เว็บบ์ไม่ต้อง!ผีคมกว่าเชือดหงส์ 2-1 นำฝูง 10 แต้ม

 ศึกแดงเดือดเก่งคนละครึ่งลงท้ายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาศัยคมกว่าได้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่และเนมันย่า วิดิชลำเลียงกระสุนเบียดเอาชนะลิเวอร์พูลคู่ปรับที่ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ทำสถิติลง 2 นัดยิง 2 ลูกกู้หน้าพ่ายพะอืดพะอม 2-1 ส่งให้ปีศาจแดงฉีกหนีเรือใบห่างกระจุย 10 แต้มแล้ว

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 ลิเวอร์พูล

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตู :
1-0 ฟาน เพอร์ซี่ น.19, 2-0 วีดิช น.54, 2-1 สเตอร์ริดจ์ น.57

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลในศึกแดงเดือดครั้งที่ 2 ของฤดูกาล หลังจากเป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะได้ถึงแอนฟิลด์เมื่อครึ่งซีซั่นแรก 2-1

เซอร์ อเล็กซ์เสี่ยงหรือเปล่าไม่รู้จะตัดสินใจให้เฟอร์ดินานด์และวีดิชลงจับคู่กันเป็นเกมแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ต้องดูว่าแข้งมากประสบการณ์ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งสองจะไหวกันไหม

รูนี่ย์ยังกลับมาไม่ทันสำหรับเกมนี้ ทำให้ฟาน เพอร์ซี่จะลงยืนหน้าเป้า โดยมีคากาวะและเวลเบ็คคอยประสานงานช่วย

ลิเวอร์พูลแน่นอนว่าไม่เจ็บไม่ไข้ซัวเรซต้องลงคอยล่าตาข่ายให้กับทีมและมีเจอร์ราร์ดจับคู่ประสานงานกับลูคัสในแดนกลาง ส่วนเชลวี่ย์ที่เกมแรกโดนใบแดงแล้วมีปากเสียงกับเฟอร์กี้นั้นเป็นเพียงแค่สำรอง

ผลงานในระยะหลังแมนฯยูไนเต็ดสะดุดเจ๊าไปเกมก่อนที่จะไล่เก็บชัยได้ 3 นัดรวด ยังรั้งจ่าฝูงอยู่ ส่วนลิเวอร์พูลอยู่ในอันดับที่ 8 เก็บ 3 คะแนนมา 2 เกมติดเอาง่ายๆวันนี้สถิติเปลี่ยนแน่นอน

ครึ่งแรก

ผีมาสไตล์เจ้าบ้าน
ผ่าน 10 นาทีแรก เกมเป็นของแมนฯยูไนเต็ดมากกว่าในเรื่องของการครองบอลคตามสไตล์ที่พวกเขาได้เล่นในถิ่นของตัวเอง ซึ่งลิเวอร์พูลเองไม่กังวลอะไรอยู่แล้ว เพราะเน้นเกมชัวร์ไว้ก่อน โอกาสค่อยหา ไม่ยาก
เกมดูเกร็งๆทั้งสองทีม
นอกจากความสำคัญเรื่องคะแนนแล้ว เกมแดงเดือดทุกครั้งมีศักศรีดิ์เข้ามาเกี่ยว ทำให้การไหลของบอลในจังหวะบุกของทั้งสองทีมมันไม่ได้เคลื่อนหน้าตั้งอย่างเดียว ต้องเน้นความชัวร์ด้วย เลยสู้กันซะมาก โอกาสยิงยังไม่เปิด

อย่ากระพริบตา!RVP เข้าตำแหน่งแปเสียยตาข่าย
เกมระดับนี้อย่าได้พลาดเชียว เพราะในนาทีที่ 19 แนวรับลิเวอร์พูลเหม่อกันไปเอง วิสดอมยืนห่างจากด้านข้าง โดนเอฟร่าที่รับบอลมาจากเคลฟเวอร์ลี่ย์กระชากจี้เข้าหาก่อนเปิดยัดเข้ากลางให้ฟาน เพอร์ซี่ที่ลูบปากรอยืนตั้งศูนย์แปด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเลียดผ่านมือเรน่าเข้าไปประตูไป แมนฯยูไนเต็ดได้ไวเลย 1-0

