Frank Ribery ( ฟร้องค์ ริเบรี่ )


สมญานาม นิว ซีดาน ที่สื่อและแฟนบอลมอบให้กับ ฟรองค์ ริเบรี่ ก็คงจะพอบ่งบอกได้ถึงฝีเท้าอันโดดเด่นของเพลย์เมกเกอร์ชาวฝรั่งเศส ที่กำลังทำผลงานกับบาเยิร์น มิวนิค ได้อย่างยอดเยี่ยมในเวลานี้

       ซีเนอดีน ซีดาน อดีตยอดนักเตะชื่อก้องโลก ให้นิยาม ริเบรี่ ว่า เป็นอัญมณีน้ำงามแห่งวงการฟุตบอลฝรั่งเศส ขณะที่ เธียร์รี่ อองรี ยกย่องเขาว่า เป็นเหมือนฝันร้ายของกองหลังทุกคน ซึ่งแค่ 2 คนนี้ออกมาพูดก็มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่ามิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้จะกลายเป็นหนึ่งในทำเนียบตำนานนักเตะในอนาคตได้แบบไม่ยากเย็น

        ย้อนกลับไปในวัย 2 ขวบ เด็กชายฟรองค์ และพ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง จนทำให้เขามีรอยแผลเป็นที่ใบหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ แต่โชคยังดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นพิการเพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มี นิว ซีดาน ดังเช่นวันนี้ ส่วนชีวิตครอบครัวในปัจจุบัน ริเบรี่ แต่งงานแล้วกับวาฮิบา ซึ่งมีเชื้อสายอัลจีเรีย และนั่นทำให้เขาต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามด้วย โดยทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 2 คนชื่อ ฮิซย่า และ ชาฮิเนซ


       แม้ว่าจะมีรูปร่างที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมอาชีพทั่วไป แต่ ริเบรี่ ก็ชดเชยด้วยความเร็วและเซนส์บอลอันยอดเยี่ยม รวมถึงการผ่านบอลอันเฉียบขาดหรือแม้แต่การทำประตูเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งหลังจากที่ผ่านมาทั้งช่วงเวลาที่ดีและร้ายในเส้นทางการค้าแข้ง ดูเหมือนว่าตอนนี้ ริเบรี่ จะลงตัวแล้วกับการเป็นจอมทัพให้กับ เสือใต้


       นักเตะเจ้าของความสูงเพียง 171 ซม. เริ่มเป็นที่รู้จักนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ เม็ตซ์ ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ กาลาตาซาราย ในลีกตุรกี เมื่อเดือนม.ค. 2005 ด้วยสัญญา 3 ปีครึ่ง ก่อนจะช่วยพาทีมคว้าแชมป์เตอร์กิช คัพ 2005 ด้วยการทำประตูสำคัญ 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะช่วยยิง 1 จ่าย 1 ในเกมที่เอาชนะ เฟเนร์บาห์เช่ ในนัดชิงดำ


       ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้แฟนบอลกาลาตาซาราย ยกให้ ริเบรี่ เป็นฮีโร่คนใหม่ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตั้งนิคเนมให้ว่า แฟร์ร่า ริเบรี่ และ เฟอร์รารี่ อันสื่อถึงความเร็วของเขานั่นเอง


       อย่างไรก็ตาม หลังจบฤดูกาล 2004/05 ดาวเตะเลือดน้ำหอม ก็สร้างความแค้นเคืองให้กับกองเชียร์กาลาตาซาราย เมื่อเขาตัดสินใจฉีกสัญญากับต้นสังกัด และย้ายไปร่วมทีมโอลิมปิก มาร์กเซย หลังเล่นในลีกไก่งวงได้แค่ 5 เดือน และนั่นก็ทำให้ทีมดังของตุรกี ต้องยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) เพื่อเรียกค่าชดเชยมูลค่า 10 ล้านยูโร (ราว 500 ล้านบาท) หลังจากที่ฟีฟ่าไม่รับคำร้องของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2007 ซีเอเอส ก็ปฏิเสธคำอุทธรณ์ของกาลาตาซารายในที่สุด


       หลังจากที่ย้ายมาเล่นให้กับ มาร์กเซย แล้ว ริเบรี่ ก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกำลังสำคัญให้ทีมโอแอ็ม ได้เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และในฤดูกาล 2006-07 มาร์กเซย ก็จบด้วยการเป็นรองแชมป์ลีก เอิง โดย เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศส มีสถิติทำ 14 ประตู ในการลงสนาม 68 นัดรวมทุกถ้วย ตลอด 2 ฤดูกาลที่อยู่กับโอแอ็ม


