่านสำคัญอยู่นัดที่ 5 ในวันที่ 24 เม.ย. เมื่อต้องออกจากบ้านไปปะทะกับ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมของค่ายสิงห์ที่มี "ปวิณ ภิรมย์ภักดี" เป็นประธานสโมสร ซึ่งทุ่มเงินในการสร้างสนามและทำทีมมหาศาลเป็นร้อยล้าน ก่อนเปิดฤดูกาลจัดเป็นทีมเต็งหนึ่งคู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด

แม้ทีมกระต่ายแก้วจะชนะรวดในบ้าน แต่ผลงานในการออกไปเตะนอกบ้านไม่ประทับใจเอาเสียเลย เพราะแพ้ทั้ง 2 นัด ซึ่งนัดที่ปะทะกับแชมป์เก่าเรียกว่าไม่มีทางเลือก ต้องสยบกิเลนผยองในบ้านให้ได้ ไม่เช่นนั้นแต้มจะโดนทิ้งห่างไปไกลลิบ

สำหรับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ก็เป็นอีกทีมหนึ่งที่เล่นได้สมราคาทีมเต็ง แม้ก่อนเปิดฤดูกาลจะมีการเสริมทีมไม่มาก นักเตะตัวหลัก ยังเป็นสินทวีชัย หทัยรัตนกุล สุรีย์ สุขะ อาทิตย์ สุนทรพิธ พิภพ อ่อนโม้ เอกพันธ์ อินทเสน ไมเคิล เบิร์น และได้เทิดศักดิ์ ใจมั่น มาเสริมทัพ ก็ทำผลงานได้ดู๋ดี๋กับเมืองทอง ยูไนเต็ด เพราะเก็บชัยชนะ 4 นัดรวดเหมือนกัน

นัดที่ออกนอกบ้านไปทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ซึ่งเรียกคนดูแน่นสนาม ทีมฉลามชลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเอาชัยชนะ ทำเกมรุกตลอดทั้งเกม ส่วนในแมตช์เปิดบ้านถล่ม "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ไป 3-1 นั้น เรียกแฟนบอลได้คับคั่ง เก็บค่าผ่านประตูและขายของที่ระลึกได้ไปร่วมล้านเลยทีเดียว

แต่นัดที่ 5 ในวันที่ 24 เม.ย. ก็ต้องเจอด่านอันตรายเหมือนกัน เพราะบุกไปเยือน "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งมี ชาคริต บัวทอง และดาวยิงทีเด็ด อานนท์ สังข์สระน้อย ที่แข่งไป 3 นัด แพ้ใครไม่เป็น ชนะ 2 เสมอ 1

เมื่อลองแวบลงไปที่ดิวิชั่น 1 ซึ่งจะชิงกัน 3 อันดับเพื่อเลื่อนขึ้นมาในระดับไทยพรีเมียร์ลีกนั้น ทีมยิ่งใหญ่ในอดีต "ทหารอากาศ" ที่ปัจจุบันแปลงร่างเป็นแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ที่สร้างชื่อให้กับปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ประทีป ปานขาว หลังจากก่อนเปิดฤดูกาลจัดตั้งบริษัทเข้ามาดำเนินงานแทนกองทัพอากาศ รวมทั้งปรับแผนซื้อนักเตะต่างชาติมาเพิ่มก็สร้างผลงานได้น่าเชียร์ เพราะชนะ 5 นัดรวด โอกาสที่จะกลับมาผงาดในลีกสูงสุดมีแววสดใส

เชื่อได้ว่าฟุตบอลลีกของไทยจะคึกคักเข้มข้นมากกว่านี้ หากปัญหาทางการเมืองของไทยคลี่คลายลงไป