กุนเหมาสอง!เรือแล่นฉิวไล่ทุบหม้อกระจาย 3-0


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 

วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2554
 

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3:0 สโต๊ค ซิตี้ 

ประตู
 : 1-0 อเกวโร่ น.29, 2-0 จอห์นสัน น.36, 3-0 อเกวโร่ น.54 


เจ้าบ้านแมนฯ ซิตี้ได้กลิชี่กลับมาจากโทษแบนแล้วเลือกส่งลงสนามทันที ส่วนเลสคอตต์ก็กลับมายืนเป็นตัวจริงอีกครั้ง ด้านฟอร์มการเล่นแม้พวกเขาจะทำแต้มหลุดมือบ้างใน 5 นัดหลังแต่ฟอร์มในบ้านยังสุดยอดชนะรวด 8 นัด 

ด้านสโต๊คก็ไม่มีชื่อเคราช์ไม่ตัวจริงและตัวสำรองเลือกส่งเจโรมลงมาแทนเพนแนนท์ ด้านสถิติตั้งแต่พวกเขาเจอกับแมนฯ ซิตี้ในเกมพรีเมียร์ลีกมาชนะเพียงแค่ครั้งเดียวในเกมเมื่อปี 2009 

ครึ่งแรก 

เปิดฉากเรือครองบอลบุกเข้าใส่ 
เปิดฉากครึ่งแรกมาเป็นไปตามเนื้อผ้าเจ้าบ้านได้ครองบอลมากกว่าแต่โอกาสจบสกอร์จังๆยังไม่ค่อยมีนักเพราะ"ช่างปั้นหม้อ"มาเล่นเกมรับรอสวน 

นิดเดียว!เอเจส่องไกลแฉลบชนคาน 
แล้วจนนาที 14 "เรือใบ"เกือบได้ประตูขึ้นนำแล้วจากยาย่าที่ตัดบอลมาได้กลางสนามก่อนออกไปทางขวาให้กับจอห์นสันเลี้ยงตัดเข้าในมานิดหน่อยแล้วซัดเลย บอลแฉลบตัวบล็อกบอลพุ่งชนคานอย่างจังอดได้ประตูไป 

นาสรี่อัดเต็มข้อไม่ตรงกรอบ 
"เรือใบ"มีโอกาสลุ้นได้ประตูอีกครั้งนึงจากนาสรี่ที่พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนมองหาตัวต่อบอลในเขตโทษแล้วฝากไปที่"กุน"ก่อนดึงจังหวะรอแล้วคืนให้นาสรี่วิ่งเข้ามากดเต็มข้อแต่บอลหลุดกรอบผ่านเสาไกลออกหลัง 

เรือกางใบ!กุนซ้ำจ่อๆพาขึ้นนำ 
เจ้าบ้านกดดันอยู่ซักพักก่อนที่นาที 29 พวกเขาก็มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จจากซิลบาที่ครองบอลอยู่ทางซ้ายก่อนจะลากเข้าในแล้วดีดทะลุให้ยาย่าหลุดไปเปิดถึงกอมปานีชาร์จที่เสาแรกโดนปัดไว้ได้ แต่ไม่พ้นทางปืนโดนอเกวโร่ที่ยืนในไลน์ซ้ำจ่อๆ แมนฯ ซิตี้ออกนำไปก่อน 1-0 

พระเอกตัวจริง!เอเจยิงไกลบวกลูกสอง 
ผ่านไปซักพักเกมยังเป็นของ"เรือใบ"แล้วนาที 36 ก็มาบวกประตูที่สองจนได้จากจังหวะที่ซิลบาไปรับบอลแทงทะลุช่องจนสุดเส้นหลังแต่โดนเบียดแย่งไปก่อนจ่ายให้ไวท์เฮดออกบอลถึงวอลเตอร์แต่จับบอลพลาดโดนจอห์นสันตัดบอลได้ก่อนจะจัดการส่องไกลระยะ 28หลาบอลพุ่งเบียดเสียบเสาเข้าประตู แมนฯ ซิตี้นำห่างเป็น 2-0 

เอเจปั่นฟรีคิกยังโดนเซฟ 
เข้าช่วงท้ายของครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้ได้ลูกฟรีคิกทางหน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวาจากนาสรี่ที่โดนทำฟาวล์ ก่อนคนรับหน้าที่จัดการลูกนี้เป็น"เอเจ"วิ่งเข้ามาปั่นด้วยซ้ายหวังให้บอลเสียบโคนเสาไกลแต่โซเรนเซ่นยังพุ่งมาเซฟเอาไว้ได้ทัน 

ครึ่งหลัง 

กุนลองส่องยังตรงตัวโซเรนเซ่น 
เริ่มครึ่งหลังมารูปเกมยังคงเหมือนกับครึ่งแรกที่เจ้าบ้านได้ทำเกมบุกมากกว่าและก็ได้ลุ้นบวกลูกที่สามเลยจากการยิงไกลของอเกวโร่แต่ยังเบาไปและตรงตัวโซเรนเซ่นรับสบาย 

สบายๆ...หม้อพลาดเรือสวนกุนซัด 
แล้ว"เรือใบ"ก็บวกประตูที่สามสมใจในนาที 54 จากจังหวะพลาดโดนตัดเกมในแดนตัวเองอีกแล้วก่อนแบร์รี่จะจ่ายเข้าเขตโทษทางขวาให้กับนาสรี่ตบเข้ากลางผ่านกองหลัง"ช่างปั้นหม้อ"สามคนถึงอเกวโร่ที่เสาไกลยิงเข้าไปง่ายๆ แมนฯ ซิตี้นำสบายๆ 3-0 พร้อมกับลุ้นแฮตทริกของ"กุน" 

กุนส่องลุ้นแฮตทริก 
เจ้าบ้านเกือบจะมีลูกที่สี่พร้อมกับแฮตทริกจาก"กุน"แล้วจากจังหวะที่ยาย่าพาบอลขึ้นมาก่อนจะแทงทะลุให้กับอเกวโร่ได้หลุดไปจิ้มบอลผ่านตัวโซเรนเซ่นไปแต่น่าเสียดายที่ไม่ตรงกรอบ

นานๆทีหม้อบุกได้ลุ้น 
นานๆทีมเยือนจะได้มีโอกาสลุ้นบ้างจากลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้าไปที่ทางเสาสองให้กับวิลสันได้โหม่งบอลตกลงพื้นลอยโด่ง โจนส์พยายามโหม่งเช็ดอีกต่อแต่ฮาร์ทยังออกมาปัดลูกโหม่งเอาไว้ได้ก่อน 

เกือบจบสวย!กุนชิปให้แบร์รี่ยิงติดเซฟ 
นาที 69 "เรือใบ"ยังเดินหน้าหาประตูที่สี่ต่อและก็เกือบได้เหมือนกันจากจังหวะที่อเกวโร่พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนลากตัดเข้าในแล้วชิปข้ามแผงหลังให้แบร์รี่ที่วิ่งสอดไปยิงยัดเสาแรกแต่โซเรนเซ่นยังช่วยเซฟเอาไว้ให้สโต๊ค 

เรือครองเกมเด็ดขาด 
นำห่างถึงสามลูกแล้วแต่ฝั่งเจ้าบ้านยังครองเกมไว้ได้แบบหมดจดชนิดที่สโต๊คแทบหาบอลไม่เจอโดยมีอยู่ช่วงนึง"เรือใบ"ได้ครองบอลมากถึงถึง 95% ด้วยกันแต่จังหวะขึ้นไปลุ้นลูกสี่ยังไม่มีจังหวะจังๆมากเท่าไหร่นัก 

หม้อลุ้นตีตื้นเล็กๆ 
ช่วงท้ายเกมจังหวะไม่มีอะไรกันมากมายโดย"ช่างปั้นหม้อ"ได้มาลุ้นตีตื้นเล็กๆจากลูกเตะมุมทางซ้ายเปิดเข้ามาตรงกลางถึงวิลสัน ฮาร์ทออกมาตัดบอลไม่โดนแต่ก็ไม่มีอะไรเพราะวิลสันโหม่งไม่ตรงกรอบ 

เอเจยิงทดเจ็บยังไม่เข้า 
ทดเจ็บ"เรือใบ"ยังได้ลุ้นบวกลูกที่สี่จากอเกวโร่ที่พยายามตามหาแฮตทริกได้ครองบอลหน้าเขตโทษก่อนจะพาบอลไปทางซ้ายเลี้ยงยาวเกินเข้าทางจอห์นสันได้ยิงติดเซฟโซเรนเซ่น 

จบเกมแมนฯ ซิตี้ก็เปิดบ้านทุบสโต๊คไปแบบสบายๆ 3-0 โดยอเกวโร่ยิง 2 ประตูในเกมนี้ ทำให้พวกเขายังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไปพร้อมรักษาระยะห่างกับแมนฯ ยูไนเต็ดเอาไว้ที่ 2 แต้มเหมือนเดิม 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
 : โจ ฮาร์ท 6.0, โจลีออน เลสคอตต์ 6.0, แวร์นซ็องต์ กอมปานี 6.0, กาเอล กลิชี่ 6.0, ไมกาห์ ริชาร์ด 6.0 (ซาวิช น.59 6.0), แกเร็ธ แบร์รี่ 7.0 (มิลเนอร์ น.82 -), ยาย่า ตูเร่ 7.5, ซามีร์ นาสรี่ 7.0, อดัม จอห์นสัน 7.0, ดาบิด ซิลบา 7.0 (บาโลเตลลี่ น.68 6.0), แซร์คิโอ้ อเกวโร่ 8.0* 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โคโล่ ตูเร่, ไนเจล เด ยอง, ปาโบล ซาบาเลต้า, คอสเทล พานทิลิมอน 

สโต๊ค ซิตี้ : โทมัส โซเรนเซ่น 5.0, โจนาธาน วู้ดเกต 5.5 (ดิเยา น.80 -), แมตธิว อัพสัน 5.0, มาร์ก วิลสัน 5.5, โรเบิร์ต ฮูธ 5.5, วิลสัน ปาลาซิออส 5.0, ดีน ไวท์เฮด 5.0, ไรอัน ช็อตตัน 5.0, คาเมรอน เจโรม 5.0 (ฟูลเลอร์ น.69 5.5), เคนวิน โจนส์ 5.5 (เพนแนนท์ น.74 6.0), โจนาธาน วอลเตอร์ส 5.5 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอรี่ ดีแลป, แมตธิว เอเธอริงตัน, อัสเมียร์ เบโกวิช, ดิเอโก้ อาริสเมนดี้
  
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์