The Star@Madrid ปฏิบัติการค้นฟ้าคว้าดาว!

The Star@Madrid ปฏิบัติการค้นฟ้าคว้าดาว!

www.realmadrid.in.th

ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีแห่งความสิ้นหวังของชาว ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด อย่างแท้จริง กับการพลาดหวังทุกรายการไม่ว่าจะเป็น ลา ลีกา, แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือถ้วยใบเล็กอย่าง โคปา เดล เรย์



นอกจากนี้ยังต้องอับอายถึงขีดสุดด้วยการปราชัยต่อคู่ปรับตลอดกาล บาร์เซโลน่า คา ซานติอาโก เบอร์นาบิว ถึง 6-2 ซึ่งเป็นสกอร์ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน (คือไม่เคยเละขนาดนี้มาก่อน)


ยิ่งเห็นบาร์ซ่า ผงาดคว้า Triplete (3 แชมป์) ได้รับคำยกย่องสรรเสริญจากโลกทั้งใบ มันยิ่งทำให้ความรู้สึกอับอายจึงอัดแน่นสุมอยู่ในอกของชาว มาดริดิสต้า เข้าไปอีก


ความตกต่ำในฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นการการันตีว่า มาดริด ต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ เพราะมันมีสัญญาณต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว แม้กระทั่งในยุคของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ หรือ แบร์นด์ ชุสเตอร์ ที่พาทีมคว้าแชมป์ได้ก็จริง แต่ก็เป็นแชมป์ที่ไม่สง่างาม เนื่องจากสภาพทีมนั้น ไม่ได้เป็น ราชันชุดขาว อย่างที่ควรจะเป็น


หลายคนปรามาสว่าพวกเขาได้แชมป์ เพราะบาร์ซ่า (และโรนัลดินโญ่) ทำตัวเองมากกว่า


ประเด็นใหญ่ที่หลายคนตั้งเป้าไว้คือการที่สโมสรตกอยู่ใต้การกุมอำนาจของ รามอน กัลเดร่อน อดีตประธานสโมสร เรอัล ไม่เคยประสบความสำเร็จในการซื้อซูเปอร์สตาร์ระดับเกรดเอบวกเหมือนที่เคยเป็นมาเลย


ยิ่งเทียบกับยุคสมัยของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ อดีตประธานคนเก่าที่สร้างตำนาน กาลาคติโก้ ขึ้นมาจนยิ่งใหญ่คับฟ้า ก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง


ถึงจะเป็นทีมแห่งความสุดขั้วยังไง แต่มาดริด ในวันที่มีซินญอร์เปเรซ เป็นผู้นำก็ยังประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับมากกว่า อีกทั้งยังเล่นฟุตบอลที่งดงามตามฉบับที่แฟนบอลอยากเห็น ไม่ใช่ฟุตบอลทื่อมะลื่อเหมือนในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา


โชคดีของแฟนๆชุดขาวที่ กัลเดร่อน ถูกบีบให้พ้นจากตำแหน่งไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และทำให้ต้องมีการรับสมัครหาตำแหน่งประธานสโมสรคนใหม่


และตัวเก็งเต็งหนึ่งที่จะเข้ามาเป็นประธานสโมสรคนใหม่เวลานี้ ซึ่งไม่มีพลิกโผแน่นอนคือ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เจ้าเก่านั่นเอง!


ถ้ายังจำกันได้ในปี 2000 ซินญอร์เปเรซ ลงรับสมัครประธานสโมสรเป็นครั้งแรก และหาเสียง (เรอัล มาดริด ใช้ระบบการเลือกตั้งโดยสมาชิกของสโมสรในการเลือกประธานสโมสร) โดยบอกว่าจะเอา หลุยส์ ฟิโก้ ซึ่งเวลานั้นเป็นกัปตันทีมและเป็นซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของ บาร์เซโลน่า มาร่วมทีม


ตอนแรกที่ใครได้ยินก็หัวเราะทั้งนั้น มันจะเป็นจริงได้ยังไง? ฟิโก้ เนี่ยนะจะมาสวมชุดขาว?


แต่ปรากฏว่ามันกลับเป็นเรื่องจริง! และกลายเป็นหนึ่งในเรืองตลกร้ายที่สุดของวงการฟุตบอลสเปน เพราะปีกหมายเลขหนึ่งของโลกฉีกสัญญากับบาร์ซ่า มาอยู่กับมาดริด หน้าตาเฉย


นั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานนักรบดาราจักร กาลาคติโก้ ที่ต่อมาก็กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเรอัล มาดริด ที่จะต้องมีการซื้อซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมทีมทุกปี


ปีถัดมา เปเรซ ทุบสถิติโลกซื้อ ซีเนอดีน ซีดาน มาจากยูเวนตุส ก่อนที่จะได้ โรนัลโด้ เพชฌฆาตหมายเลขหนึ่งของโลกในปี 2002 หลังจากที่เหยินไดโกโระเพิ่งจะซัลโวกระจายพาทีมบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาหมาดๆ


ชุดต่อมาชื่อชั้นอาจจะไม่ถึง 3 คนแรกนั้น แต่ก็ไม่ธรรมดาสำหรับ เดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของอังกฤษ ที่ย้ายเข้ามาในปี 2003 ต่อด้วย ไมเคิล โอเว่น หนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในยุโรปขณะนั้นในปี 2004 และ โรบินโญ่ สตาร์ดาวรุ่งที่ได้รับสมญาว่าจะเป็น นิว เปเล่


โชคร้ายที่ระยะหลังความสำเร็จมันเริ่มถดถอย นโยบายกาลาคติโก้ ของเปเรซ ถูกวิจารณ์ว่าเป็นทุ่มเงินที่เปล่าประโยชน์ และทำให้ทีมเสียสมดุล โดยเฉพาะการปฏิเสธที่จะเพิ่มเงินในสัญญาให้กับ โคล้ด มาเกเลเล่ กองกลางตัวกันชนที่เป็นเสาหลักในทีม จนกลายเป็นจุดเสื่อมของทีมในที่สุด


สำหรับปี 2009 การกลับมาของ เปเรซ ครั้งนี้น่าสนใจเพราะนอกจากจะเอาจุดขายเรื่อง กาลาคติโก้ มาใช้แล้ว ว่าที่ประธานสโมสรสมัยที่ 3 (เปเรซ เคยได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2004) น่าจะมีบทเรียนจากเรื่องเก่าๆพอสมควร


แต่ยังไงจุดขายก็คือจุดขาย และตอนนี้เราก็พอมีชื่อของซูเปอร์สตาร์ที่จะทยอยเดินหน้าเข้ามาสู่ เบอร์นาบิว กันบ้างแล้ว


กาก้า เทพบุตรลูกหนังคือคนแรกที่คาดว่าจะเดินเข้ามาสวมชุดขาว เนืองจากเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งในใจของ เปเรซ เนื่องจาก กาก้า นอกจากจะมีฝีเท้าเป็นเลิศสมราคานักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว ก็ยังมีภาพลักษณ์ที่ดี และมีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว


โดยบทบาทและตำแหน่งแล้ว กาก้า จะเหมือนเป็นทายาทสายตรงของ ซีเนอดีน ซีดาน อดีตศิลปินลูกหนังในตำนาน


อีกคนที่มีกระแสข่าวแรงและดูแล้วมีโอกาสไม่น้อยคือ ชาบี้ อลอนโซ่ กองกลางห้องเครื่องของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ทาง เปเรซ อยากได้ตัวมาคุมเกมกลางสนาม ซึ่งก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงถ้าข้อเสนอนั้น แรง พอที่จะล่อให้ราฟาเอล เบนิเตซ กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะ อลอนโซ่ ก็ยังน้อยใจกับสโมสรไม่หายที่เคยจ้องจะขายทิ้งเมื่อปีกลาย


ส่วนคนที่กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เคยมีข่าวจากปากของ กัลเดร่อน อดีตประธานว่าได้ทำข้อตกลงกันไว้แล้วว่าจะได้ปีกจอมสับมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ก็มีข่าวเช่นกันว่า เปเรซ ไม่สนใจเพราะอยากได้ฟร้องก์ ริเบรี่ มากกว่า


แต่ล่าสุด ว่าที่ท่านประธานเล่นออกปากเต็มตัวว่า โรนัลโด้ มีความจำเป็น ต่อสโมสร แต่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องฝีเท้า


ยังหมายถึงเรื่องของ การตลาด ด้วย เพราะจะเป็นตัวดึงสปอนเซอร์อย่างดีให้กับทีม เหมือนที่ เดวิด เบ็คแฮม เคยเปิดประตูสู่โลกกว้างให้กับ มาดริด มาแล้ว จนสามารถกอบโกยรายได้มหาศาลจากทั้งสปอนเซอร์และแฟนบอลทั่วโลก


นอกจากนี้ยังมี ริเบรี่, คาร์ลอส เตเวซ, คาริม เบนเซมา และมีชื่อของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ด้วย


ถ้าจะซื้อหมดนี่จริงๆ ไม่รู้ว่าเงิน 300 ล้านยูโร จะพอหรือเปล่า? เพราะแค่กาก้า กับโรนัลโด้ รวมกันก็ต้องมี 150 ล้านยูโรแล้ว


นั่นหมายถึงการต้องโดนจับขายทิ้งของนักเตะหลายคนด้วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มของ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ (หรือรุด ฟาน นิสเตลรอย), มามาดู ดิยาร์ร่า, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, กาเบรียล ไอน์เซ่, รูเบน เดอ ลา เร้ด หรือแม้แต่ตัวเก๋าอย่าง กูตี ก็อาจโดนจับขายระดมทุนได้ทั้งนั้น


มันขึ้นอยู่กับว่า เมาริซิโอ เปเญกรินี่ ว่าที่โค้ชคนใหม่ที่จะดึงมาจาก บียาร์เรอัล ไม่ต้องการจะเก็บใครไว้เท่านั้นเอง


และนี่คือปฏิบัติการค้นฟ้าคว้าดาวที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่า เปเรซ จะทำได้ดีแค่ไหนในการกลับมานั่งแท่นประธานสโมสรครั้งนี้


เรอัล มาดริด จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหรือไม่ ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเขาแล้ว

ข่าวดีๆจาก msn football ถ้าซ้ำขออภัยย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์