วันของเขา บาโลเตลลี่ เหมา 2 พาอิตาลี่ลิ่วชิงกระทิงดุึ

ฟุตบอลยูโร 2012 รอบรองชนะเลิศ
เยอรมัน VS อิตาลี่ เตะเวลา 01.45
สนาม : อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี๊ยม วอร์ซอร์

ทางฝั่งของเยอรมัน โยอาคิม เลิฟ เกมนี้จะได้ตัวของ บาสเตียน ชไวร์สไตร์เกอร์กลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อยลงเล่นขณะเดียวกันแกนหลักคนโดยเฉพาะในเกมนี้แนวรุก
เปลี่ยนมาใช้งาน ลูคัส โพโดลสกี้ - มาริโอ โกเมซ และ โทนี่ ครูส ส่วนบรรดาแกนหลักอย่าง ซามี่ เคติลาห์ - เฆซุต โอซิล และ มัคค์ ฮุมเมิ่ล พร้อมลงเล่นในเกมคืนนี้ทั้งหมด

ขณะที่ทางฝั่งอิตาลี่ของทาง เซซาเร่ ปรานเดลลี่ เกมนี้พวกเขาได้ข่าวดีเมื่อทาง จอห์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังตัวเก่งหายเจ็บกลับคืนสู่ทีม แต่ไม่มีทางแบ็ก อบาเต้ ที่เจ็บต้องส่ง อัเดรียส บาร์ซาญี่ ลงเล่น ขณะเดียวกันตำแหน่งอื่นๆอย่าง ปีร์โล่ - ดานิเอเล่ เด รอสซี่ - มาริโอ บาโลเตลลี่และ อันโตนิโอ คาสซาโน่ พร้อมที่จะลงเล่นในเกมคืนนี้กับทางเยอรมันทั้งหมด

นาทที่ 5 เยอรมันได้ลุ้นจากลูกเตะมุมโยนเข้ามากลางประตูบอลเลยมาตกใส่ มัตต์ ฮุมเมิ่ล ที่เติมขึ้นมาสูงได้โอกาสสับไกยิง แต่ไปโดนทาง อันเดรีย ปีร์โล่ ที่คุมเสา สกัดทิ้งออกมา

นาทีที่ 11 เยอรมันน่าจะได้ประตูมากทีเดียวเมื่อทาง ซามี่ เคติลาห์ ลากบอลจากกลางสนามก่อนจะจ่ายออกทางขวาให้ทาง เณโรม บัวเต็ง เปิดบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ บุฟฟ่อน ทุบออกมา บอลไปโดนทาง บาร์ซาญี่ เกือบเข้าประตูตัวเองออกเสาไปแบบฉิวเฉียด

นาทีที่ 16 อิตาลี่ได้ลุ้นเป็นครั้งแรกโดยทางเกมอยู่บริเวณหน้ากรอบเขคโทษของเยอรมันและเป็นทาง มอนโตลิโว่ ที่ได้โอกาสยิงแต่บอลเบาไปหน่อยทาง นอยเออร์รับสบาย

นาทีที่ 19 อิตาลี่ที่ครองบอลได้น้อยกว่าได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คาสซาโน่ ได้บอล บริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนพลิกหลบ 2 ผู่เล่นเยอรมันเปิดบอลเข้ามากลางประตูและเป็นทาง มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ได้โหม่งเข้าไปอิตาลี่นำ 1-0

หลังจากที่โดนทางอิตาลี่ขึ้นนำ เยอรมันพยายามหาประตูตีเสมอ นาทีที่ 26 ได้โอกาสยิงอีกครั้งคราวนี้เป็นทาง เฆซุต โอซิล ที่ได้ยิงแต่บอลไปตรงตัวบุฟฟ่อน

เยอรมันมีโอกาสในเกมนี้เยอะมากทีเดียวนาทีที่ 29 ได้โอกาสยิงอีกครั้งคราวนี้เป็นทาง โทนี่ โครส ที่ได้สับไกนอกกรอบ บอลลอยข้ามคานไปแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 34 เยอรมันมีโอกาสได้ยิงอีกครั้งคราวนี้เป็นทาง ซามี่ เคติลาห์ ที่ใช้อกพักบอลก่อนที่จัวอลเล่ห์ด้วยขวาบอลไซต์กำลังจะเข้าสามเหลี่ยม แต่ จิอัยลุยจิ บุฟฟ่อน ปัดบอลออกไปได้

ถัดมาจากนั้น นาทีที่ 36 อิตาลี่ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะที่ ริคาร์โด้ มอนโตลิโว่ โยนบอลจากครึ่งสนามหลุดไปถึงทาง มาริโอ บาโลเตลลี่ ควบบอลเข้าหาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะซัดเปรี้ยงด้วยขวาบอลไซต์เข้าสามเหลี่ยมช่วยให้หนีห่าง 2-0

หลังจากโดนทางอิตาลี่นำห่างไป 2-0 ทางเยอรมันพยายมอย่างหนักที่จะยิงประตูไล่มาให้ได้ แต่แนวรับวันนี้ของอิตาลี่เหนียวแน่นมากทีเดียว แถมทาง บุฟฟ่อน ก็มักจะยืนอยู่ถูกตำแหน่งเสมอทำให้จบครึ่งเวลาแรกอิตาลี่นำเยอรมันที่ 2-0

เริ่มเกมครึ่งหลังเยอรมันขยับเปลี่ยน 2 ผู้เล่นถอดทาง มาริโอ โกเมซ และ ลูคัส โพโดลสกี้ ออก และส่งทาง มิโรสลาฟ โคลเซ่ มาร์โก้ รอยส์ ลงสนามแทน

นาทีที่ 47 มาร์โก้ รอยส์ พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนโยกหลบ โบนุชชี่ ตัดสินใจยิงด้วยซ้ายบอลเบาไปตรงตัวของ บุฟฟ่อน

นาทีที่ 49 เยอรมันได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ทาง ฟิลิปส์ ลามห์ เดินเกมสูงขึ้นมาก่อนทำชิ่งกับทาง โทนี่ ครูส ที่ไหลคืนมาให้ทางกองหลังร่าเล็กได้กดด้วยขวาบอลข้ามคานไปนิดเดียว

นาทีที่ 59 เยอรมันได้ฟรีคิกบริเวณระยะ 25 หลากลางประตูเป็นทาง มาร์โก้ รอยส์ ที่ได้ปั่นด้วยขวา บอลกำลังจะเสียบลงใต้คาน แต่ทาง บุฟฟ่อน ปัดออกหลังไปได้

นาทีที่ 63 อิตาลี่เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกถอดทาง ริคาร์โด้ มอนโตลิโว่ออก ส่งทาง ติอาโก้ ม็อตต้า ลงมาเล่นแทน

นาทีที่ 66 อิตาลี่เกือบได้ประตูที่ 3 จากจังหวะ อันเดรีย ปีร์โล่ ที่จ่ายบอลให้ทาง เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ ได้ยิงตามน้ำบอลหลุดเสาแรกออกไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว

ช่วงเวลาที่เหลือเยอรมันพยายามที่จะไล่ทวงประตูคืนและมาได้ลูกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บและเป็นทาง เฆซุต โอซิล ที่ได้ยิงเข้าไปให้เยอรมันไล่มา 1-2 แต่ไม่ทันจบเกมอิตาลี่ชนะ 2-1 ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับสเปนในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมนี้