ลูกเดียวพอ!ฝอยทองเสร็จเจอหมีขาวเขมือบ 1-0 นำจ่าฝูง


 
โปรตุกีสถึงกับไปไม่เป็นเมื่อถูกอเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟกดประตูให้รัสเซียขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่นาที 6 แม้พยายามเร่งเกมทวงคืนอย่างไรก็ไร้ผล จบเกมพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-0 ปล่อยให้หมีขาวทะยายขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มเอฟแต่เพียงผู้เดียวด้วยสถิติชนะรวด 3 นัด

ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555


รัสเซีย 1 : 0 โปรตุเกส

สนาม : ลุซนิกี้ สเตเดี้ยม

ประตู : 1-0 อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ น.6


ฟาบิโอ คาเปลโล่นายใหญ่รัสเซียเมินเรียกแข้งตัวเก๋าอย่างอังเกร อาร์ชาวิน, โรมัน พาฟลิวเชนโก้ และ พาเวล โพเกรบเนี๊ยคมาติดทีมและอาศัยนักเตะที่ค้าแข้งในลีกตัวเองลงสู้ศึกทั้งหมด มีโรมัน ชิโรคอฟคุมแดนกลางร่วมกับอีกอร์ เดนิซอฟแล้วให้อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟคอยล่าตาข่าย

เปาโล เบนโต้ผู้จัดการทีมชาติโปรตเกสมีผู้เล่นให้ใช้งานครบครันหลังคริสติอาโน่ โรนัลโด้สลัดคราบเดี้ยงที่หัวไหล่ซ้ายลงประสานเกมรุกร่วมกับหลุยส์ นานี่และเฮลเดอร์ ปอสติก้าได้ตามปรกติ ขณะที่กลางสนามมีเจา มูตินโญ่กับมิเกล เวโลโซ่คอยบัญชาการเกม

ที่น่าสนใจคือยามใดที่หมีขาวได้เล่นในบ้านตัวเองก็มักทำผลงานได้ดีเพราะนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ปี 1992 พวกเขาลงเล่น 27 เกมชนะ 20 เสมอ 6 แพ้เกมเดียวเท่านั้น

ครึ่งแรก

หมีคึกจัด 6 นาทียิงนำแล้ว
ออกสตาร์ทมาเพียง 6 นาทีรัสเซียไม่พูดพร่ำทำเพลงพังประตูขึ้นนำโปรตุเกส 1-0 จากจังหวะที่ชิโรคอฟแทงบอลทะลุช่องให้เคอร์ซาคอฟหลุดไปล้อเป้าปาทริซิโอก่อนยิงสวนตัวเข้าไปอย่างเยือกเย็น


อัลเวสโขกเต็มกบาลโดนปัดทิ้ง
นาที 15 โปรตุเกสได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายแล้วเป็นเวโลโซ่ที่เปิดไปหน้าปากประตูให้อัลเวสเบียดโคโครินจนกระเด็นแล้วเทคตัวขึ้นโหม่งไปที่เสาไกลเจออคินเฟเยฟบินปัดทิ้งออกไปได้อย่างสวยงาม

โด้'รมเสีย!นานี่ใจแคบเพื่อนรอไม่มีจ่าย
เซเลเซายังเดินหน้าลุยเต็มที่หวังทวงสกอร์คืนจนนาที 27 นานี่ได้หลุดเข้าในไปกรอบเขตโทษด้านขวาซึ่งหน้าประตูมีโรนัลโด้กับปอสติก้ายืนรอส่วนบุญอยู่แต่เจ้าตัวดันยิงเองบอลหลุดออกไปไกลเลย

เกือบเบิ้ล!เคอร์ซาคอฟวอลเล่ย์ข้ามคาน
แต่หมีขาวไม่อยู่เฉยพยายามหาจังหวะฉาบฉวยเล่นงานผู้มาเยือนโดยนาที 33 เป็นจังหวะที่โคโครินพาบอลเข้าเขตโทษก่อนสะกิดบอลหนีตัวประกบให้เคอร์ซาคอฟวิ่งเข้าวอลเล่ย์ด้วยอีซ้ายข้ามคาน

เวโลโซ่รับเหลืองแรก
ใบเหลืองแรกของเกมเป็นของฝั่งอาคันตุกะเมื่อเวโลโซ่ไปเกี่ยวขาโคโครินในจังหวะที่เกือบหลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนที่เคอร์ชาคอฟปั่นฟรีคิกไปชนกำแพงมาให้วอลเล่ย์ซ้ำหลุดกรอบไปอีก

