เหยินคัมแบ็ค!หงส์ไก่สมานฉันท์เล่นลิงหลับ 0-0

เหยินคัมแบ็ค!หงส์ไก่สมานฉันท์เล่นลิงหลับ 0-0 

หงส์แดงลิเวอร์พูลและท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์บอลทันกันควงแขนเจ๊าแฟนแทบหลับ 0-0 ต้อนรับหลุยส์ ซัวเรซคืนสนามในรอบ 8 นัดทำให้ลูกทีมเคนนี่ ดัลกลิชยังรั้งอันดับ 7 และทำสถิติเสมอในแอนฟิลด์ถึง 8 จาก 12 นัดยังไม่แพ้ใครต่อไป 

พรีเมียร์ ลีก มันเดย์ ไนท์ 

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 

สนาม : แอนฟิลด์
 

ลิเวอร์พูล 0 : 0 ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส 

ประตู : 

 
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 0-0 สเปอร์ส
 

ก่อนเกมนี้มีข่าวที่ไม่เป็นผลดีกับสเปอร์สสักเท่าไหร่ เมื่อพวกเขาไม่มีเรดแนปป์กุนซือคนเก่งลงคุมทีมข้างสนาม เนื่องจากเครื่องบินดีเลย์ เพราะสภาพอากาศไม่ดี ต้องดูว่าจะส่งผลมากน้อยแค่ไหนกับเกมนี้ 

ไก่เดือยทอง วันนี้จัดขุมกำลังเต็มสูบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่งตัวทีเด็ดทั้งเบล, โมดริช, ปาร์คเกอร์และอเดบายอร์ แต่พวกเขาจะไม่มีทั้งเลนน่อนและฟาน เดอร์ ฟาร์ต จึงต้องส่งครันชาร์ลงเล่นแทน 

ด้านเจ้าถิ่่นลิเวอร์พูลจัดแคร์โรลล์ยืนหัวหอกเดี่ยว แม้ว่าจะได้ซัวเรซกลับมาสู่ทีมจากโทษแบนยาวแล้วก็ตาม โดยมีเบลลามี่และเค้าท์ขนาบช่วยกันปั้นเกมทางด้านข้างและแน่นอนว่าตรงกลางเป็นหน้าที่ของเจอร์ราร์ดที่จะขับเคลื่อนทีมไปข้างหน้า 

ครึ่งแรก 

หงส์ร้อง!แครอทโดนจิ้มจะเอาจุดโทษ 
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที ลิเวอร์พูลก็เกือบจะได้ลุ้นจุดโทษทันทีเลย ในจังหวะที่แคร์โรลล์วิ่งหลุดควบจะไปเอาบอลในกรอบเขตโทษ แต่โดนดอว์สันล้มตัวจิ้มบอลจากด้านหลังเอาไว้จนหัวหอกหางม้าล้มหน้าทิ่ม พร้อมจะโกนหวังจะเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินนิ่งไม่ว่าอะไร 

เจ้าถิ่นบุก!แมวอย่างน่ารักหลุดไปในสนาม 
เล่นกันไปกันอยู่ได้ 10 กว่านาที อยู่ดีๆก็มีแมวบ้านหน้าตาน่ารัก ตัวปุ้มปุ้ยกำลังดีเดินลงไปในสนามหน้าตาเฉย วนไปวนมาหน้าประตูของสเปอร์ส แถมมีการหยุดมองหน้าคนดูไม่ยอมออก ทางทีมงานก็ใช้วิธีการนิ่งเข้าไว้ไม่ให้มันตกใจ จนยอมเดินออกจากสนามเอง พร้อมรอยยิ้มเปื้อนหน้าของดัลกลิชและแฟนบอลในสนาม 

