เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกแรงเหนื่อยหนักเลยเจอเฟลไลนี่โขกนำไปก่อนแต่ก็เป็นเขาที่มาทำเสียจุดโทษให้เตเบซยิงตีเสมอมาแต่แม้จะได้ครองบอลเยอะกว่าตลอดเกมที่เหลือแต่ก็เจาะท๊อฟฟี่สีน้ำเงินเอฟเวอร์ตันไม่เข้าทำให้จบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไป 1-1 ขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราวรอดูผลของคู่แมนฯ ยูไนเต็ดที่จะแข่งต่อจากนี้
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1:1 เอฟเวอร์ตัน
ประตู : 0-1 เฟลไลนี่ น.33, 1-1 เตเบซ(จุดโทษ) น.43
เจ้าบ้านแมนฯ ซิตี้เกมนี้เลือกให้เซโก้กับเตเบซจับคู่กันในแดนหน้าและนาสรี่ก็กลับคืนสู่ทีมอีกครั้งเช่นเดียวกับเลสคอตต์ที่ได้เป็นตัวจริงอีกหน ส่วนนาสตาซิชหายไปจากทั้งตัวจริงและสำรอง
ด้านเอฟเวอร์ตันเบนส์ผ่านความฟิตลงสนามเป็นตัวจริงได้เช่นเดียวกับเยลาวิชทำให้ตัวจริงเหมือนกับเกมที่เสมออาร์เซน่อลมาเมื่อกลางสัปดาห์ทุกตำแหน่ง
ด้านสถิติเมื่อแมนฯ ซิตี้เป็นเจ้าบ้าน 15 เกมในลีกที่ผ่านมากับเอฟเวอร์ตันไม่มีคำว่าเสมอเลย โดยเรือใบยังคงไม่แพ้ในฤดูกาลนี้มา 14 เกมแล้ว ส่วนท๊อฟฟี่เก็บชัย 8 เกมหลังในลีกได้แค่นัดเดียวนอกนั้นเสมอซะ 6 นัด
ครึ่งแรก
เจ็บแต่หัววัน..โคลารอฟโดนเปลี่ยนตัวไวเลย
เกมเริ่มมาเพียงแค่ 6 นาทีแรกเรือใบต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไวเลยหลังโคลารอฟได้รับบาดเจ็บแล้วก็เล่นต่อไม่ไหว ซาบาเลต้าเลยโดนเปลี่ยนลงสนามมาแทนที่เขาไป
สองทีมยังไม่ได้ลุ้นอะไรกันมากนัก
หลังจากนั้นรูปเกมของทั้งสองทีมยังไม่ค่อยมีโอกาสให้ซี๊ดซ๊าดลุ้นประตูกันเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่บอลจะได้สู้กันตรงกลางสนามมากกว่าและเป็นฝั่งท๊อฟฟี่ที่ได้ครองบอลเยอะกว่าด้วย
เซโก้โหม่งแฉลบหลุดเสาออกหลัง
นาที 20 เกือบจะเป็นลูกออกนำของเรือใบแล้วจากช่วงที่ได้ขึงเอฟเวอร์ตันอยู่รอบเขตโทษก่อนบอลจะออกมาทางขวาให้ซิลบาได้ตั้งป้อมเปิดเข้าไปข้างใน เสาแรกมีเซโก้โฉบมาโหม่งโดนและเหมือนไปแฉลบแนวรับเอฟเวอร์ตันด้วยก่อนบอลจะหลุดเสาออกหลัง
นาสรี่ซัดเน้นๆแต่หัวเซโก้บล็อกวิธียิงซะงั้น
เกือบมาอีกแล้วสำหรับแมนฯ ซิตี้ที่ได้กดดันท๊อฟฟี่แบบต่อเนื่องจนได้โอกาสลองส่องอีกครั้งจากไมค่อนพาบอลขึ้นมาทางขวาแล้วจ่ายเข้าในเขตโทษให้เตเบซโฉบมาก่อนจะตวัดไปแถวจุดโทษให้นาสรี่วิ่งมายิงแต่ดันโดนหัวเซโก้บล็อกเต็มๆ
