Liverpool VS. Chelsea ตลอด 5 ฤดูกาลที่ผ่านมาใน UCL

เจอกันตลอดในฟุตบอลยุโรปใน 5 ฤดูกาลหลังสุด

 




2004-05: เชลซี 0-1 ลิเวอร์พูล


เชลซีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศซึ่งขณะนั้นเชลซีภายใต้การคุมทีมของโจเซ่ มูรินโญ่กำลังมีผลงานอันยอดเยี่ยมในลีก ในขณะที่ลิเวอร์พูลเป็นทีมซึ่งสิ้นสุดฤดูกาลทำได้เพียงอันดับที่ 5 ในลีก

ทีมสิงห์บลูผ่านเข้ารอบมาในฐานะของผู้นำกลุ่มและเอาชนะบาร์เซโลน่าและบาเยิร์นมิวนิคมาแบบขาดลอย ในขณะที่หงส์แดงได้อาศัยความสามารถของเจอร์ราดในการพาทีมเอาชนะโอลิมเปียกอสจนผ่านเขารอบด้วยผลประตูได้เสียไปแบบหืดจับ

ลิเวอร์พูลผ่านเข้าไปในรอบน็อคเอ้าท์ไปได้ แต่น้อยคนนักจะคิดว่าหงส์แดงจะประสบความสำเร็จได้แม้จะผ่านทีมอย่างยูเวนตุสไปได้ในรอบแปดทีมสุดท้าย

เกมนัดแรกที่สแตมฟอร์ดบริดจ์เป็นจบไปแบบไร้สกอร์และทั้งสองทีมจะต้องเตะชี้ชะตาในถิ่นแอนฟิลด์ เพียงแค่สี่นาที หลุย กราเซีย ผู้สังหารประตูในเกมที่พบกับยูเวนตุส ก็ได้ซัดประตูผ่านเส้นเขตประตูเข้าไปท่ามกลางความข้องใจของแฟนเชลซี

และสกอร์ก็จบเท่านั้น ทำให้ลิเวอร์พูลได้ตั๋วไปอิสตันบูล ก่อนจะสร้างฝันร้ายให้แก่มิลานในเวลาต่อมา.



2005-06: ลิเวอร์พูล 0-0 เชลซี, เชลซี 0-0 ลิเวอร์พูล


แม้ผลอันดับตารางคะแนนของลิเวอร์พูลจะไม่ติดอันดับหนึ่งในสี่ แต่พวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ห้าได้ ทำให้ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในห้าทีมจากพรีเมียร์ลีกที่ได้เข้าร่วมแข่งขันศึกแชมป์เปี้ยนสลีกในฤดูกาล 2005-06 ผลการจับสลากแบ่งสายทำให้ลิเวอร์พูลต้องพบกับเชลซีอีกครั้งในรอบแบ่งกลุ่ม

การพบกันครั้งแรกที่แอนฟิลด์ในวันที่ 28 กันยายน 2005 ทั้งสองทีมเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ และในนัดที่สองที่พบกันในวันที่ 6 ธันวาคม พวกเขาก็ยังเสมอกันไปเท่าเดิม

มันก็ยังเพียงพอที่จะส่งทั้งสองทีมให้ผ่านเข้ารอบต่อไป โดยที่ลิเวอร์พูลเป็นหัวหน้ากลุ่มมีคะแนนมากกว่าหนึ่งคะแนน จากนั้นทีมหงส์แดงก็ต้องพ่ายแพ้ไปแบบน่าประหลาดใจให้แก่เบนฟิก้าด้วยผลประตูรวม 3-0 ในขณะที่บาร์เซโลน่าผู้เป็นแชมป์ในปีนั้นก็เขี่ยสิงห์บลูตกรอบไปเช่นกัน



2006-07: เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล (1-4 ดวลจุดโทษ)


เป็นอีกศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนสลีกรอบรองชนะเลิศในการปะทะกันอีกครั้งระหว่างทีมจากลอนดอนและทีมจากถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ ลิเวอร์พูลได้รับการยกย่องว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากที่จะต่อกรด้วยในเกมยุโรป ในขณะที่เชลซีซึ่งต่อมาสามารถคว้าแชมป์ลีกไปครองได้นั้นกำลังพยายามพิสูจน์ตัวเองบนเวทียุโรป

