ไล่รามอส!บาร์ซ่าเจ๊าราชัน 10 ตัวสุดมันส์ 2-2 ลิ่วโคปา


โคปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง 

วันพุธที่ 25 มกราคม 2555 

สนาม : คัมป์นู
 

บาร์เซโลน่า 2 : 2 เรอัล มาดริด 
(บาร์เซโลน่าเข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 4-3) 

ประตู : 
1-0 เปโดร น.43, 2-0 อัลเวส น.45+2, 2-1 โรนัลโด้ น.68, 2-2 เบนเซม่า น.72 

เกมโคปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง บาร์เซโลน่ากลับมาเปิดรังคัมป์นูต้อนรับการมาเยือนของเรอัล มาดริด พร้อมกับกสอร์ได้เปรียบ เพราะบุกไปเอาชนะได้ถึงซานติโก้ เบร์นาบิวเมื่อเกมที่แล้ว 2-1 

แน่นอนว่านัดนี้นอกจากชัยชนะที่เดิมพันกันแล้ว ยังมีประเด็นของ เปเป้ ที่เกมที่แล้วเหยียบมือเมสซี่ แต่สุดท้ายไม่มีการลงโทษแต่ประการใด อาจจะทำให้เดือดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ 

แม้ว่าบาร์ซ่าจะพักมือหนึ่งอย่างบัลเดส แล้วให้ปินโต้ลงเล่นแทน แต่ก็ยังคงส่งตัวหลักจัดหนักอย่างชาบี, อิเนสต้า, เมสซี่และซานเชซลงสนามเช่นเคย 

ส่วนเรอัล มาดริดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาต้องส่งตัวผู้เล่นที่ฟูลที่สุดลงสนาม เพื่อจะหวังบุกมาเอาชนะถึงถิ่นคัมป์นูให้ได้ 

ครึ่งแรก 

ปินโต้โคตรเซฟคร้าบ! 
เริ่มเกมมาได้ 3 นาที เรอัล มาดริดก็มีสิทธิ์ลุ้นประตูก่อนเลย จาจังหวะที่ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นทางซ้าย ก่อนที่จะเปิดโค้งยาวเข้าไปหน้าประตู ก่อนที่อิกวาอินจะเข้าโถมสะกิดบอล แต่ไม่ผ่านบล็อกของปินโต้ที่พุ่งออกมาบังเอาไว้ได้สวย 

แค่เริ่มมาไม่กี่นาทีแรก ก็สัมผัสได้ถึงเกมที่จะเล่นกันอย่างเมามัน ดุเดือดอย่างแน่นอน เพราะทั้งสองฝ่ายไล่บีบกดดันแบบไม่ให้อีกฝ่ายหายใจหายคอกันอยู่ตลอดเวลาและเสียงเชียร์ในสนามก็ดังกระหึ่มเสียนี่กระไร 

โด้จิ๋วได้ส่องแต่ยังติดปินโต้ 
นาทีที่ 11 แม้เกมจะแลกกัน แต่ทีมที่เล่นได้น้ำได้เนื้อกว่าดูจะเป็นมาดริด ที่มาได้โอกาสทำประตูอีกครั้ง จากจังหวะสวนกลับ กาก้ามีตัวเลือกสองทางด้านขวา แต่โดนกัน เลยแทงต่อให้โรนัลโด้ที่เติมขึ้นมาแตะบอลด้วยซ้าย แล้วิงเลยทันทีเพราะโดนบีบ แต่บอลก็ไม่หนีมือของปินโต้ที่ปัดป้องเอาไว้ได้ 

โคตรโหด!โอซีลยิงไกลอัดคาน 
นาทีที่ 25 เกือบจะโดนพังประตูจากลูกยิงสุดสวยไปก่อนแล้วสำหรับาร์เซโลน่า ในจังหวะที่โอซีลได้บอลนอกกรอบเขตโทษ แม้ระยะจะไกลน่าดู แต่เจ้าตัวก็ไม่สน จัดการตะบันด้วยเท้าซ้าย ส่งบอลพุ่งวาดโค้ง ตอนแรกเหมือนจะออกเพราะปินโต้ทำมือบอกเพื่อนไม่ต้องเป็นห่วง แต่บอลกลับฮุคปลายอัดคานเข้าเต็มๆ ยังดีที่บอลไม่เด้งข้ามเส้น 

