ความเคลื่อนไหวของนักกีฬาคนพิการไทย ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
หลังจากทีมวีลแชร์เรซซิ่งผลัด 4x100 ม. ชาย (ศุภชัย โกยทรัพย์ สายชล คนเจน ประวัติ วะโฮรัมย์ และพิเชษฐ์ กรุงเกตุ) ประเดิมซิวเหรียญเงินมาครองได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา นักกีฬาของไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อีก โดยเริ่มที่ยกน้ำหนัก รุ่น 52 กก.หญิง “เปีย” สมควร อนนท์ จอมพลังวัย 30 ปีจาก จ.ชัยภูมิ เป็นม้ามืดของไทย คว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ ด้วยสถิติ 95 กก. ส่วนเหรียญทองเป็นของ อาเมเลีย เปเรซ จากเม็กซิโก 127.5 กก. และเหรียญเงิน ทามารา โพดพาลนายา 125 กก.
หลังเกม สมควรเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า
ดีใจที่สุดในชีวิต เพราะมาแข่งครั้งนี้ ตั้งใจว่าจะคว้าเหรียญรางวัลกลับไปฝากแม่สังวาลย์ อนนท์ วัย 60 ปี ที่ จ.ชัยภูมิให้ได้ เนื่องจากในวันแม่ที่ผ่านมา ไม่มีของขวัญให้แม่เลย ซึ่งขณะนี้แม่อยู่คนเดียวที่ จ.ชัยภูมิ ส่วนพ่อเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่พี่น้องอีก 2 คน แยกไปอยู่กับครอบครัว ตนเป็นลูกคนโตต้องทำงานหาเลี้ยงแม่ โดยขายลอตเตอรี่อยู่กับสามีที่พัทยา ซึ่งขณะที่ให้สัมภาษณ์ สมควร ได้ใช้ โทรศัพท์มือถือโทร.กลับไปหาแม่ทันที พร้อมบอกแม่ว่า “แม่ หนูทำสำเร็จแล้ว หนูทำเพื่อแม่ได้แล้ว” พร้อมกล่าวอีกว่า แม่บอกว่าได้บนบานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.ชัยภูมิ คือ “ศาลเจ้าพ่อพระยาแล” ให้ช่วยเหลือ และฝันด้วยว่าลูกสาวจะได้เหรียญ
ในส่วนของเงินรางวัล ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เหรียญทองได้ 2 ล้านบาท เหรียญเงิน 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 5 แสนบาท สมควรกล่าวว่า
สำหรับเงินรางวัลที่ได้ ตั้งใจว่าจะนำเงินส่วนหนึ่งไปรักษาดวงตาข้างซ้ายให้แม่ เพราะแม่ไปทำงานและตอกตะปูพลาด จนกระเด้งมากระแทกดวงตาเกือบบอด ใช้เงินรักษาไปแล้วร่วม 3 หมื่นบาท อีกส่วนจะปรับปรุงบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ให้แม่อยู่สบายขึ้น ที่เหลือจะใช้เป็นทุนเปิดร้านขายหนังสือ และขายสิ่งประดิษฐ์เล็กๆ น้อยๆ หาเลี้ยงชีพ เพราะตนเองมีฝีมือและชอบทางนี้ และจะยังรับใช้ชาติต่อไป
ส่วนยกน้ำหนักในรุ่น 52 กก. ชาย ณรงค์ แคสนั่น จอมพลังวัย 30 ปี จาก จ.สตูล คว้าอีก 1 เหรียญทองแดงให้ไทย หลังยกได้ 167.5 กก. เท่า โอซามา เอลเซิร์นกาวี จากอียิปต์ แต่น้ำหนักตัวของณรงค์มากกว่าจึงได้แค่เหรียญทองแดง ส่วนโอซามาได้เหรียญเงิน ขณะที่เหรียญทองเป็นของ วู เกาจิ้ง จากจีนยกได้ 175 กก.
หลังเกม ณรงค์เปิดเผยว่า
ตนตั้งใจสู้เต็มที่เพื่อนำเหรียญถวายในหลวงและพระราชินี ดีใจมากที่ทำได้ รวมทั้ง เป็นครั้งแรกที่ยกได้ถึง 167.5 กก. เพราะปกติยกได้ดีที่สุดแค่ 160-165 กก. เท่านั้น ตอนแรกยกในครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน แต่ยังไม่ท้อ คิดว่ายังมีครั้งที่ 3 ให้แก้ตัว และตอนยกครั้งที่ 3 ก็นึกถึงในหลวง และพระราชินี รวมทั้งครอบครัวและแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน จนมีพลังใจให้ยกในครั้งสุดท้ายได้สำเร็จ ตอนนี้อยากกลับบ้านไปหาครอบครัว มากที่สุด
ขณะที่กรีฑา ประเภทวีลแชร์เรซซิ่ง 200 ม.ชาย T 52 เพ็ชร รุ่งศรี ของไทยปั่นเข้าที่ 3 ทำเวลา 32.07 วิ. เท่ากับ อังเดร บิวเดียน จากแคนาดา แต่ตัดสินด้วยภาพถ่ายชนะ ทำให้เพ็ชร ซิว 1 เหรียญทองแดง ให้ทัพนักกีฬาไทย ส่วนเหรียญทองเป็นของดีน เบอร์เกอร์รอน จากแคนาดา 30.81 วิ. ทำลายสติถิพาราลิมปิกเกมส์ และเหรียญเงิน บีต บอช จากสวิตเซอร์แลนด์ 31.41 วิ. นอกจากนี้ สายชล คนเจน นักวีลแชร์ไทยอีกคน ก็ทำเพิ่มอีก 1 เหรียญทองแดงเช่นกัน จากประเภท 400 ม.ชาย T 54
รวมนักกีฬาไทยทำเพิ่มได้อีก 4 เหรียญทองแดง เบ็ดเสร็จได้ไปแล้ว 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง อยู่ ในอันดับที่ 47 ของตารางเหรียญรางวัลรวม ส่วน 3 อันดับแรก ปรากฏว่า อันดับ 1 เป็นของจีน 24 เหรียญทอง 28 เหรียญเงิน 25 เหรียญทองแดง อันดับ 2 สหราชอาณาจักร 21 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง อันดับ 3 สหรัฐฯ 15 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