ก่อนเกมก็ได้มีสงครามน้ำลายระหว่างมูรินโญ่และเบนิเตซ ในขณะที่เกมบนสนามก็ดุเดือดไม่แพ้กัน และเกมนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มีภาพไฮไลท์เด็ดๆ ให้ได้ชมกัน โดยโจ โคลกดด้วยเท้าซ้ายทำให้เชลซีได้ขึ้นนำไปก่อน แต่แดเนียล แอ็คเกอร์ก็สามารถทำประตูตีเสมอได้ จนทำให้เกมต้องต่อเวลาพิเศษ แต่ไม่มีใครสามารถทำอะไรใครได้เพิ่มเติม จนต้องมีการดวลจุดโทษตัดสิน

เหมือนเช่นที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างมหัศจรรย์ในเกมที่อิสตันบูล และต้องขอบคุณเปเป้ เรน่าที่ออกแรงช่วยทีมได้มากมาย ทำให้พวกเขาได้ชัยชนะไป เดิร์ค เค้าท์เป็นผู้ปิดสกอร์สุดท้ายเพื่อยืนยันตั๋วไปพบกับมิลานในนัดชิงชนะเลิศ (ถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้)



2007-08: ลิเวอร์พูล 3-4 เชลซี (ผลประตูรวม)


ในปีต่อมา ทั้งสองทีมก็ได้พบกันเป็นสามปีซ้อน มูรินโญ่อาจไม่ได้คุมทีมเชลซีอีกต่อไป แต่มีอัฟรัม แกรนท์ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างไร้ข้อกังขาหลังนำลูกทีมเอาชนะโอลิมเปียกอส และเฟเนร์บารหฺเช่ ผ่านเข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายมาได้ ในขณะที่เจ้ายุโรปอย่างลิเวอร์พูลก็สามารถทำผลงานในยุโรปได้ดีต่อเนื่องโดยที่สามารถผ่านเข้ารอบโดยการเอาชนะอินเตอร์มิลานและอาร์เซน่อล

ครั้งนี้ เกมแรกจะเตะกันในแอนฟิลด์ และโชคกลับไปอยู่ฝั่งเชลซี เมื่อเจ้าบ้านได้บุกหลายครั้งในครึ่งแรก เจ้าถิ่นขึ้นนำจากความขยันของเค้าท์ จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมของอลอนโซ่ และมาสเคราโน่บริเวณเส้นเขตโทษ และดูเหมือนว่าเกมจะจบเพียงเท่านั้น จนกระทั่งริเซ่จะสะกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป ซึ่งทำให้ทีมเยือนเป็นฝ่ายได้เปรียบจากกฏประตูทีมเยือน

ในนัดที่สองในลอนดอน ผลการแข่งขันหลังจบ 90 นาทีไปนั้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสนามแห่งนี้ โดยมีดรอกบาทำประตูนำลิเวอร์พูลออกไปก่อนในช่วงครึ่งแรก แต่ไม่นานเฟอร์นันโด ตอร์เรสก็ซัดประตูตีเสมอให้กับทีมเยือนได้ และก็กลายเป็นอีกเกมแสนลำบากทีทั้งสองทีมต้องดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ครั้งนี้ไม่ได้จบแบบไร้สกอร์ ดรอกบาได้ยิงประตูให้ทีมเจ้าบ้านได้อีกครัง ก่อนที่แลมพาร์ดก็ได้จะสังหารประตูตอกย้ำชัยชนะให้กับเชลซีได้เป็นผลสำเร็จ แม้ไรอัน บาเบลส่งบอลถึงก้นตาข่ายได้ แต่ก็สายเกินไปที่จะทำให้ลิเวอร์พูลจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้

นับเป็นความโชคดีถึงสามครั้งของเชลซี แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถคว้าชัยในศึกแชมป์เปี้ยนสลีกได้อยู่ดีด้วยที่พวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในรอบชิงชนะเลิศ.



                     
วัดความคมสองกองหน้าความหวังของเชลซี-ลิเวอร์พลู





ที่มา LIVERPOOLTHAILAND.COM


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์