เบนซ์เบิ้ล!ราชันเหนือชั้นรัวซาเกร็บยับ 6-2 ผ่านเข้ารอบ


ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2554
 

 เรอัล มาดริด 6 : 2 ดินาโม ซาเกร็บ  

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว 

ประตู : 1-0 คาริม เบนเซม่า น.2, 2-0 โฆเซ่ กาเญฆ่อน น.6, 3-0 กอนซาโล่ อิกวาอิน น.9, 4-0 เมซุต โอซิล น.20, 5-0 โฆเซ่ กาเญฆ่อน น.49, 6-0 คาริม เบนเซม่า น.66, 6-1 ฟาโต๊ส เบคิราจ น.81, 6-2 อีวาน โทเมซัค น.90
 

ครึ่งแรก 

เรอัล มาดริดไม่ต้องดูเชิงกันมากเมื่อเปิดฉากเล่นแค่ 2 นาทีก็พังประตูออกนำซาเกร็บ 1-0 จากจังหวะที่โอซิลจ่ายบอลไปให้เบนเซม่าได้กดด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษผ่านตัวเคลาว่าเข้าไปตุงตาข่าย 

แล้วอีกสี่นาทีถัดมาเบนเซม่าก็มาสวมบทแอสซิสต์บ้างหลังได้บอลแถวหัวกระโหลกก่อนผ่านบอลให้กาเญฆ่อนวิ่งเข้าซัดจากนอกกรอบเขตโทษเบียดเสาซ้ายเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้เจ้าบ้านนำ 2-0 

แค่นั้นไม่พอเมื่อในนาที 9 อิกวาอินรับบอลจากดิยาร์ร่าจนได้ทะลุเข้าไปกระหน่ำทางด้านขวาของกรอบเขตโทษและบอลก็พุ่งเบียดเคลาว่าเข้าเสาแรกไปให้"ราชันชุดขาว"ทิ้งห่างสุดกู่ 3-0 

นาที 14 บอลจากอลองโซ่ที่เปิดโอกาสให้โคเอนเทราได้เปิดบอลจากทางกราบซ้ายเข้ามาให้อิกวาอินปรี่เข้ากระทุ้งเต็มๆแต่บอลเหินข้ามคานออกไปเฉย 

เรอัล มาดริดยังไม่เพลาเกมบุกเมื่อถึงนาที 20 เบนเซม่าส่องไกลหลุดกรอบแต่พวกเขาก็นำบอลมาบุกอีกครั้งแล้วเป็นอิกวาอินที่ยิงไกลไปติดเซฟของเคลาว่าที่เสาซ้ายแต่โชคร้ายที่บอลกระดอนมาเข้าทางโอซิลที่ได้ซ้ำง่ายๆเข้าไปเปลี่ยนสกอร์เป็น 4-0 

นาที 28 โคเอนเทราใช้ความสามารถเฉพาะตัวลากบอลฝ่าแนวรับทีมเยือนไปได้สองด่านทางฝั่งซ้ายก่อนตัดสินใจยิงอัดมุมแคบแต่ไม่ผ่านมือเคลาว่า 

ช่วงท้ายของครึ่งแรกนาที 37 โอซิลพาบอลโต้กลับเร็วขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจ่ายคืนไปให้เบนเซม่าที่วิ่งมาจากหัวกระโหลกเข้ามาซัดเต็มข้อแต่เคลาว่ายังเหนียวปัดข้ามคานได้ทัน ทำให้สกอร์ยังเป็นมาดริดนำซาเกร็บ 4-0 

ครึ่งหลัง 

กลับมาเล่นครึ่งหลังมูรินโญ่สร้างความประหลาดใจด้วยการปรับทัพรวดเดียวครบโควต้าโดยส่งกราเนโร่,อัลตินท็อปและอัลบิโอลลงมาแทนอลองโซ่,โอซิลและรามอส 

