เจ้าพ่อบอลถ้วย!ดาวนิ่งนำชัยหงส์ตีหม้อลิ่วตัดเชือกเอฟเอ


ฟุตบอลเอฟเอ คัพรอบก่อนรองชนะเลิศ 

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2555 

สนาม : แอนฟิลด์ 

ลิเวอร์พูล 2:1 สโต๊ค ซิตี้ 

ประตู
 : 1-0 ซัวเรส น.23, 1-1 เคราช์ น.26, 2-1 ดาวนิ่ง น.57 
เกมนี้ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตำแหน่งจากเกมเอาชนะเอฟเวอร์ตันเมื่อกลางสัปดาห์มาตำแหน่งเดียวก็คือให้มักซี่ลงแทนเฮนเดอร์สัน ส่วนเจอร์ราร์ดมีลุ้นจะทำประตูที่ 150 ในเกมนี้ด้วยขอแค่เพียงลูกเดียวเท่านั้น 

ด้านสโต๊คก็ให้เคราช์ลงเป็นตัวจริงเช่นเดียวกับโซเรนเซ่น พวกเขาเคยเจอกับลิเวอร์พูลมาแล้วในซีซั่นนี้ 3 เกมด้วยกันโดยผลัดกันแพ้ชนะเสมอมาอย่างละเกมแต่เกมที่พวกเขาแพ้ก็คือในรายการบอลถ้วยลีกคัพ 

ครึ่งแรก 

หงส์ขอลองก่อนเลย 
เริ่มเกมมาแค่ 3 นาทีเกือบจะมีประตูซะแล้วจากเจ้าบ้านที่ได้โอกาสเป็นก่อนจากลูกฟรีคิกทางริมเส้นซ้าย เปิดเข้ามษโดยเจอร์ราร์ดบอลพุ่งมาทางเสาแรกและเป็นมักซี่ที่ได้สะบัดหัวโหม่งเสยบอลลอยโด่งไปเสาสองแต่ข้ามคานไปนิดเดียว 

เคราช์โขกทั้งโด่งทั้งเบา 
กลับกันทางสโต๊คเองก็ได้ลุ้นบ้างจากลูกทุ่มที่เหมือนจะลองทุ่มไกลแต่กลายเป็นทุ่มใกล้โดยชอตตันก่อนจะได้บอลกลับมาแล้วก็เปิดยาวไปเสาไกลให้กับเคราช์ถอยหลังมาโขกแต่ก็เบาเกินเข้ามือเรน่าสบาย 

หงส์มาแล้ว!หม่อมเหยินยิงเสียบเสานำก่อน 
นาที 23 "หงส์แดง"ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากเจอรราร์ดที่จ่ายให้กับซัวเรสพาบอลขึ้นมา ก่อนจะออกต่อให้มักซี่แล้วชิ่งกลับมาเร็วสุดท้ายหัวหอกฟันไม่เข้าก็ได้ง้างเท้ายิงจากหน้าเขตโทษบอลพุ่งโค้งผ่านมือโซเรนเซ่นเบียดเสาไกลเข้าไปอย่างหมดจด ลิเวอร์พูลออกนำแล้ว 1-0 

หม้อไม่ยอมเตะมุมเกือบได้ลุ้น 
คราวนี้สโต๊คมีโอกาสได้ลองแล้วก็เกือบประตูด้วยจากลูกเตะมุมทางซ้ายเปิดเข้ามาที่เสาแรกให้กับชอว์ครอสส์โหม่งโดนเฉือนๆบอลยังลอยไปเสาสองแต่ฮูธเข้าไม่ถึง 

จนได้!เคราช์โขกเต็มกะบาลหม้อตามตีเสมอ 
แต่แล้วจังหวะถัดมาก็ทำเอาเดอะค็อปเซ็งไปทั้งแอนฟิลด์หลัง"ช่างปั้นหม้อ"ได้ประตูตีเสมอกลับมาอย่างรวดเร็วจากจังหวะเตะมุมทางขวาโดยเอเธอริงตันเปิดเข้ามาที่เสาแรกและเป็นเคราช์ศิษย์เก่าได้ขวิดโล่งๆไม่มีเหลือ สโต๊คไล่ตีเสมอทันควัน 1-1 

เกือบพลิกนำ!วอลเตอร์สหลุดมายิงไม่ตรงกรอบ 
ผ่านครึ่งชั่วโมงมาเป็นโอกาสของสโต๊คอีกครั้งจากลูกสวนกลับขึ้นมาโดยไวท์เฮดก่อนจะจ่ายทะลุให้กับวอลเตอร์สหลุดเข้าไปทางขวาแล้วยิงกะยัดเสาแรกแต่บอลก็ยังหลุดออกไปหาคนดูหลังประตู 

หัวขิงซัดฟรีคิกยังข้ามคาน 
เข้าช่วงท้ายครึ่งแรกก่อนหมดเวลา 2 นาทีลิเวอร์พูลที่บุกกดดันต่อเรื่องก็มาได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ 25 หลาเยื้องไปทางซ้ายก่อนจะเป็นซัวเรสที่เขี่ยเปลี่ยนจุดให้เจอร์ราร์ดปั่นบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ก็โด่งออกหลังไปด้วย จากนั้นก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันที่ 1-1 