ปินโต้เกือบฮา!ส่งให้อิกวาอินเฉย 
2 นาทีต่อมา จากตอนแรกหล่อๆ กลับกลายเป็นจะทำเพื่อนพังไปซะได้ สำหรับปินโต้ เมื่อเขาอุตส่ารับบอลคืนหลังมาแบบชิลๆ แต่ไปคิดช้าทำช้า เลยโดนโอซีลวิ่งเข้ากดดัน เจ้าตัวเลยลนทำอะไรไม่ถูกรีบเตะส่งๆออกไปเข้าทางอิกวาอินที่แตะบอลแล้วจัดการยิงสวนทันที แต่ด้วยมุมที่แคบ เลยติดบล็อกของปินโต้ที่ถือว่ายังแก้ตัวได้ทัน 

ต่างดาวมีเครียด!หน้าวิทย์เล่นต่อไม่ไหว 
นาทีที่ 29 ถึงกับเครียดเลยทีเดียวสำหรับบาร์เซโลน่า เมื่อมิดฟิลด์คนสำคัญของพวกเขาอย่างอิเนสต้ามีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว จึงต้องส่งเปโดรลงไปเล่นแทน งานนี้คงต้องตามข่าวกันแล้วว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน 

หวิดมาก!ซานเชซโดนแท็คล้มในเขตโทษ 
นาทีที่ 35 จังหวะนี้เสียวกันสุดๆเลยสำหรับแฟนบอลเรอัล มาดริด เมื่อบาร์ซ่าทำเกมแทงบอลจ่ายทะลุช่องโค้งเข้าไปให้กับซานเชซวิ่งโฉยบหมายจะแตะแล้วพลิกยิง แต่มาโดนเปเป้ตามเข้าเบียดปะทะก่อนจะล้มลงไปทั้งคู่ ท่ามกลางเสียงโวยของแฟนบอลเจ้าบ้านที่จะเอาจุดโทษ แต่สุดท้ายก็ได้แค่เตะมุมไป 

ต่างดาวยังขาดพื้นที่สุดท้าย 
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย วันนี้บาร์เซโลน่าเองไม่ได้เล่นแย่อะไร เพียงแต่พวกเขาดูจะเน้นรัดกุมเอาไว้ก่อนในจังหวะจ่ายเข้าพื้นที่สุดท้ายที่จะใช้ผู้เล่นแค่ 2-3 คนเท่านั้น เพียงแต่วันนี้ต้องยอมรับว่ากองหลังเรอัล มาดริดชื่อกันได้เป็นอย่างดี ความผิดพลาดแทบไม่มีให้เห็น 

มาแล้ว!ต่างดาวสวนเฉียบทีเดียวหาย 
นาทีที่ 43 พอก่อความผิดพลาดขึ้น ก็นำมาซึ่งการเสียประตูทันทีทันใดเลยสำหรับเรอัล มาดริด ในจังหวะโดนโต้กลับแล้วปล่อยให้เมสซี่ได้ลากบอลจี้เข้าหา แม้ว่าจะมีกองหลังรุมอยู่ถึง 3 ตัว แต่แข้งอาร์เจนไตน์ก็ดัดบอลต่อไปให้กับเปโดรที่เติมขึ้นไปทางซ้ายได้ยิงว่างโล่งโต้ง เพราะอาร์เบลัวหลุดออกจากตำแหน่งไปแล้ว คาซิญาสหมดสิทธิ์ป้องกัน บาร์ซ่านำ 1-0 พร้อมทิ้งสกอร์รวมไปห่างเป็นสองลูหเข้าให้ 

เอาคืน!เมสซี่เตะเปเป้เฉยๆเนี่ยแหละ 
อีก 1 นาทีต่อมา แฟนบอลของบาร์ซ่ากรี๊ด เฮฮายังยกใหญ่ เมื่อเห็นซูเปอร์สตาร์ของพวกเขาเหมือนจะเอาคืนเปเป้ที่เกมที่แล้วเหยียบมือซะจมสตั๊ด ด้วยการวิ่งเข้าไปเตะตัดรวบแบบหน้าตาย แม้ตอนที่กรรมการชูใบเหลืองให้ก็ยังทำหน้าเฉยๆ สะใจกองเชียร์กันไป 

ช่วงท้ายครึ่งแรก มีเหตุการณ์วุ่นวายเล็กน้อย เมื่อลาสไปเข้าช้าใส่เมสซี่ จนทำให้นักเตะของทั้งสองทีมวิ่งกรูเข้าไปกดดันกรรมการ แต่มีคาซิญาสที่ออกท่าทางโมโหกว่าใคร เลยได้รับใบเหลืองแก้ใจร้อนไป 