โด้จัดฟรีคิกตรงตัวอคินเฟเยฟ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกชิโรคอฟไปตัดฟาวล์โรนัลโด้ทำให้ซูเปอร์สตาร์เรอัล มาดริดได้โอกาสปั่นฟรีคิกระยะ 35 หลาบอลพุ่งเข้าหากรอบแต่ไม่ผ่านอคินเฟเยฟ เลยทำให้รัสเซียยังนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

หมีเปิดเกมลุยเอาเม็ดสอง
เข้าสู่ครึ่งหลังเป็นรัสเซียที่เดินหน้าบุกแม้ยังหาโอกาสจบสกอร์เหมาะๆไม่ได้แต่แนวรุกอย่างเคอร์ชาคอฟ, บิสตรอฟและโคโครินก็สร้างปัญหาให้กับเกมรับฝอยทองด้วยสปีดความเร็วอันเหลือร้าย


ฝอยทองทำเกมสวยเจอดักช็อตสุดท้าย
นาที 58 เวโลโซ่วางบอลข้ามไปริมเส้นด้านขวาให้นานี่แปะบอลจังหวะเดียวให้เปเรยร่าหลุดเข้าในกรอบเขตโทษก่อนเปิดยัดมาที่เสาแรกหมายให้โรนัลโด้เข้าชาร์จแต่อิ๊กนาเชวิชสไลด์ออกไปได้

สองทีมทะยอยปรับหมาก
เกมของโปรตุเกสยังไม่ได้เหนือกว่ารัสเซียเลยด้วยเหตุนี้พอมานาที 66 เบนโต้เลยส่งวาเรล่าลงมาแทนมิคาเอลพร้อมปรับระบบเป็นสองกองหน้า ขณะที่เจ้าบ้านเอาเคอร์ชาคอฟที่วิ่งจนหมดออกเช่นกัน

ฝอยทองหวิดโดนเพิ่ม
แต่พอมาถึงนาที 81 โปรตุเกสหวิดเสียประตูเพิ่มเมื่อปล่อยให้โคโครินลากบอลยาวจากเกือบกลางสนามเข้ามาส่องไกลไปโดนปาทริซิโอทุบออกมาหน้าเขตโทษเจอชิโรคอฟยิงสวนถากเสาออกไปอีก

ช่วงเวลาที่เหลือโปรตุเกสทวงประตูคืนไม่ได้ จบเกมเลยบุกมาพ่ายรัสเซีย 1-0 ปล่อยให้หมีขาวรั้งจ่าฝูงกลุ่มเอฟแต่เพียงผู้เดียวด้วยการชนะรวด 3 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

รัสเซีย :
อีกอร์ อาคินเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเซวิช, ดิมิทรี่ คอมบารอฟ, อีกอร์ เดนิซอฟ, โรมัน ชิโรคอฟ , วิคตอร์ ฟายซูลิน (เดนิส กลูชาคอฟ น.46), อเล็กซานเดอร์ โคโคริน, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ (อันเดร เยสเชนโก้ น.65), วลาดิเมียร์ บิสตรอฟ (อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ น.83)

สำรองไม่ได้ใช้ : วลาดิเมียร์ กาบูรอฟ, อันตอน ชูนิน, วลาดิเมียร์ กรานัต, เรนัต ยานบาเยฟ, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, อลัน ซาโกเยฟ, ดิมิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟ, ดิมิทรี่ ทาราซอฟ, อาร์เต็ม ซูบา

เทรนเนอร์ : ฟาบิโอ คาเปลโล่

โปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ, เจา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โคเอนเทรา (มิเกล โลเปส น.20), เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่ , รูเบน มิคาเอล (ซิลเวสตร วาเรล่า น.66), หลุยส์ นานี่, เฮลเดอร์ ปอสติก้า (อันโตนิโอ เอเดอร์ น.74), คริสติอาโน่ โรนัลโด้

สำรองไม่ได้ใช้ : เอดูอาร์โด้, อันโตนิโอ เบโต้, เอ็นริเก้ ฟอนเซก้า เซเรโน่, คาร์ลอส เนโต้, คัสโตดิโอ, รูเบน อาโมริม, ราอูล เมยเรเลส, ปิซซี่, เนลสัน โอลิเวียร่า

เทรนเนอร์ : เปาโล เบนโต้




















 


แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์