ครึ่งหลัง 

ซัวเรสโขกหลุดเสานิดเดียว 
กลับมาเริ่มครึ่งหลังลิเวอร์พูลยังกดดันได้ต่อเนื่องแล้วก็น่าได้ประตูซะด้วยจากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเปิดเข้ามาทางเสาแรกเป็นซัวเรสที่เบียดกับแนวรับของสโต๊คอยู่ได้โหม่งแต่ไม่ค่อยเต็มหัวเลยเปลี่ยนบอลเปลี่ยนทางนิดหน่อยพุ่งหลุดเสาไกล 

หงส์นำอีกรอบ!ดาวนิ่งยิงไม่เหลือ 
นาที 57 "หงส์แดง"ที่ได้บุกแทบตลอดก็กลับมานำอีกครั้งจนได้จากเคลลี่ที่จ่ายให้กับดาวนิ่งเลี้ยงตัดจากขวาเข้าในแล้วจ่ายต่อให้เจอร์ราร์ดจะพาบอลทะลุเข้าเขตโทษจับบอลพลาดแต่กลายเป็นตั้งบอลให้กับดาวนิ่งวิ่งมาเก็บแล้วพาหลบไปอีกสองคนก่อนจะยิงหักข้อเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลกลับมานำอีกครั้ง 2-1 

เคาท์ตั้งป้อมยิงไกลตรงตัว 
โอกาสยังคงมาเรื่อยๆสำหรับลิเวอร์พูลคราวนี้เป็นของเคาท์ที่เพิ่งลงสนามมาให้ได้รับบอลระยะประมาณ 28 หลาก่อนจะหาตัวจ่ายต่อไม่เจอเลยจัดการตั้งป้อมยิงไกลซะแต่โซเรนเซ่นก็ยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้ไม่มีปัญหา 

ซัวเรสยิงไกลโซเรนเซ่นยังเซฟได้ 
"หงส์แดง"มีโอกาสได้ลองจบอีกครั้งนึงจากเจอร์ราร์ดที่จ่ายต่อให้กับซัวเรสพาขึ้นมาตรงกลางนิดหน่อยเห็นทางโล่งๆเลยจัดการกดไกลบอลติดไซร้ก้อยเล็กๆและพุ่งเรียดแต่ก็ยังแรงไม่พอโซเรนเซ่นยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ 

หม้อได้ครองบอลแ่ต่จังหวะจบไม่มี 
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายกลายเป็นทีมเยือนที่กลับมาได้โอกาสครองบอลมากกว่าแต่ก็ยังไม่ได้ยิงเลยซักจังหวะในครึ่งหลังนี้ ส่วนลิเวอร์พูลก็รอเวลาเล่นโต้กลับ 

เคลลี่เติ่มมาเกือบได้ยิง 
ท้ายเกมลิเวอร์พูลมีโอกาสจะได้ยิงอีกแล้วจากเคลลี่ที่ทำชิ่งกับเคาท์ทางริมเส้นก่อนหลุดเข้ามาในเขตโทษ วิ่งควบมาสุดแรงเกิดก่อนจะง้างเท้ายิงแต่ชอว์ครอสส์เข้ามาสไลด์ดักเอาไว้ได้ทันทำเอาเจ้าตัวเจ็บไปด้วยแต่ก็ลุกมาเล่นต่อได้ 

จบเกมลิเวอร์พูลก็ไม่มีปัญหาเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไป 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศกลับสู่เวมบลีย์ไปรอลุ้นผู้ชนะระหว่างเอฟเวอร์ตันกับซันเดอร์แลนด์ที่จะต้องเตะรีเพลย์กัน 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

ลิเวอร์พูล
 : เปเป้ เรน่า 6.5, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6.5, มาร์ติน สเคอร์เทล 7.5*, โฆเซ่ เอนริเก้ 6.0, มาร์ติน เคลลี่ 5.5 (โคอาเตส น.88 -), สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6.0, สจวร์ต ดาวนิ่ง6.5, มักซี่ โรดริเกซ 5.5 (เคาท์ น.61 6.0), เจย์ สเปียริ่ง 7.0, แอนดี้ คาร์โรลล์ 6.0, หลุยส์ ซัวเรส 7.0 (เฮนเดอร์สัน น.89 -) 

รายชื่อนักเตะตัวสำรอง : โดนี่, จอห์น ฟลานาแกน, ชาร์ลี อดัม, จอนโจ้ เชลวี่ย์ 

สโต๊ค ซิตี้ : โทมัส โซเรนเซ่น 6.0, แอนดี้ วิลกินสัน 6.0, โรเบิร์ต ฮูธ 7.0, ไรอัน ชอว์ครอสส์ 7.0, ไรอัน ชอตตัน 6.0 (เพนแนนท์ น.61 6.0), เกล็นน์ วีแลน 6.5, ดีน ไวท์เฮด 6.5 (ดีแลป น.74 5.5), แมตธิว เอเธอริงตัน 5.0 (เจโรม น.72), มาร์ก วิลสัน 6,5, ปีเตอร์ เคราช์ 7.0, โจนาธาน วอลเตอร์ส 6.5 

รายชื่อนักเตะตัวสำรอง : คาร์โล แนช, แมตธิว อัพสัน, วิลสัน ปาลาซิออส, เคนวิน โจนส์
 

 

 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์