เขาอีกแล้ว โรนัลโด้ ทอร์ปิโด้ สุดสวยโหม่งพังประตูชัยพาฝอยทองลิ่ว 4 ทีม

รายงานสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 เช็ก VS โปรตุเกส

11 ตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการจากเว็บ UEFA.COM


รายงานสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 หรือ ยูโร 2012
ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
สาธารณรัฐเช็ก VS โปรตุเกส เตะเวลา 01.45
เตะที่สนาม นาโรโดวี่ วอร์ซอว์ ประเทศโปลแลนด์

เกมนี้ทางฝั่งของเช็ก มิชาล บิเลค กุนซือคนเก่งของทีมยังคงใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามหลังจากในรอบแบ่งกลุ่มทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เก็บชัยชนะมาได้ใน 2 เกมหลังสุด ซึ่งในนัดชี้ชะตาเข้ารอบต่อไปกับทางโปรตุเกสเกมนี้ทาง เช็กไม่มีทาง โทมัส โรซิกกี้ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบรบกวนเล่นงานแต่ยังคงมี วลาดิเมียร์ พิลาร์ ดาวซัลโวของทีมนำทัพ รวมทั้งดาวเตะตัวเก๋าอย่าง มิลาน บอรอส - ยาโรสลาฟ พลาซิล และ ปีเตอร์ เช็ก

ขณะเดียวกันทางฝั่งของโปรตุเกสเกมนี้ เปาโล เบนโต้ กุนซือคนเก่งของทีมที่พาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายจะยึดชุดที่ดีที่สุดลงสนามในคืนนี้ พวกเขายังคงนำทัพโดยดาวเตะเท้าหนัก คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ของเรอัล มาดริดและทาง หลุยส์ นานี่ ของทางปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ในแดนกลางยังคงมีทาง ราอูล เมราเลส - มิเกล เวโลโซ่ และ เจา มูติญโญ่ ของประสานงานกัน


ผ่านมา 5 นาทีของการแข่งขันรูปเกมโดยรวมเป็นทางฝั่งของเช็กที่ทำได้ดีกว่าและมีโอกาสได้ยิงเป็นครั้งแรกของเกมนี้จาก ยิโรเซ็ค  แต่แฉลบออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น

นาทีที่ 11 โปรตุเกสได้ลุ้นบ้างจากจังหวะขึ้นเกมทางกราบซ้ายเป็นการประสานงานกันระหว่าง ฟาบิโอ โคเอนทรา และ หลุยส์ นานี่ ก่อนที่ดาวเตะจากแมนฯยูไนเต็ดจะครอสเข้าไปโดนกองหลังเช็กโหม่งสะกัดทิ้ง ต่อจากจังหวะดั่งกล่าว โปรตุเกสเล่นเตะมุมสั้น
เป็นทาง เจา มูติญโญ่ ที่ได้โอกาสสับไกยิง แต่ไปตรงตัวของ ปีเตอร์ เช็ก ที่ยืนได้ถูกตำแหน่งพอดี


เช็กยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียวใน นาทีที่ 17 ดาริด้า มิดฟิลด์ดาวรุ่งของทีมหลุดมาทางฝั่งขวา ก่อนจะจ่ายเข้ากลาง แต่ทาง มิลาน บารอส หัวหอกจอมเก๋าเข้าชาร์ตไม่ถึง ทำให้ทางเช็กชวดได้ประตูนำ

นาทีที่ 24 โปรตุเกสน่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆเมื่อทาง โรนัลโด้ จ่ายบอลสั้นให้ทาง เจา มูติญโญ่ ก่อนที่กองกลางร่างเล็กจะจ่ายทะลุช่องคืนมาให้ทางดาวยิงรายนี้ แต่โดนเป่าล้ำหน้า ทำให้ชวดได้ประตูนำไปอย่างน่าเสียดาย

เกมนั้นปะทะกันในแดนกลางซะส่วนใหญ่และเป็นทางโปรตุเกสที่ได้ใบเหลืองแรกของเกมเป็นของทาง หลุยส์ นานี่ และนาทีต่อมาเป็นทาง มิเกล เวโลโซ่ ที่โดนตามไปติดๆ

ถัดมาเช็กทำเกมหลุดมาทางกราบซ้ายอีกครั้งก่อนที่จะได้โอกาสเปิดเข้ากลาง แต่เป็นทาง เปเป้ และ บรูโน่ อัลเวส ที่ช่วยกันสกัดออกมาจากในกรอบเขตโทษ


นาทีที่ 32 โปรตุเกสได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะเตะมุม เจา มูติญโญ่ เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษและโดนทางเช็กโหม่งสกัดออกไป เป็นทาง เปเป้ ที่งัดเข้ามาในกรอบเขตโทษอีกครั้ง ก่อนที่ทาง โรนัลโด้ ขึ้นจักรยานอากาศ บอลหลุดเสาออกไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว

โรนัลโด้ได้ลองส่องอีกครั้งจากลูกฟรีคิก ในนาทีที่ 34 หลังจากที่ทาง นานี่ โดนทำฟาวส์บริเวณนอกกรอบเขตโทษเยื้องไปทางฝั่งขวาและดาวยิงจากเรอัล มาดริด กดด้วยหลังเท้าหลุดเสาไปแบบได้ลุ้นอีกครั้ง