สุดตีน!อัลเวสวิ่งตะบันยิงระโคตรมันส์ 
ช่วงที่ทดเวลาเกินมาจากเหตุการณ์วุ่นวาย บาร์เซโลน่าก็มาได้ประตูนำห่างจากความยอดเยี่ยมของอัลเวส ที่วิ่งมายิงบอลอัดด้วยขวาขวาแบบเต็มสตรีน ในจังหวะที่กองหลังมาดริดเคลียร์บอลออกมาไม่ขาด ส่งบอลพุ่งเป็นจรวดผ่านมือของคาซิญาสเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมสวยจับจิตจับใจ บาร์ซ่าทิ้ง 2-0 พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์เป็นใจสุดๆ 

ครึ่งหลัง 

หยุดเมสซี่ ... ต้องฟาวล์ 
นาทีที่ 49 ยังคงวาดลวดลายได้อย่างหาตัวจับยากเหมือนเดิมสำหรับเมสซี่ ที่โชว์จังหวะลากจี้เข้าใส่กองหลังที่ยืนกันเป็นฝูงของมาดริด แต่ถึงอย่างนั้น 

เฮเก้อ!รามอสโหม่งไข่แตกแต่ไม่ได้ 
นาทีที่ 54 เฮเก้อกันไปเลยสำหรับ เรอัล มาดริด เมื่อลูกโหม่งทำประตูได้ของรามอสนั้นไม่ถูกให้ใส่สกอร์ เนื่องจากถูกจับฟาวล์ในจังหวะที่เขากำลังจะเทคตัวขึ้นโหม่งแล้วไปดึงอัลเวสจนหน้าคะมำเสียก่อน พร้อมกับเสียงโต้แย้งของนักเตะในทีม ก่อนที่โรนัลโด้จะรับใบเหลืองไปจากการโวยมากเกิน 

โดยก่อนหน้านี้ 2 นาที เรอัล มาดริดได้เปลี่ยนเอากราเนโร่ลงไปเล่นแทนลาส ก็ต้องดูว่าเกมของพวกเขาจะดีขึ้นมามากน้อยเพียงใด 

ปรับอีก!ราชันถอดกาก้า 
ปรับกันเต็มที่เลยสำหรับเรอัล มาดริด เมื่อพวกเขาตัดสินใจถอดกาก้าออกและส่งกัลเญฆ่อนลงไปเล่นแทน แต่จากการเปลี่ยนเอากราเนโร่ลงไปก่อนหน้านี้ เกมของพวกเขาก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นมากสักเท่าไหร่ 

ราชันยังพยายามต่อ 
เกมเข้าสู่ช่วง 25 นาทีสุดท้าย มาดริดก็ยังพยายามเดินหน้าลุยต่อเพื่ออย่างน้อยที่สุดต้องการประตูแรกให้ได้ก่อน ที่เหลือค่อยมาคิดว่าจะพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างไร ถ้าหากยังทำประตูไม่ได้ไปเรื่อยๆ ความหวังของพวกเขาก็คงมอดลงเรื่อยๆเช่นเดียวกัน

มันเอาจนได้!โด้จิ๋วหลุดไปยิงไข่แตก 
นาทีที่ 68 ในที่สุดประตูแรกของเรอัล มาดริดก็มาจนได้ จากจังหวะที่โอซีลแทงบอลทะลุช่องไปให้กับโรนัลโด้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ยึกหลอกปินโต้ก่อนหนึ่งจังหวะ แล้วจัดการแปบอลผ่านการพยายามสกัดของปูโยลเข้าประตูไป สกอร์เป็น 2-1 

เขาอีกแล้ว!เปเป้ฟาดเชสก์ร่วง 
อีก 2 นาทีต่อมา ตกเป็นประเด็นอยู่ตลอดจริงๆสำหรับเปเป้ เมื่อจังหวะเบียดแย่งบอลของเขากับฟาเบรกัส ในตอนที่ะพลิกตัวมือก็ไปฟาดเข้าหน้าของแข้งสแปนิชแบบเต็มๆ จนลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวด 

หลังจากฟาเบรกัสลุกขึ้นมาได้ เขาก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไปทันที โดยบาร์ซ่าส่งธิอาโก้ลงไปเล่นแทน 

มันส์แล้วคร้าบ!เบนเซม่าซูเปอร์ซัพ 
เกมนี้ออกได้ทุกหน้าแล้ว ในนาทีที่ 72 เมื่อเบนเซม่าที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงไปในครึ่งหลัง ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของปิเก้ที่เปิดบอลไปติดหัว กัลเญฆ่อน ก่อนที่จะเข้าทางเขา วิ่งเข้าไปยกบอลหลบกองหลังบาร์ซ่า แตะด้วยเข่าอีกดอก แล้วล้มตัวยิงเบียดเสาแรกเข้าประตูไป สกอร์รวมเป็น 4-3 ลุ้นกันมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงเวลาที่เหลือ 

