ดราม่าเปิดยูโร 2012 กรีซ 10 คนหวิดแซง โปแลนด์ เจ๊า 1-1 รัสเซีย ขยี้ 4-1

ฟุตบอลยูโร 2012 นัดเปิดสนามก็ดราม่ากันอย่างครบถ้วนแล้ว เมื่อกรีซ ที่เหลือ 10 คนเกือบยิงประตูแซงเอาชนะ โปแลนด์
 
เจ้าภาพร่วมที่ขึ้นนำก่อน แต่สุดท้ายกรีซ พลาด ปล่อยโอกาสเก็บ 3 แต้มลอยไปอย่างน่าเสียดาย เสมอกันไป 1-1 

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ที่สนามกีฬาแห่งชาติของโปแลนด์ ที่กรุงวอร์ซอว์ วันที่ 8 มิถุนายน โปแลนด์ เจ้าภาพร่วมลงสนามพบกับกรีซ ทีมร่วมกลุ่มเอ 

10 นาทีแรกทั้งสองฝ่ายผลัดกันทำเกมบุก และมีโอกาสได้หวาดเสียว ทักทาย กันก่อน นาทีที่ 17 โปแลนด์ ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากการประสานงานกันของคู่หูดอร์ทมุนด์ ลูคัสซ์ พิสซ์เซ็ค เปิดบอลจากริมเส้นกราบขวา มาเข้าทางปืนของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้โขก ระยะ 10 หลา ดาวซัลโวเสือเหลืองโหม่งกดลงพื้นเป็นประตูแรกในทัวร์นาเมนต์ให้โปแลนด์ขึ้นนำ

หลังจากนั้นกรีซมาโดนใบเหลืองแรกเมื่อโซเครติสปาปาโดปูลอสขึ้นโหนโหม่งโดยใช้มือค้ำเลวานดอฟสกี้ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะถึงกับโดนจดชื่อ แถมต้องเสียผู้เล่นแนวรับตัวกลางไปเมื่ออัฟราม ปาปาโดปูลอส ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยน คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส ดาวรุ่งจากชาลเก้ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 35 

นาทีที่ 37 โปแลนด์ เกือบได้ประตูที่ 2 จากการยิงลูกเก็บตกในกรอบเขตโทษระยะ 15 หลาดาเมียน เพอร์ควิส ได้ยิงแต่บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย


ช่วงท้ายครึ่งหลังกรีซ ดันเกมบุกมากขึ้นแต่ยังทำเกมไม่ไหลลื่นโดนโปแลนด์ ตัดบอลได้ แต่ทางแข้งกรีกก็ไม่ยอมให้เล่นสวนกลับรีบตัดเกมเร็ว

นาทีที่ 44 กรีซ มาเจอสถานการณ์สุดย่ำแย่ โซเครติส ปาปาโดปูลอส ตัดเกมในจังหวะที่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เกือบพลิกบอลเข้าไปเดี่ยวกับคอสตาส ชัลเคียส ผู้รักษาประตูกรีซ แต่โซเครติส มีใช้มือกันเล็กน้อย รับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบเหลืองแดงแรกของทัวร์นาเมนต์ แต่ดูเหมือนว่า จังหวะฟาวล์ของเลวานดอฟสกี้ นั้น หัวหอกดอร์ทมุนด์เองก็เสียหลักกำลังจะล้มอยู่แล้วด้วย

นาทีที่ 45 กรีซ ยังมาเจอดราม่าอีกในจังหวะกังขาที่เห็นดาเมียน เพอร์ควิส ล้มลง ในจังหวะที่จะลุกขึ้น บอลเหมือนกลิ้งมาโดนบริเวณข้อศอก ผู้เล่นกรีซ ประท้วงกันเพียบ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่า กลับแจกใบเหลืองให้โจเซ่ โฮเลบาส ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-0

ครึ่งหลังเฟร์นันโด ซานโตส แก้เกมถอดโซทิริส นินิส หัวหอกเดี่ยวออก ส่ง ดิมิทริส ซัลปิกิดิส ลงมาแทน และดูเหมือนว่า เทพีแห่งโชคไม่ใจร้ายกับแข้งกรีกมากนัก นาทีที่ 50 โทโรซิดิส ครอสบอลจากกราบขวามากลางประตู ขณะที่วอจเชียค เชสนี่ นายทวารอาร์เซนอล ตัดสินใจ ออกมาตัดบอลแต่ทับตำแหน่งกับเพื่อนร่วมทีม บอลกลิ้งอยู่หน้าประตูและเป็น ซัลปิกิดิส วิ่งเข้ายิงโล่งๆ ตามตีเสมอ 1-1 ทั้งที่เหลือ 10 คน  

ครึ่งหลังผ่านไป 20 นาที โปแลนด์ เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับกรีซที่ลงไปรับกันแน่นหนา จากที่เสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่น แถมยังมีจังหวะสวน ฉวยโอกาสที่โปแลนด์ลงมารับไม่ทัน เกือบได้จบสกอร์ 

อย่างไรก็ตาม กรีซ เป็นฝ่ายได้เฮมีลุ้นกลับมาสู่เกมหลังจากที่โปแลนด์พลาด โดนกรีซ ตักบอลข้ามกองหลัง บอลเลยมาถึง ซัลปิกิดิส แตะบอลหลบเชสนี่ ซึ่งกลายเป็นนายทวารปืนใหญ่ออกมาไม่เจอบอลรอบ 2 ทำฟาวล์ใส่ หัวหอกมอสโคว์ ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกนอกจากแจกใบแดง และให้จุดโทษกรีซ แต่จอร์กอส คารากูนิส กัปตันทีมยิงไปติดเซฟ เพอร์มายสลอว์ ไตตัน นายทวารสำรอง อดได้ประตูขึ้นนำสุดเหลือเชื่อ
โปแลนด์ เหลือผู้เล่นเท่ากับ กรีซ เกมช็อตไปดื้อๆ ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมไม่มีโอกาสแบบชัดเจน เสมอกัน 1-1 แบ่งแต้มกันไปในนัดเปิดสนาม

การแข่งขันคู่ที่ 2 ของกลุ่มเอในวันที่ 8 มิ.ย. รัสเซีย ลงสนาม พบสาธารณรัฐเช็ก
 
โดยเช็ก เปิดตัวสวย เริ่มเกมมาได้ดีกว่า 5 นาทีแรก เช็กทำเกมบุกใส่รัสเซียอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 13 รัสเซีย เริ่มตั้งตัวได้ มีโอกาสสับไก จากจังหวะปาดบอลจากสุดเส้นหลังกลับมาหน้าประตู อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ มีโอกาสสับไกแต่บอลหลุดนอกกรอบ 

หลังจากนั้นไม่ถึงนาที รัสเซียออกนำเร็ว คอนแสตนติน ชิโรคอฟ ครอสบอลจากกราบขวามาที่เสาไกลเข้าศรีษะเคอร์ชาคอฟ โขกย้อนศร บอลพุ่งชนเสาเด้งออกมาเข้าทาง อลัน ชาโกเยฟ แข้งดาวรุ่งซัดผ่านมือปีเตอร์ เช็ก เป็นประตูขึ้นนำเช็กที่อุตส่าห์ออกตัวดี

2 นาทีต่อมา ชาโกเยฟ มีโอกาสหลุดเข้าไปสับไกจ่อๆจากการอีกครั้ง หลังจากที่เคอร์ชาคอฟ จ่ายบอลจากทางซ้ายของสนาม โยกมาทางขวาที่ชาโกเยฟ เติมเกมขึ้นมาเดี่ยวๆไม่มีใครประกบแต่ยิงเฉือนบอลโค้งออกนอกกรอบอย่างน่าเสียดาย รัสเซีย เริ่มโชว์ความอันตรายจากโอกาสฉาบฉวยแล้ว แต่เช็ก เองก็เกือบใส่สกอร์จากลูกเตะมุม แยน เรเช็ค ได้โขกบอลมาตรงตัว วาเชสลาฟ มาลาเฟเอฟ นายทวารมือ 2 ของทีมหมีขาว


นาทีที่ 24 อังเดร อาร์ชาวิน จ่ายทะแยงจากกราบซ้าย บอลทะลุช่องตัดคู่กองหลังเช็ก มาเข้าทางโรมัน ชิโรคอฟ เข้าถึงบอลก่อนปีเตอร์ เช็ก งัดบอลข้ามตัวนายทวารเชลซี ออกนำห่าง 2-0 อีก 5 นาทีต่อมา อาร์ชาวิน เกือบแผลงฤทธิ์อีกรอบ โยกหลอกกองหลังเช็ก ได้ผ่านบอลจากริมเส้นขวา บอลผ่านหน้าประตูแบบมีเสียว ไม่มีผู้เล่นรัสเซียเติมเกมขึ้นมาซ้ำ

รัสเซีย เล่นเกมรุกต่อบอลได้วูบวาบ ได้จบสกอร์หลายครั้ง แต่ยังไม่เข้าเป้า ด้านเช็ก พยายามกัดฟันขึ้นเกมสู้ เกมรุกเล่นกันได้ไม่แน่นอน ไม่มีจังหวะได้ล่อเป้าแบบชัดเจน ท้ายครึ่งแรก วาชลาฟ ปิลาร์ มีโอกาสได้โขกเข้ากรอบก็ยังไม่ผ่านมือมาลาเอเยฟ 

ครึ่งหลัง รัสเซีย รักษาฟอร์มการเล่นเอาไว้ได้ดี จนนาทีที่ 50 วลาชลาฟ ปิลาร์ ได้บอลจากการจ่ายทะลุช่อง หลุดเดี่ยวล็อคผ่านมาลาเฟเยฟ ก่อนยิงตีไข่แตก ตามมา 2-1 แต่รัสเซีย ไม่เป๋ ขึงเกมเอาไว้ แม้ใส่สกอร์เพิ่มไม่ได้ ก็ยังปั่นป่วนเช็กเป็นช่วงๆ นาทีที่ 74 เช็ก มีโอกาสได้บ้าง โทมัส โรซิสกี้ ลองสับไก บอลพุ่งตรงกรอบ ทางมาลาเฟเยฟ ปัดก่อนตะครุบเข้าซองในจังหวะ 2 

นาทีที่ 78 รัสเซีย ต่อบอลกันจนเช็กจับตำแหน่งไม่ถูก อลัน ชาโกเยฟ ทะลุเข้าไปง้างไกยิงเต็มข้อ ปีเตอร์ เช็ก ปัดไม่ทัน นำห่าง 3-1 เท่านั้นไม่พอ โรมัน พาฟลูเชนโก้ ตัวสำรองที่ลงมาแทนเคอร์ชาคอฟ ยังโชว์ฝีเท้าซัลโวสุดมันส์เป็นประตูที่ 4 นำ 4-1 ปิดกล่องฉลองชัยนัดแรกขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม โอกาสเข้ารอบสดใส

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์