ถึงนาทีที่ 39 โปรตุเกสจะต้องเปลี่ยนตัวลงสู่สนามเป็นคนแรกหลังจากที่ เฮลเดอร์ สปอติก้า มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนเล่นงานบริเวณ เอ็นหลังหัวเข่า จนไม่สามารถลงเล่นต่อได้ และทาง เปาโล เบนโต้ ตัดสินใจส่งทาง ฮูโก้ อัลเมด้า ลงมาแทน

มาถึงนาทีที่ 43 เกิดจังหวะเจ้าปัญหาเมื่อทาง เจา มูติญโญ่ ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายเข้าในให้ทาง หลุยส์ นานี่ ก่อนที่ดาวเตะผิวสีรายนี้จะโดนทางกองหลังของเช็กเบียดล้มคว้าลงใกรอบเขตโทษ แต่กรรมการทำเฉยบอกให้เล่นต่อไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ นักเตะตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลบัลลังค์ดอร์ปีนี้ โชว์ทักษะที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว เมื่อใช้อกพักบอลลงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะหมุนตัว 360 ยิงด้วยขวา แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาออกหลังไปแบบได้ลุ้นสุดๆ


เปิดฉากกลับมาลงสนามเตะกันในครึ่งเวลาหลัง ยังไม่ถึงนาทีดี เป็นโปรตุเกที่ได้ลุ้นจากจังหวะครอสเข้ามาจากทางซ้ายและเป็นทาง ฮูโก้ อัลเมย์ด้า ได้โหม่งจ่อๆ หลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้นสุดๆ

นาทีที่ 48 โปรตุเกสได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกอีกครั้งและเป็นเจ้าเก่าคนเดิน คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ที่ได้โอกาสยิง และชนเสาอีกแล้วเป็นครั้งที่สองของดาวยิงรายนี้ทำให้บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้นอีกครั้ง

โปรตุเกสยังครงเป็นฝ่ายครองเกมได้อย่างเหนือกว่ามากทีเดียวในนาทีที่ 53 ราอูล เมสราเลส งัดบอลข้ามกองหลังเช็กมายังพื้นที่ว่าง และเป็นทาง โรนัลโด้ ที่ว่างมาเอาอกพักบอลหนึ่งครั้งก่อนที่จะกดด้วยขวา ข้ามคานไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว

เกมยังคงเป็ยฝ่ายโปรตุเกสที่ครองบอลได้อย่างเหนือกว่า นาทีที่ 58 โปรตุเกสส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จแต่กรรมการยกธงเป็นลูกล้ำหน้า จากจังหวะ หลุยส์ นานี่ ครอสจากฝั่งขวาเข้ามาและเป็นทาง ฮูโก้ อัลเมย์ด้า ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าโหม่งเข้าไป


นาทีที่ 60 เช็กเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกส่งทาง แยน ราเซ็ค ลงมาแทน ดารีด้า กองกลางดาวรุ่งของทีม

นาทีที่ 63 โปรตุเกสได้มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ เจา มูติญโญ่ ได้เก็บตกบอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่ดาวเตะร่างเล็กรายนี้ วางเท้าแบบเน้นๆกดจากนอกกรอบ บอลเกือบจะเสียบคานอยู่แล้ว แต่โดนทาง ปีเตอร์ เช็ก ที่วันนี้ฟอร์มเยี่ยมปฎิเสธประตู ปัดข้ามคานไป

โปรตุเกสได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 74 มูติญโญ่ แทงทะลุช่องมาในกรอบเขตโทษด้ามนขวาและเป็นทาง หลุยส์ นานี่ ที่วิ่งเข้ามากดด้วยขวา บอลลอยข้ามคานออกไป


เอาจนได้ หลังจากพับสนามบุกเข้าใส่อยู่ข้างเดียวในนาทีที่ 78 เป็นทางโปรตุเกสที่ได้ประตูขึ้นนำเมื่อทาง หลุยส์ นานี่ แทงบอลทะลุช่องเข้ากรอบเขตโทษ และเป็นทาง เจา มูติญโญ่ ที่เติมขึ้นมาก่อนที่จะโยนข้ามไปที่เสาสอง เป็นที่ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ พุ่งโหม่งบอลกระแทกพื้นเสยตาข่ายให้ทางฝอยทองขึ้นนำไป 1-0


นาทีที่ 82 โปรตุเกสเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำห่างเป็น 2-0 โดยการขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาที่วันนี้เจาะได้อย่างต่อเนื่องและเป็นทาง โรนัลโด้ ที่ได้กดด้วยขวา โดนทาง ปีเตอร์ เช็ก ที่ปัดออกไป

จังหวะเจ้าปัญหาเกิดขึ้นอีกครั้งในนาทีที่ 87 เมื่อทาง คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ โชว์สเต็ปหลอกกองหลังของเช็กได้บอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโดนดึงแล้วปล่อยและทางดาวเตะรายนี้ล้มคว่ำลงไป แต่ทาง กรรมการไม่ได้เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ

หลังจากนั้นทางฝั่งของเช็กที่เสียประตูต้องเร่งเกมส์ขึ้นมาโดยหวังที่จะได้ประตูตีเสมอ แต่ไม่สามารถทำได้สำเร็จจบเกมเป็นทางฝั่งของโปรตุเกสที่กรุยทางผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง สเปน หรือ ฝรั่งเศส ในรอบ 4 ทีมสุดท้ายในวันที่ 27 มิถุนายน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์