ปรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ นัดชิงชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 5 พ.ค. มีดังนี้
เชลซี - ลิเวอร์พูล (23.15 น.)
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ครั้งที่ 131 นัดชิงชนะเลิศ "สิงห์สำอาง" เชลซี ลงสนามพบกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยปีนี้ทั้ง 2 ทีมมีลุ้นดับเบิ้ลแชมป์ทั้งคู่ โดย ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คาร์ลิง คัพ ไปแล้ว 1 ถ้วย ส่วนเชลซี ชิงถ้วยนี้เป็นถ้วยแรก และมีโปรแกรมจะชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิก ในวันที่ 19 พ.ค. นี้
สภาพทีมในนัดนี้ เชลซี ที่มี โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เป็นกุนซือ ถือว่าสมบูรณ์มากทีเดียว
โดยจะขาดเพียงแค่ แกรี เคฮิลล์ และ ดาวิด ลุยซ์ 2 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่ไม่น่าจะฟิตทันลงเล่น ถึงแม้อาการจะดีขึ้นมากแล้วก็ตาม ทำให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่พ้นโทษแบนยาว 3 นัด กลับมาตั้งแต่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จะลงมาจับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ จอห์น เทอร์รี พร้อมส่ง โฮเซ โบซิงวา ลงมาลุยทางแบ๊กขวา และแบ๊กซ้ายจะ แอชลีย์ โคล ก็จะกลับมาเป็นตัวจริง แทนที่ของ ไรอัน เบอร์ทรานด์ หลังได้พักในเกมกลางสัปดาห์
ส่วนแดนกลาง ดิ มัตเตโอ ก็เตรียมขนผู้เล่นตัวจริงกลับมาลงสนามเช่นกัน และน่าจะเป็นโอกาสของ แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส และ มิชาเอล เอสเซียง ที่ได้ลงสนามก่อน และแนวรุก เตรียมใช้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กลับมาเป็นตัวเป้า เพราะ "เดอะ ดร็อก" มีสถิติที่ดีมาก ที่เวมบลีย์ โดยมี ฮวน มาตา และ ซาโลมง กาลู ช่วยทำเกมริมเส้น
ด้าน เคนนี ดัลกลิช ของลิเวอร์พูล พักตัวหลักถึง 9 คน
ในเกมที่แพ้ ฟูแลม 0-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่เกมนี้คงส่งตัวจริงลงเล่นเต็มที่ แต่จะยังไม่มี ชาร์ลี อดัม และ ลูคัส เลวา ที่พักทั้งฤดูกาล โดยในตำแหน่งผู้รักษาประตู โฮเซ เรนา จะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง แดนหลัง 4 คน ก็จะได้ ดาเนียล แอกเกอร์ กลับมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ มาร์ติน สเคอร์เทล อีกครั้ง
ขณะที่แดนกลางได้ สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม กลับมานำทัพอีกครั้ง โดยมี เจย์ สเพียร์ริง และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คอยเป็นลูกหาบช่วยไล่บอล ส่วนเกมรุกวาง หลุยส์ ซัวเรซ ที่เพิ่งทำแฮตทริก เมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นตัวทีเด็ดเหมือนเดิม โดยใช้ สจวร์ต ดาวนิง และ เคร็ก เบลลามี คอยป่วนเกมริมเส้น ทำให้ แอนดี แคร์โรลล์ ต้องนั่งสำรองไปก่อน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