ตัวอันตราย!พี่ฟูโขกก่อนเข่าซ้ำพาทีมนำ
เกมออกจะนิ่งไปหน่อยแต่แล้วนาที 33 กลายเป็นว่าทีมเยือนมาได้ประตูออกนำไปก่อนเลยจากจังหวะบอลโดนสกัดมาทางซ้ายให้กับเบนส์ได้ตั้งป้อมบอมบ์เข้าไปในเขตโทษ มีกอมปานีโหม่งสกัดให้ที่เสาแรกแต่บอลยังหลุดมาถึงเฟลไลนี่เจ้าเก่ามาโขกเต็มหัว ฮาร์ทยังผวามาเซฟได้ยอดเยี่ยมแต่บอลไม่ไปไหนเจอพี่ฟูมาตามซ้ำด้วยเข่าเข้าไป เอฟเวอร์ตันออกนำไปก่อน 1-0
เตฟได้ยิงสองทีเน้นๆยังไม่เป็นประตู
แมนฯ ซิตี้ยังต้องบดต่อไปเรื่อยแม้โอกาสจบค่อนข้างจะหายากเหมือนกันแต่ก็เกือบมีประตูตีเสมอเป็นจังหวะได้ลุ้นติดๆกันสองทีจากลูกเปิดของนาสรี่ทางซ้ายเข้าไปให้เตเบซโหม่งเสยเกือบมุดเสียบเสาสองเจอฮาเวิร์ดบินปัด ก่อนอีกจังหวะเป็นยาย่าโขกเข้าในเขตโทษแบร์รี่โขกย้อนมาให้เตเบซยิงแฉลบก่อนลอยเข้ามือฮาเวิร์ดสบาย
ยังไม่ผ่าน!เซโก้ตวัดยิงติดเซฟฮาเวิร์ด
เข้าท้ายครึ่งแรกแล้วเกือบจะมีประตูตีเสมอของเจ้าบ้านอีกจากซิลบาที่ครองบอลอยู่ในเขตโทษ ก่อนจ่ายไปให้นาสรี่ทางซ้ายเปิดบอลเข้ามาข้างใน แบร์รี่เลือกพักอกคืนให้กับเซโก้ตวัดไวด้วยซ้ายยังติดเซฟฮาเวิร์ด
โธพี่ฟู...ทำเสียจุดโทษเรือไล่เจ๊าได้แล้ว
แต่ก่อนหมดเวลา 2 นาทีเรือใบก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้เป็นจังหวะที่มีการฟาวล์ในเขตโทษโดยเฟลไลนี่ไปเหนี่ยวๆดึงๆเซโก้นิดหน่อยจนล้มลง แต่กรรมการเลือกแจกเป็นจุดโทษให้ ก่อนเตเบซจะมารับหน้าที่สังหารเลือกยิงเข้ากลางประตู แมนฯ ซิตี้เจ๊า 1-1 แล้ว
เกือบแก้ตัว!พี่ฟูโขกหวิดเป็นลูกสอง
ทดเจ็บครึ่งแรกท๊อฟฟี่เกือบได้ประตูออกนำกันอีกแล้วจากลูกเปิดเข้าไปคราวนี้เป็นของพีนาร์บ้างแล้วมีเฟลไลนี่คอยโหม่งเสยเช็ดไปเสาไกลบอลจะกระดอนพื้นเข้าแล้วแต่ฮาร์ทก็ไวล้มตัวเซฟได้ก่อนจะจบลงที่เสมอกันอยู่ 1-1
ครึ่งหลัง
ครึ่งหลังเกมคึกคักกว่าเดิม
กลับมาครึ่งหลังเกมถือว่าเล่นกันเร็วขึ้นโอกาสของซิตี้ก็มาเยอะได้ครองบอลเกือบจะฝั่งเดียวแต่จังหวะยิงยังติดบล็อกซะส่วนใหญ่ ส่วนเอฟเวอร์ตันก็ได้ลองส่องไกลจากกิ๊บสันดูแต่บอลก็ไม่ตรงกรอบหลุดไปพอสมควรเลย
เตฟสอดมาโขกยังไม่ตรงกรอบ
นาที 60 โอกาสของเรือใบมากันอีกครั้งหลังได้ครองบอลเคาะไปมาอยู่แถวๆเขตโทษก่อนเป็นซิลบาไหลให้กับซาบาเลต้าแล่บเติมมาจากแบ็คซ้ายเข้าเขตโทษก่อนเลือกเปิดเข้าไปข้างในถึงหัวเตเบซได้โหม่งแต่ยังไม่ตรงกรอบ
ไมค่อยส่องไกลยังโดนทุบไว้ได้