โด้จิ๋วยิงวืดเอง 
นาทีที่ 75 เล่นเอาโอซีลที่อุตส่าลากบอลหนีอบิดัลมาได้อย่างสวยเข่าอ่อนเลย สำหรับโรนัลโด้ที่วิ่งโฉบไปรอบอลเสาแรก แล้วหวังจะตวัดยิงตามน้ำทันที แต่ก่ะจังหวะผิดหวดว่าวไปเต็มๆ 

ตอนนี้เป็นทางมาดริดที่บุกกดดันขึงใส่บาร์ซ่าแบบไม่หยุดหย่อน จนปินโต้ต้องออกมากระตุ้นเพื่อน หากหวังที่จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแบบชัวร์ๆ 

เสียวโว้ย!เบนเซม่าเกือบได้ยิง 
อีก 3 นาทีต่อมา เสียงฮือฮาหวาดเสียวกันทั้งสนามเลย เมื่อเรอัล มาดริดวางบอลยาวไปในแดนหน้า เบนเซม่าทะลุขึ้นไปแตะเอาบอลลงได้ แต่โดนปูโบลเข้าแท็คเกิ้ลสกัดเอาไว้ก่อนที่เขาจะยิงได้ 

ซึ่งภาพช้าก็เอาไปเทียบกับจังหวะที่ซานเชซวิ่งหลุดเข้าไปถึงบอลในกรอบเขตโทษ แต่โดนเปเป้วิ่งเข้ากระแทกซะตัวปลิว จนต้องรับการปฐมพยาบาลไป 

แดงจนได้!รามอสโดนไล่ออก 
นาทีที่ 88 ในที่สุดก็มีใบแดงเกิดขึ้นจนได้ เมื่อรามอสไปขึ้นโหม่งพร้อมกับเปโดรแล้วเหมือนกับว่าแขนเขาไปฟาดใส่หน้า จนโดนล้มลงไป ทำให้ผู้ตัดสินเดินมาแจกใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามทันที 

แต่ที่แปลกคือตอนกำลังจะเดินออกนอกสนาม มูริญโญ่ดึงตัวรามอสไปกระซิบที่ข้างหูหน้าตาจริงจังอยู่นานสองนาน ต้องตามข่าวดูว่าจะเป็นเพราะอะไรกันแน่ 

กราเนโร่เล่นน่าเกลียด 
เหมือนสติจะขาดแล้วยังไงไม่ทราบ เพราะกราเนโร่จู่ๆก็ไปเปิดปุ่มสตั๊ดเข้าใส่ปิเก้ในจังหวะหวดบอลขึ้นหน้า แม้ว่าจะไม่โดน แต่ดูแล้วอันตรายน่าดู ทำให้ผู้ตัดสินเดินมาแจกใบเหลืองให้ไป 

ช่วงท้ายเกมต่างฝ่ายต่างอัดกันหนักถีงลูกถึงคน ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลา พร้อมกับการผ่านเข้ารอบของบาร์เซโลน่าไปด้วยสกอร์รวม 4-3 แต่ก็มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นท้ายเกม เพราะผู้เล่นเรอัล มาดริดต่างไม่พอใจกับคำตัดสินของผู้ตัดสิน กรูเข้าไปเอาเรื่องกันใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะเป็นบาร์ซ่าที่ทะลุผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายไป 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

บาร์เซโลน่า : 
โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ 6, เอริค อบิดัล 6, คาร์เลส ปูโยล 6, ดาเนียล อัลเวส  7, เคราร์ด ปิเก้ 5, ชาบี 7, อังเดรส อิเนสต้า 5(เปโดร  6.5 น.30), เชสก์ ฟาเบรกัส 4.5(ธิอาโก้ 5 น.70), ลีโอเนล เมสซี่  7, แซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์ 5, อเล็กซิส ซานเชซ 6.5(มาสเชราโน่ 5 น.79) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : วิคตอร์ บัลเดส, อาเดรียโน่, โจนาธาน โดส ซานโตส, ไอแซค คูเอ็นก้า 

เรอัล มาดริด : อีเคร์ คาซิญาส  6, เปเป้  5, แซร์คิโอ้ รามอส    6.5, อัลวาโร่ อาร์เบลัว 6, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา  6.5, ชาบี อลอนโซ่ 6.5, กาก้า 5.5(กาลเญฆ่อน 6.5 น.61), คริสเตียโน่ โรนัลโด้   7, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า  4.5 (กราเนโร่  6.5 น.52), เมซุต โอซีล 7.5*, กอนซาโล่ อิกวาอิน 4.5(เบนเซม่า  7 น.61) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : อันโตนิโอ เอดาน, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, ราอูล อัลบิโอล, มาร์เชโล่



 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์