หงส์บีบได้ดีแต่ยังไปไม่สุด 
ผ่านช่วง 20 นาทีแรก เกมเพรสซิ่งของลิเวอร์พูลถือว่าทำได้ดีมาตั้งแต่เริ่มเลย บรรดาตัวปั้นเกมอย่างโมดริชหรือครันชาร์นั้นแทบจะไม่มีเวลาให้หายใจหายคอเลยเวลาได้บอล จนเบลหายไปจากเกมไม่เห็นหน้าค่าตาเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นลิเวอร์พูลก็ยังขาดจังหวะบริเวณพื้นที่สุดท้ายไป ทำให้เจาะเข้าไปลุ้นประตูไม่ได้เหมือนกัน 

หงส์น่าเสียดาย!เคลลี่เปิดไม่ดีพอ 
นาทีที่ 25 นานๆทีจะหาเคาะบอลจนมีพื้นที่ให้ได้เล่นกันแบบเน้นๆสำหรับลิเวอร์พูลที่ช็อตนี้จ่ายกันจนเจอช่อง เค้าท์แทงออกด้านข้างให้กับเคลลี่วิ่งมาหมายให้ตบเข้ากลางเพื่อให้เพื่อนที่้เติมกันขึ้นมาในกรอบเขตโทษได้ลุ้นประตู แต่เคลลี่ก็เปิดไม่ดีพอบอลโด่งลิบ เนื่องจากควบมาเต็มสปีด ทำให้ไม่ได้ลุ้นเหมือนเดิม 

บายอร์ทำยิ้มสู้หลังทำฟาวล์ถีบจักร 
นาทีที่ 30 เหมือนจะเสียวโดนจดชื่อหรือไม่ก็กันไม่ให้เบลลามี่เอาเรื่อง สำหรับอเดบายอร์ที่กึ่งๆไปดับเครื่องชนเข้าหนักใส่เบลลามี่จนร้องจ๊ากล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่หอกโตโกจะทำไม้ทำมือบอกว่าไม่ตั้งใจ พร้อมเข้าไปดูอาการแข้งเวลส์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะช่วยพยุงตัวขึ้นมากอดอย่างกับจะบอกรัก จุบุ๊ จุบุ๊ 

นิดเดียว!เจ้าปั๊กอัดหลุดเสา 
อีก 3 นาทีต่อมา หลุดไปนิดเดียวเท่านั้นเองสำหรับจังหวะลุ้นประตูของลิเวอร์พูล เมื่อเจอร์ราร์ดยึกหลอกผู้เล่นของสเปอร์ส ก่อนที่จะบรรจงไหลไปให้กับสเปียริ่งได้ยิงเน้นๆนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลกลับพุ่งไซด์เบี่ยงหนีกรอบประตูหลุดเสาออกหลังไป ท่ามกลางความเสียดายของแฟนบอลเจ้าถิ่น 

ปาร์คเกอร์อัดหัวขิงอยู่เลย 
นาทีที่ 39 เล่นยากซะแล้วในเกมนี้สำหรับปาร์คเกอร์ เมื่อเขามาโดนจดชื่อจากการพุ่งเข้าสไลด์ปะทะเจอร์ราร์ดที่กำลังเล่นชิ่ง 1-2 กับเพื่อนหน้ากรอบเขตโทษ แต่ฟรีคิกที่ตำแหน่งได้ลุ้นสุดๆของเจ้าถิ่นก็ดันซัดไปติดกำแพงซะนี่ 

จังหวะสุดท้ายทิ้งทวนครึ่งแรกเป็นจอห์นสันที่เติมขึ้นไปตัดเข้ากลางแล้วซัดหวังประตู แต่ติดเซฟของฟรีเดล ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบ 45 นาที ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 แบบที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ได้ลุ้นตื่นตาตื่นใจกันเท่าไหร่ เพราะจังหวะสุดท้ายไม่ได้ทั้งคู่ โดยเฉพาะทีมเยือนที่อาวุธหนักอย่างเบลเล่นไม่ออกเลย 

ครึ่งหลัง 

เกมมาแบบเดิมเป๊ะ 
ผ่าน 10 นาทีของครึ่งหลัง อย่างกับไม่ได้มีการพัก 15 นาทีแล้วเตะต่อเลย เพราะเกมไม่ได้ต่างจากช่วงครึ่งแรกที่เล่นกันตรงกลาง ฝ่ายไหนได้บุกก็ได้แค่พาบอลขึ้นหน้าแล้วไปเสียในพื้นที่สุดท้ายกันหมด 

หน้าลิงยังไม่ดีขึ้น 
นาทีที่ 57 น่าจะเป็นเพราะวันนี้เบลเป็นเพียงอาวุธหนักคนเดียวที่ใช้ทะลวงเกมของลิเวอร์พูล เลยโดนจับได้ง่าย เจ้าตัวเล่นไม่ออกพาลทำให้หงุดหงิดจนมาโดนใบเหลืองเพราะเหมือนเจตนาพุ่งล้มและเกือบมีเรื่องกับผู้เล่นของลิเวอร์พูล ก่อนที่จะมายิงแป้กในจังหวะได้ลุ้นซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่อันนี้เข้าใจว่าไม่ถนัด 

ถูกจุดเลย!หงส์ถอดครกส่งหม่อมเหยินลง 
นาทีที่ 66 แม้ว่าจะทำให้เค้าท์รู้สึกเซ็งในอารมณ์อยู่บ้าง แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนตัวของดัลกลิชที่ถอดแข้งดัตช์ซึ่งวันนี้เล่นไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ออกไป แล้วส่งซัวเรซลงแทนน่าจะถูกใจบรรดาเดอะ ค็อปน่าดู หลังจากหัวหอกฟันไม่เข้าเพิ่งจะกลับมาจากโทษแบนยาว 

หม่อมเหยินเตะปาร์คเกอร์เฉย 
นาทีที่ 70 ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่จังหวะนี้ไม่น่าเล่นสักนิด สำหรับซัวเรซที่เพิ่งจะลงสนามแต่ก็โดนใบเหลืองเข้าให้ ในจังหวะบอลลอยโด่งในกรอบเขตโทษสเปอร์ส ซัวเรซกระแทกปาร์คเกอร์ก่อน แต่มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษไม่ล้มและกำลังจะโหม่งบอล หอกอุรุกวัยเลยจัดการหวดเข้าไปที่หน้าท้องแบบเต็มๆ ทั้งที่บอลอยู่ในตำแหน่งสูงชนิดที่เตะยังไงก็ไม่ถึงแน่ๆ จนปาร์คเกอร์ล้มลงไปนอนจุก ผู้ตัดสินเลยเรียกมาทำท่าให้ดูว่าจังหวะนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าตั้งใจเล่นบอล เลยควักใบเหลืองให้ไปตามระเบียบ 

ไก่ถอดบายอร์,หงส์ส่งดาวนิ่ง 
นาทีที่ 73 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนเอาเบลลามี่ที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ค่อยออก แล้วส่งดาวนิ่งลงไปอาละวาดทางริมเส้นทาง ส่วนสเปอร์สก็ให้ซาฮาลงเล่นแทนอเดบายอร์เพื่อที่จะปรับการเล่นในแดนหน้า 

พลาดไปเยอะ!แครอทซัดไร้ทิศ 
อีก 1 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูลน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆในจังหวะที่เคลลี่โยนบอลเข้ากรอบเขตโทษ เลยไปถึงแคร์โรลล์ที่ใช้หน้าขาพักเอาบอลลงได้ดีแล้ว แต่จังหวะยิงจากระยะไม่กี่หลาของเขา กลับช้อนใต้บอลพุ่งข้ามคานออกไปไกลลิบลิ่ว อาจจะเป็นเพราะยิงด้วยเท้าขวา แต่ก็น่าจะดีกว่านี้อีกสักนิด 