หงส์ไม่เป๋ตั้งเกมลุยต่อ
แม้ว่าจะโดนค่อนข้างเร็วในเกมที่มาเยือนแบบนี้ แต่ลิเวอร์พูลไม่มีอาการเมาหมักแต่อย่างใด เซ็ตเกมลุยกันใหม่ แต่รวมๆก็ไม่ได้ต่างจากเดิมคือได้บุกแต่ไม่ถึงไหนมาก จริงๆถ้าแมนฯยูไนเต็ดไม่ได้ประตูของฟาน เพอร์ซี่ก็คงไม่ต่างเท่าไหร่

RVP แล้วไง!โก๋แดนยิงเองแม่งเลย
นาทีที่ 34 พลาดโอกาสทำประตูไปเหมือนกันสำหรับเวลเบ็ค จังหวะแรกเขาได้ส้มหล่นจากความผิดพลาดที่ลิเวอร์พูลจ่ายมั่วกันเอง แตะหนีไปตวัดยิงในเขตโทษได้ แต่ติดแอกเกอร์ที่พุ่งบล็อกทัน ก่อนมีอีกจังหวะกระชากเข้าไปในเขตโทษ มีฟาน เพอร์ซี่รออยู่ตรงกลาง แต่แข้งโก๋แดนเลือกฝืนยิงด้วยซ้ายแม้มุมจะแคบ บอลเลยพุ่งออกไปไกล

นึกว่าเสียบ!เด็กฉลาดวอลเล่ย์เสียว
นาทีที่ 41 เอาซะมุมกล้องหลอกตากันเลยกับจังหวะนี้ที่ยังคล้องเปิดเข้าเขตโทษเวลเบ็คขึ้นโหม่งเช็ดก่อนที่บอลจะไปตกลงหน้าของเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่วิ่งมาบวกวอลเล่ย์ด้วยซ้าย แต่บอลมันพุ่งติดไซด์เลี้ยวหนีเสาประตูเฉี่ยวออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง

นิดเดียว!RVP ไขว้ติด-เรน่าน็อค
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก คาร์ริคจัดการโชว์จังหวะวางบอลสุดสวยยาวไปให้กับราฟาเอลเกี่ยวลงในเขตโทษ แม้ว่าจะเสียหลักแต่ก็จิ้มต่อให้ฟาน เพอร์ซี่ที่โฉบมาไขว้หวังให้ไกลเข้าเสา แต่ติดบล็อกซะก่อน ต่อเนื่องเลยคากาวะวิ่งมาพยายามซ้ำดาบสองแต่ไม่โดนปั้มเข้ากับเรน่าจังเบอร์ จังหวะเคลียร์ไปแล้ว แต่เรน่ายังลุกไม่ขึ้น จนต้องมีการหยุดเกมเพื่อให้มาดูอาการ

จบ 45 นาทีแรก ดูจากเกมแล้วต้องบอกเลยว่าแมนฯยูไนเต็ดน่าเสียดายที่ยังไม่ได้ลูกสองเพราะพวกเขามีโอกาสจะๆอยู่ 2 ครั้งแต่ลิเวอร์พูลก็ยังช่วยกันได้ดี ต้องดูว่านำอยู่แค่ 1-0 แบบนี้ครึ่งหลังจะมีการพลิกสถานการณ์กันเกิดขึ้นหรือไม่

ครึ่งหลัง

ทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเหมือนกัน แมนฯยูไนเต็ดถอดยังที่มีอาการบาดเจ็บออกไปแล้วให้วาเลนเซียลงทำหน้าที่แทน ส่วนลิเวอร์พูลก็ให้สเตอร์ริดจ์ได้ประเดิมในพรีเมียร์ ลีกกับทีม แล้วเอาลูคัสที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่ออก

