Hot Clip เหนือกว่าเยอะ บาซ่า 2-0 แมนยู ฟาดแชมป์ยุโรป














ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศ วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2552 บาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มระดับมนุษย์ต่างดาวล้มแมนฯยู 2:0 ครองแชมป์เจ้ายุโรปเป็นสมัยที่ 3






ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ


วัน พุธ ที่ 27 พฤษภาคม 2552



บาร์เซโลน่า 2:0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม
ผู้ตัดสิน : มาสซิโอ บูซัคก้า (สวิตเซอร์แลนด์)

     บาร์เซโลน่า :ที่คว้ามาแล้วทั้งถ้วยลาลีกา และถ้วยโคปา เดล เรย์ ได้ เธียร์รี่ อองรี และอันเดรส อิเนียสต้า มากับทีมด้วยแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องความฟิตเช่นเดียวกับ อัลเบอร์โต้ โบเตีย กองหลังดาวรุ่งของทีมและ มาร์ค มูเนียซ่า แข้งดาวรุ่งวัย 17 ที่เพิ่งถูกไล่ออกจากสนามในเกมพ่ายโอซาซูน่า 0:1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางด้านแนวรับจะไม่มี เอริค อัลบิดัล และดาเนี่ยล อัลเวส ติดโทษแบน ส่วนราฟาเอล มาร์เกวซ เจ็บยาว

     แมนฯยู :จะได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก่งของทีมกลับมาลงสนาม หลังจากหายหน้าหายตาไปนานถึง 3 สัปดาห์จากปัญหาบาดเจ็บน่องและวืดเกมปิดซีซั่นกับฮัลล์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยจะจับคู่กับเนมันย่า วิดิช แน่นอน ทำให้จอนนี่ อีแวนส์ ต้องนั่งดูคอยสแตนด์บายเท่านั้น ส่วนแดนหน้าป๋าเฟอร์กี้ น่าจะใช้กองหน้าตัวเดียวคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และโยก เวย์น รูนี่ย์ เล่นปีกซ้าย รวมทั้งปาร์ค จี-ซุง เล่นทางขวา แดนกลางน่าจะใช้ไมเคิ่ล คาร์ริค กับไรอัน กิ๊กส์ โดยมีแอนเดอร์สัน เป็นตัวตัดเกม

ครึ่งแรก
     เริ่มเกมการแข่งขันมาได้เพียง 2 นาทีแรก แมนฯยู ได้ฟรีคิก โรนัลโด้ ปั่นเข้าไป บัลเดส รับหลุดมือ ปาร์ค จี-ซุง ตามซ้ำบอลออกหลัง แมนฯยู เตะมุม
     นาที 7 โอกาสยังคงเป็นของแมนฯยู ได้โอกาสยิงไกลจาก โรนัลโด้ ซัดด้วยขวานอกกรอบระยะไกลบอลไม่ตรงเป้า จากนั้นอีก 1 นาที โรนัลโด้ มีโอกาสได้ยิงอีกไม่ตรงกรอบ
     แต่แล้วเพียงโอกาสแรกของ บาร์เซโลน่า นาที 10 บอลแทงมาทาขวาถึง เอโต้ จี้เข้าเขตโทษล๊อกหลบ วิดิช ก่อนดีดเข้าระหว่าง ฟาน เดอร์ ซาร์ กับเสาเข้าไป บาร์ซ่านำ 1:0
     นาที 16 แมนฯยู มาได้ฟรีคิกในจังหวะที่ กิ๊กส์ ส่งบอลให้โรนัลโด้ โดนเคราร์ด ปิเก้ เข้าสกัดล้มลงและรับใบเหลืองไป ไรอัน กิ๊กส์ รับหน้าที่ปั่นข้ามคาน
     นาที 26 บาร์เซโลน่า เริ่มกลับมาครองบอลได้มากขึ้นและมาได้ฟรีคิกนอกเขต จังหวะ แอนเดอร์สัน เข้ากระแทก อิเนียสต้า ล้มลง ซาบี ปั่นมาเสาแรกบอลไม่ตรงเป้าออกหลังไป
     จากนั้นทั้งสองทีมต่างแทบไม่ได้ลุ้นเสียวกันมากนัก จนเวลาเลยมาช่วงท้ายๆเกมนาที 44 เมสซี่ เลี้ยงหลุดเดี่ยวขึ้นไปทางซ้ายถึงเส้นหลังก่อนเปิดเข้ากลาง ฟาน เดอร์ ซาร์ รับไม่ติดตัว แต่ไม่มีเพื่อนอยู่เลยสักคนที่จะซ้ำ จนหมดเวลาในช่วงครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ยังคงนำแมนฯยู อยู่ 1 ลูก