       ความเร็ว พละกำลัง ทักษะ การจ่ายบอลสวยๆ ทำให้ ริเบรี่ กลายเป็นหนึ่งในสตาร์ที่เด่นที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย ที่ประเทศเยอรมัน และสุดท้ายก็กลายเป็น เสือใต้ ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ ที่ทุ่มเงินซื้อตัวเป็นสถิติสูงสุดของบุนเดสลีก้าเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2007 ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร (ประมาณ 1,250 ล้านบาท)


        ริเบรี่ ได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเคยเป็นของ เมห์เม็ต โชลล์ อดีตตำนานของบาเยิร์น ที่เพิ่งแขวนสตั๊ด โดยดาวเตะเลือดน้ำหอม ประเดิมสนามนัดแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ในเเกมอุ่นเครื่องกับเอฟที เกิร์น ซึ่ง เสือใต้ ถล่มแหลก 18-0 และ ริเบรี่ ทำได้ 2 ประตู ส่วน เกมอย่างเป็นทางการนัดแรก เป็นการพบกับแวร์เดอร์ เบรเมน ในรอบแรกของเยอรมัน ลีก คัพ โดยเขาทำได้ 2 ประตูและช่วยให้ บาเยิร์น ชนะไป 4-1 จากนั้น ก็ทำอีกประตูให้ทีม เอาชนะ สตุ๊ตการ์ท แชมป์บุนเดสลีก้า 2-0 ในรอบตัดเชือก แต่ในรอบชิงชนะเลิศ ริเบรี่ โชคร้ายมีอาการบาดเจ็บทำให้ไม่ได้ลงสนาม แต่ลูกทีมของ อ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ ก็ยังคว้าแชมป์ไปครองได้ด้วยการชนะ ชาลเก้ 1-0


        เมื่อฤดูกาลเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ริเบรี่ ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และการจ่ายบอลสวยๆ ของเขาก็ทำให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ ลูก้า โทนี่ สองกองหน้าใหม่ของบาเยิร์น ที่เพิ่งซื้อมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์พร้อมๆ กัน ทำประตูได้อย่างต่อเนื่องและทำให้ เสือใต้ มีโอกาสสูงที่จะทวงแชมป์บุนเดสลีก้าคืนมาด้วย นอกจากนั้น ยังได้ลุ้นทริปเปิลแชมป์จากยูฟ่า คัพ และเดเอฟเบ โพคาล ด้วย


        ด้าน ผลงานกับทีมชาตินั้น ริเบรี่ ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2006 ในเกมที่ฝรั่งเศส ชนะ เม็กซิโก 1-0 หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทน ดาวิด เทรเซเก้ต์ ในนาทีที่ 74 ก่อนจะได้เป็นตัวจริงครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ปีเดียวกัน ในเกมที่พบกับ สวิตเซอร์แลนด์


        ส่วน ประตูแรกกับทีม ตราไก่ นั้น ริเบรี่ ทำได้ในเกมที่ช่วยให้ทีมตีเสมอ สเปน 1-1 ก่อนที่ฝรั่งเศส จะเอาชนะไป 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะช่วยให้ทีมผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ และไปพ่ายให้กับ อิตาลี ในที่สุด


































ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : ฟรองค์ บิลาล ริเบรี่
วันเกิด : 1 เมษายน 1983
เกิดที่ : บูล็องญ์-ซูร์-แมร์, ฝรั่งเศส
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก / ปีก
ส่วนสูง : 171 ซม.
สโมสรปัจจุบัน : บาเยิร์น มิวนิค
หมายเลขเสื้อ : 7





สโมสรอาชีพ








ปี


สโมสร


ลงเล่น


ประตู
















































2001 - 2002 บูล็องญ์ 24 5
2002 - 2003 โอลิมปิค อาแลส 18 1
2003 - 2004 สต๊าด เบรตัวส์ 35 5
2004 - 2005 เม็ตซ์ 14 0
2005 กาลาตาซาราย 20 1
2005 - 2007 มาร์กเซย 60 11
2007 - ปัจจุบัน บาเยิร์น มิวนิค 23 6
ทีมชาติ      
ปี 2006-ปัจจุบัน  ฝรั่งเศส  25  3

 (ข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2551)


ไฮไลต์การเล่นอาชีพ
- คว้าแชมป์เตอร์กิช คัพ 2005 กับ กาลาตาซาราย
- แชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ 2005 กับ โอลิมปิก มาร์กเซย
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีก เอิง ฝรั่งเศส ในปี 2006 กับ โอลิมปิก มาร์กเซย
- รองแชมป์เฟร้นช์ คัพ 2006 กับ โอลิมปิก มาร์กเซย
- รองแชมป์เฟร้นช์ คัพ 2007 กับ โอลิมปิก มาร์กเซย
- รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติฝรั่งเศส
- แชมป์ลีกา โพคาล 2007 กับ บาเยิร์น มิวนิค
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2007 ของฝรั่งเศส




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์