สเคอร์เทลเหลืองอีกราย 
นาทีที่ 76 ใบเหลืองเพิ่มมาอีกคน แต่น่าจะเป็นเหลืองที่น่าพึงพอใจของลิเวอร์พูล ในจังหวะสเคอร์เทลพุ่งเข้าเสียบเปิดปุ่ม แถมยังสูงน่าดูจนเบลล้มกลิ้งร้องด้วยความเจ็บปวด แม้จะโดนบอลแต่ดูแล้วอันตรายอยู่เหมือนกัน ผู้ตัดสินเลยเป่าฟาวล์พร้อมเดินมาแจกใบเหลือง ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้เล่นลิเวอร์พูลและดัลกลิช 

แต่เมื่อกล้องจับภาพไปเห็นเบลลุกขึ้นมาคลายสนับแข้งก็เผยให้เห็นภาพรอยช้ำจากสตั๊ดขูดยาวเลย ผู้ตัดสินบางคนอาจจะถึงขั้นให้ใบแดงเลยก็เป็นได้ 

แลดูเหมือนจะเสมอ 
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย จากเกมที่เป็นเหมือนเดิมมาตั้งแต่ต้น ดูแล้วมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะจบลงด้วยผลเสมอ เว้นแต่จะมีทีมใดทีมหนึงก่อความผิดพลาดขึ้นมา เพราะแนวรับของทั้งสองเล่นกันได้ดีทั้งคู่ 

โอกาสทองหลุด!หน้าลิงยิงติดเซฟ 
นาทีที่ 85 เป็นโอกาสสุดงามแล้วจริงๆสำหรับสเปอร์ส เมื่อเบลวิ่งหลุดไม่ล้ำหน้าได้เข้าไปดวลเดี่ยวกับเรน่าแล้ว แต่พยายามที่จะยิงรอดขา ซึ่งนายด่านหัวเหม่งเล็งเอาไว้หุบขากันเซฟเอาไว้ได้ ชุลมุนอยู่สักหน่อย แต่ก็เคลียร์ทิ้งออกมาได้ในที่สุด 

ลิเวอร์พูลเองก็ได้ลุ้นคืน เมื่อซัวเรซมีโอกาสได้โขกแบบจังๆในกรอบเขตโทษ แต่ติดตรงที่ไปตรงตัวฟรีเดลที่รับเอาไว้ได้ น่าใจหายอยู่เหมือนกัน 

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลเองก็กดดันทีมเยือนได้มากพอสมควร แต่สุดท้ายจบ 90 นาทีทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์จบลงที่เสมอ 0-0 แบ่งกันไปฝั่งละแต้ม 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

ลิเวอร์พูล : 
เปเป้ เรน่า 6, ดาเนียล แอกเกอร์ 6.5, มาร์ติน สเคอร์เทล 6, เกล็น จอห์นสัน 6, มาร์ติน เคลลี่ 5.5, เจย์ สเปียริ่ง 5.5, ชาร์ลี อดัม 6, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 6, เคร็ก เบลลามี่ 6 (ดาวนิ่ง น.73, 6), แอนดี้ แคร์โรลล์ 6.5, เดิร์ค เค้าท์ 5.5 (ซัวเรซ น.66, 6) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เจมี่ คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, โดนี่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เซบาสเตียน โคอาเตส 

ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส : แบรด ฟรีเดล 6, เล็ดลี่ย์ คิง 6, ไมเคิ่ล ดอว์สัน 6, เบนอต์ อัสซู เอก็อตโต้ 6, ไคล์ วอล์คเกอร์ ***7, สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ 6.5, เจ็ค ลิเวอร์มอร์ 5.5, แกเร็ธ เบล 6, นิโก้ ครันชาร์ 5.5(โรส น.88), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 5.5(ซาฮา น.72, 6), ลูก้า โมดริช 6.5 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : คาร์โล คูดิชินี่, ไรอัน เนลเซ่น, บอนกานี่ คูมาโล่, คาเมร่อน แลนคาสเตอร์, มัสซิโม่ ลูออนโก้
 


 



 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 

แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์