ครึ่งหลัง
     เริ่มเกมในช่วงครึ่งหลัง แมนฯยู จัดการเปลี่ยนตัวเอา คาร์ลอส เตเบซ ลงมาแทนแอนเดอร์สัน ทีนที จากนั้นจังหวะโต้กลับเร็วของบาร์ซ่า นาที 48 อันเดรส อิเนียสต้า แทงบอลยาวให้ อองรี ไปคนเดียว ล็อกหลบ เฟอร์ดินานด์ ล้มลงก่อนแปง่ายๆ ไม่ผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์
     บาร์ซ่า ยังครองบอลบุกได้ดีและมีโอกาสได้ลุ้นอีก จากจังหวะที่แมนฯยู พลาด เอโต้ ฉกบอลไปก่อนส่งให้ เมสซี่ ไปล้มในเชตโทษกรรมการไม่ว่าไรเล่นต่อ
     นาที 52 บาร์ซ่า มาได้ฟรีคิกอีก ซาบี ปั่นด้วยขวาบอลโค้งชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย
     ถัดมาอีก 56 แมนฯยู เกือบได้ลุ้นจากการโยนบอลด้านข้างเข้ามาหน้าประตู ตูเร่ เตะว่าว ปาร์ค จี-ซุง ไม่คิดว่าบอลจะมาถึงเข้าชาร์ทไม่ทัน
     เกมบุกของผีแดงเริ่มครองบอลได้ดีขึ้น แต่ยังเจาะแนวรับบาร์ซ่า เข้าทำประตูไม่ค่อยได้ จนนาที 66 แมนฯยู ส่งเบอร์บาตอฟ ลงมาแทน ปาร์ค จี-ซุง เสริมแนวรุกอีก
     นาที 70 เสียงเฮของบาร์ซ่า ดังลั่นสนามอีกครั้งเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ขึ้นโหม่งเหน่งๆเข้าประตูให้กับบาร์เซโลน่า นำห่าง 2:0 จากการเปิดของ ซาบี
     จากนั้นเพียงอึดใจ แมนฯยู เกือบได้ประตูตีไข่แตก แต่บาร์ซ่า ไม่ยอมให้ในจังหวะที่บอลเปิดมาจากทางขวาเลยมาถึง โรนัลโด้ แปไปติดหลังบาร์ซ่า ออกหลัง
     นาที 77 เจ๊ดโด้ ก็มาโดนใบเหลืองในจังหวะเล่นนอกเกม จากนั้นนาที 84 บาร์ซ่า ต่อบอลกันได้สวยส่งไปส่งมา ก่อนให้ ปูโยล ที่เติมขึ้นมาหลุดเข้าไปชิพ ไม่ผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์
     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บต่างทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที บาร์เซโลน่า ทำสำเร็จเอาชนะแมนฯยู ไปได้ 2:0 ครองเจ้ายุโรป ฤดูกาล 2008/2009 ทำให้เป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 3 และเป็นถ้วยในที่ 3 ในฤดูกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
บาร์เซโลน่า : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : บิคตอร์ บัลเดส
กองหลัง : คาร์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปิเก้, ยาย่า ตูเร่, ซิลวินโญ่
กองกลาง : เซร์คิโอ บุสเกตส์, ซาบี้ เฮอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า(เปดรีโต้ น.90)
กองหน้า : เธียร์รี่ อองรี(เซย์ดู เกอิต้า น.72), ลิโอเนล เมสซี่, ซามูเอล เอโต้
ตัวสำรอง : ปินโต้, คาเซอร์เรส, กุ๊ดยอห์นเซ่น, มูเนียสซ่า, โบยาน เกอร์กิซ, เปดรีโต้, เซย์ดู เกอิต้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กองหลัง : เนมันย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น โอเชียร์, ปาทริซ เอวร่า
กองกลาง : แอนเดอร์สัน(คาร์ลอส เตเบซ น.46), ไรอัน กิ๊กส์(พอล สโคลส์ น.75), ไมเคิ่ล คาร์ริค
กองหน้า : ปาร์ค จี-ซุง(ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.66), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์
ตัวสำรอง : โทมัส คุสแซ็ค, นานี่, ราฟาเอล ดา ซิลวา, จอห์นนี่ อีแวนส์, พอล สโคลส์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, คาร์ลอส เตเบซ

ทำเนียบแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93
1992-93 โอลิมปิก มาร์กเซย ชนะ เอซี มิลาน 1:0 โอลิมปิก สตาดิโอน มึนเช่น, เยอรมัน
1993–94 เอซี มิลาน 4:0 บาร์เซโลน่า โอลิมปิก สเตเดี้ยม เอเธนส์, กรีซ
1994–95 อาแจ็กซ์ ชนะ เอซี มิลาน 1:0 แอร์นส์ท-ฮัปเปล-สตาดิโอน เวียนนา, ออสเตรีย
1995–96 ยูเวนตุส เสมอ อาแจ็กซ์ 1:1 (จุดโทษ ยูเวนตุสชนะ 4:2) สตาดิโอ โอลิมปิโก้ โรม, อิตาลี
1996–97 ดอร์ทมุนด์ ชนะ ยูเวนตุส 3:1 โอลิมเปีย สตาดิโอน มึนเช่น, เยอรมัน
1997–98 รีล มาดริด ชนะ ยูเวนตุส 1:0 อัมสเตอร์ดัม อารีน่า อัมสเตอร์ดัม, ฮอลแลนด์
1998–99 แมนฯยู ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2:1 คัมป์ นู บาร์เซโลน่า, สเปน
1999–2000 รีล มาดริด ชนะ บาเลนเซีย 3:0 สต๊าด เดอ ฟร๊องซ์ ปารีส, ฝรั่งเศส
2000–01 บาเยิร์น มิวนิค เสมอ บาเลนเซีย 1:1 (จุดโทษ บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 5:4) ซาน ซิโร่ มิลาน, อิตาลี
2001–02 รีล มาดริด ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2:1 แฮมป์เดน พาร์ค กลาสโกว์, สกอตแลนด์
2002–03 เอซี มิลาน เสมอ ยูเวนตุส 0:0 (จุดโทษเอซี มิลานชนะ 3:2) โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์, อังกฤษ
2003–04 ปอร์โต้ ชนะ โมนาโก 3:0 อัลฟ์ ชาลเก้ อารีน่า เกลเซ่นเคียร์เซ่น, เยอรมัน
2004–05 ลิเวอร์พูล เสมอ เอซี มิลาน 3:3 (จุดโทษลิเวอร์พูลชนะ 3:2) อตาเติร์ก สเตเดี้ยม อิสตันบูล, ตุรกี
2005–06 บาร์เซโลน่า ชนะ อาร์เซน่อล 2:1 สต๊าด เดอ ฟร๊องซ์ ปารีส, ฝรั่งเศส
2006–07 เอซี มิลาน ชนะ ลิเวอร์พูล 2:1 โอลิมปิก สเตเดี้ยม เอเธนส์, กรีซ
2007–08 แมนฯยู เสมอ เชลซี 1:1 ลุซนิกิ สเตเดี้ยม มอสโก, รัสเซีย

สถิติสโมสรที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
9 ครั้ง : รีล มาดริด
7 ครั้ง : เอซี มิลาน
5 ครั้ง : ลิเวอร์พูล
4 ครั้ง : บาเยิร์น มิวนิค, อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
3 ครั้ง : บาร์เซโลน่า, แมนฯยู
2 ครั้ง : เบนฟิก้า, ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ปอร์โต้
1 ครั้ง : เซลติก, ฮัมบูร์ก, สเตอัว บูคาเรสต์, โอลิมปิก มาร์กเซย, เฟเยนูร์ด, แอสตัน วิลล่า, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, เร้ด สตาร์ เบลเกรด, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

Barcelona 2 Man Utd 0
Manchester United left Rome in ruins, as they were not just beaten but played off the park by a Barcelona team superior in every department.













by สิงห์ฟ้าขาว(แฟนคลับเจ้าหนูเมสซี่)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์