ช่วงนี้มาถี่เลยสำหรับเจ้าบ้านได้โอกาสส่องอีกแล้วจากบอลออกไปทางขวาให้กับไมค่อนได้ทีพาตะลุยขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงเขตโทษท๊อฟฟี่ก่อนจะกดด้วยขวาทันทีบอลตรังตัวฮาเวิร์ดโดนทุบออกมายังเข้าทางจะตามไปเล่นต่อก็จบไม่ได้อีก
เรือใบครองบอลเยอะขาดเพียงจังหวะจบ
เรือใบยังครองบอลเยอะเหมือนเดิมขาดเพียงแค่จังหวะให้ได้จบแบบจังๆเท่านั้นส่วนใหญ่ต่อบอลกันมาถึงในเขตโทษได้แล้วแต่ปัญหาคือจังหวะจบ ใก้ลเคียงสุดน่าเป็นจังหวะปาดเข้ากลางของซิลบาจะให้กับเซโก้ยิงแต่เจอสกัดเอาจังหวะสุดท้าย
มันโช่ส่งโอ้แทนเซโก้ล่าตาข่าย
เข้าท้ายเกมแล้วชักจะนิ่งกันไปทั้งสองทีมโอกาสยิงยังหาแทบไม่เจอ แมนฯ ซิตี้ก็จัดการแก้เกมเอาบาโลเตลลี่ลงสนามมาแทนเซโก้หวังช่วยเจาะแนวรับเอฟเวอร์ตันที่แน่นหนา
เรือสะดุ้ง!เยลาวิชกดฟรีคิกยังโดนเซฟ
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวเรือใบเกือบล่มจมซะแล้วหลังไปเสียฟรีคิกเยื้องไปทางซ้ายหน้าเขตโทษก่อนเป็นเยลาวิชรับหน้าที่วิ่งเข้ามาซัดผ่านกำแพง ฮาร์ททุบไว้ได้บอลกระดอนอยู่หน้าประตูก่อนจะออกหลังเกือบโดนชาร์จเน้นๆเหมือนกัน
จบเกมแมนฯ ซิตี้ก็เสมอกับเอฟเวอร์ตันไป 1-1 ขยับไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราวก่อนด้วยลูกได้เสีย ส่วนเอฟเวอร์ตันก็เป็นผลเสมอมา 3 เกมติดแล้วแต่ยังได้อยู่อันดับ 6 เหมือนเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมค่อน, แวร์นซองต์ กอมปานี
, โจลีออน เลสคอตต์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ซามีร์ นาสรี่, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่, เอดิน เซโก้ (บาโลเตลลี่ น.81), คาร์ลอส เตเบซ
(อเกวโร่ น.68) สำรองไม่ได้ลงสนาม : คอสเทล พานทิลิมอน, ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, สกอตต์ ซินแคลร์, ฆาบี้ การ์เซีย
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, เลห์จัน เบนส์, ฟิล จาเกียลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, ดาร์รอน กิ๊บสัน, สตีเฟ่น เนสมิธ (โอเบียโด้ น.73), ลีออน ออสแมน, สตีเฟ่น พีนาร์, นิกิชา เยลาวิช (ไฮติงก้า น.90), มารูยาน เฟลไลนี่
สำรองไม่ได้ลงสนาม : แยน มูชา, โธมัส ฮิทเซิลสแปร์เกอร์, รอส บาร์คลี่ย์, มากาย กูเอเย่, อปอสโตลอส เวลิออส
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