นาที 49 วาราเน่เซนเตอร์แบ็คก้านยาวแทงบอลทะลุช่องให้กาเญฆ่อนสับเท้าวิ่งเข้าไปกระทุ้งด้วยอีขวาข้างถนัดในกรอบเขตโทษสวนตัวเคลาว่าเข้าเสียบเสาขวาเป็นประตูทิ้งห่าง 5-0 สำหรับมาดริด 

อีกสิบนาทีถัดมาเบนเซม่าก็ผ่านบอลไปให้คู่ขาแดนหน้าอย่างอิกวาอินได้วางเท้ายิงในกรอบเขตโทษไปทางเสาซ้ายแต่เคลาว่ายังเยี่ยมพุ่งปัดออกหลังได้อีก 

เจ้าบ้านยังบุกแหลกจนนาที 60 โทเนลสกัดบอลไปเข้าทางอิกวาอินได้จ่ายต่อไปยังเบนเซม่าแทงทะลุให้กาเญฆ่อนทางด้านขวาซึ่งเขาพยายามชิพบอลไปที่เสาไกลแต่เคลาว่าก็ยังจัดการปัดทิ้งออกหลัง 

นาที 66 เรอัล มาดริดก็มาได้ประตูครบครึ่งโหลจากฝีเท้าของเบนเซม่าที่ได้บอลมาจากอิกวาอินจนได้โอกาสสับไกยิงในเขตโทษผ่านมือเคลาว่าเข้าไปทางเสาขวา 

แต่แล้วในนาที 81 "ราชันชุดขาว"ก็ต้องมาเสียประตูแรกในแชมเปี้ยนลีกส์ซีซั่นนี้เมื่ออิบาเนซเปิดบอลเข้ามาให้เบกิราจเทคตัวขึ้นโขกเข้าไปจมตาข่ายที่เสาซ้าย 

อีกสองนาทีถัดมาเจ้าบ้านหวิดได้ลูกที่ 7 เมื่ออิกวาอินโหม่งชงบอลมาให้เบนเซม่าปรับแต่งจนได้ซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาข้างถนัดเข้าไปกระแทกคานอย่างจัง 

นาที 89 กราเนโร่ห้องเครื่องตัวสำรองก็มาแทงบอลทะลุให้เบนเซม่าได้วิ่งเข้ายัดทางกรอบเขตโทษด้านขวาแต่เคลาว่าไม่ยอมเสียประตูอีกแล้วเซฟออกหลังไป 

นาทีสุดท้ายของการแข่งขันบาเดลมาเบิกทางจ่ายบอลไปให้โทมาซัควิ่งเข้ากดด้วยอีซ้ายผ่านตัวคาซิญาสเข้าไปซุกก้นตาข่ายกูหน้าให้ซาเกร็บไล่มาเรอัล มาดริดมาเป็น 6-2 ก่อนจบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ทำให้ยอดทีมจากสเปนผ่านเข้าสู่รอบถัดไปในทันทีด้วยชัยชนะ 5 เกมรวด 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

เรอัล มาดริด : 
อีเกร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส (ราอูล อัลบิโอล น.45), ราฟาเอล วาราน, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, นูรี่ ซาฮิน, ซาบี อลองโซ่ (เอสเตบัน กราเนโร่ น.45), โฆเซ่ กาเญฆ่อน , เมซุต โอซิล  (ฮามิต อัลตินท็อป น.45), คาริม เบนเซม่า , กอนซาโล่ อิกวาอิน  

เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่ 

ดินาโม ซาเกร็บ : อีวาน เคลาว่า, โดมากอย วิด้า (อาริยาน อเดมี่ น.63), เลอันโดร คูเฟร , โตเนล, ลุยส์ อิบาเนซ, แซมเมอร์ (ฟิลลิป ลอนคาริช น.82), มิลาน บาเดล, มาเตโอ โควาชิซ, เมเหม็ด อลิสปาฮิช (เยร์โก้ เลโก้ น.45), ฟาตอน เบกีราจ  , อาเดรียน คาเลโญ่ 

เทรนเนอร์ : ครูโนสลาฟ ยูร์ชิช
 

 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์