ปีนี้ของเขา!พี่ติ๊กขึ้นมาโขกแฉลบผีได้อีกเม็ด
นาทีที่ 54 เป็นปีที่น่าจดจำของเอฟร่าจริงๆ เพราะเขามีส่วนในการทำประตูอีกแล้ว จากจังหวะฟรีคิกของฟาน เพอร์ซี่ที่สเคอร์เทลไปเหนี่ยวเวลเบ็คแบบเจตนาทั้งที่จะหลุดแล้วก่อนรับใบเหลือง แข้งดัตช์ปั่นบอลไปเสาสอง เอฟร่ามาจากไหนไม่รู้สอดขึ้นโขกบอลแฉลบไหล่ของวีดิชนิดหนึง ทำให้พุ่งดิ่งลงชิ่งพื้นเข้าประตูไป เรน่ารับไม่ไหวจริงๆ เกมห่าง 2-0 แล้ว
ประมาท!ผีพลาดโดนโปรเลี้ยงเปิดซิงเอาคืนทันควัน
มันชักจะมันส์ขึ้นเรื่อยๆแล้ว เมื่อลิเวอร์พูลมาเอาคืนอย่างทันควันจากจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดเล่นประมาทโคตรๆจ่ายบอลกันเสียหน้าประตู เจอร์ราร์ดเลยได้สับไกยิงนอกกรอบ เด เกอาพุ่งปัดเข้าสูตรเดิมเหมือนที่เคยเสีย เมื่อโดนสเตอร์ริดจ์วิ่งเข้าซ้ำสบายแฮ เป็นประตูแรกของเขาในสีเสื้อ 'หงส์แดง' ไล่มาเป็น 2-1 ยังไม่ยอมง่ายๆ

คากาวะยิงติดเซฟเรน่า
นาทีที่ 64 ถ้าเข้าไปนี่สวยน่าดู สำหรับจังหวะของคากาวะที่เข้าเก็บตกบอลซึ่งเวลเบ็คจ่ายติดกองหลัง บรรจงปั่นอ้อมก่ะให้เสียบเสาแรก แต่เรน่าอ่านทางเยี่ยมพุ่งบินปัดทิ้งได้ทันหวุดหวิด

แลก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีลิเวอร์พูลก็ส่งบอรินี่ลงไปเล่นแทนสเตอร์ลิ่งซึ่งฟอร์มไม่กระดิกสักนิด แถมยังแอบหวงบอลไปด้วย

ผีชักจะเสียบอลง่าย
กลายเป็นเข้าฟอร์มประจำฤดูกาลนี้ยังไงก็ไม่รู้สำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่เสียบอลกันง่ายดาย ผิดกับครึ่งแรกลิบลับ จ่ายเป็นเสีย โดยเฉพาะในแดนกลางที่ความผิดพลาดมีเยอะขึ้น ลิเวอร์พูลเลยได้กดดันต่อเนื่อง เผลอๆเดี๋ยวได้มีเสมอ

เกมบีบเหลือหลาย-ผีถอดชินจิ
เข้า 15 นาทีสุดท้าย เกมบีบสุดๆเลยในตอนนี้เพราะประตูต่อไปมันจะพลิกโฉมหน้าได้ทั้งนั้นและทั้งสองทีมก็ถือว่ามีโอกาสไม่ต่างกันที่จะทำในจุดนั้น ส่วนแมนฯยูไนเต็ดส่งส่งโจนส์ลงไปเล่นแทนคากาวะเพื่อเน้นเกมรับและความแน่นในการปะทะให้มากขึ้น

หงส์ได้กดดันต่อเนื่องแล้ว
ตอนนี้เป็นเกมของลิเวอร์พูลเกือบๆจะทั้งหมด เพราะแน่นอนว่าแมนฯยูไนเต็ดคงไม่กล้าเสี่ยง เฟอร์กี้เพิ่งส่งสมอลลิ่งแทนวีดิช ด้านลิเวอร์พูลจัดเฮนเดอร์สันแทนอัลเลน เหลือไม่ถึง 10 นาทีแล้ว

ใจจะขาด!โปรเลี้ยงยิงหลุดคาน
เป็นจังหวะที่แทบจะหยุดหายใจ เพราะลิเวอร์พูลวิ่งเข้าไปในเขตโทษของแมนฯยูไนเต็ด แย่งบอลขลุกคลิกไปมาแทบหาไม่เห็นว่าหล่นอยู่ตีนใคร สุดท้ายทะลักถึงสเตอร์ริดจ์ที่ยืนรองบอลอยู่วิ่งมาบวก แต่หลุดคานออกไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
: ดาบิด เด เกอา, ราฟาเอล, ปาทริซ เอฟร่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วีดิช, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง, แดนนี่ เวลเบ็ค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ชินจิ คากาวะ

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม :

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ดาเนียล แอกเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อังเดร วิสดอม, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส, โจ อัลเลน, หลุยส์ ซัวเรซ, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม :





















เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์