กระทิงดุซิวพันล้าน เผยนัดชิงเกมเดียวเงินสะพัดหมื่นล้าน

ผลการสำรวจของอาสาสมัครในประเทศออสเตรีย เปิดเผยว่า
 
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 13 หรือ "ศึกยูโร 2008" รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามแอร์นท์ ฮัปเพิล ประเทศออสเตรีย เมื่อคืนวันอาทิตย์ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา แม้จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น
แต่กลับสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของพวกเขาให้มีเงินสะพัดเป็นมูลค่าสูงถึง 300 ล้านยูโร (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท)


โดยบรรดาแฟนบอลของ 2 ชาติลูกหนัง

ที่สามารถตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอย่าง "กระทิงดุ" สเปน และ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ที่แห่กันเดินทางออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง เพื่อตามไปเชียร์ทีมรักทีมโปรดถึงประเทศออสเตรีย โดยเฉพาะในบริเวณแฟนโซนที่ทางเจ้าภาพจัดเอาไว้ให้สำหรับแฟนบอลที่ไม่มีตั๋วเข้าชมในสนามต่างพร้อมใจกันใช้เงินสำหรับจับจ่ายใช้สอยตามความต้องการของตัวเองกันอย่างเต็มที่ 

นอกจากนั้น ศึกยูโร 2008 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ยังมีเงินก้อนใหญ่ที่ไหลสะพัดมาจากบรรดา สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนหลัก, ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด, การจำหน่ายของที่ระลึก, ค่าบัตรเข้าชมการแข่งขัน รวมถึง กรุ๊ปทัวร์จากชาติต่างๆ ที่มีการจัดให้แฟนบอลเข้าชมเกมการแข่งขันนัดนี้อีกด้วย


ขณะเดียวกันผลการวิจัยของ มหาวิทยาลัยโคเวนตรี ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า
 
ชาติลูกหนังที่ไม่ได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน ศึกยูโร 2008 โดยเฉพาะ "สิงโตน้ำเงินคราม" อังกฤษ ต้องสูญเสียเงินรายได้ต่างๆ ทั้งในเรื่องของการจ่ายใช้สอยสำหรับการติดตามเชียร์ทีมชาติบ้านเกิดของตัวเองภายในประเทศนั้นๆ รวมถึงเงินรางวัลจากการลงเตะรอบสุดท้ายเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 40 ล้านยูโร (ประมาณ 2 พันล้านบาท)


 อย่างไรก็ตาม 2 ชาติลูกหนังคู่ชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2008 อย่าง สเปน และ เยอรมนี
 
ได้รับอานิสงฆ์จากการลงเตะนัดชิงดำเพียงแค่เกมเดียวไปแบบเต็มๆ โดยเฉพาะ "กระทิงดุ" ทีมแชมป์ได้รับเงินรางวัลที่ทาง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป
ได้จัดสรรปันส่วนให้เป็นเงินทั้งสิ้น 23 ล้านยูโร (ประมาณ 1.15 พันล้านบาท) ส่วน "อินทรีเหล็ก" ในฐานะทีมรองแชมป์ได้รับเงินรางวัลทั้งหมด 19 ล้านยูโร (ประมาณ 950 ล้านบาท)


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์