‘ไทย’งัดฟอร์มเแจ่ม ไล่ถล่ม‘กัมพูชา’4-0ประตู

การแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา
 
เป็นการลงสนามนัดที่ 2 ของทีมชาติไทย ในกลุ่ม เอ โดยจะพบ กัมพูชา ซึ่งนัดแรกทีมชาติไทยประเดิมสนามไม่สวยพ่ายให้กับ มาเลเซีย 1-2 ประตู ส่วนกัมพูชาลงสนามเป็นนัดที่ 3 โดยนัดแรก แพ้ อินโดนีเซีย 0-6 ประตู นัดที่สองแพ้ สิงคโปร์ 1-2 ประตู


 เกมนี้ “น้าเหม่ง” ประพล พงษ์พานิช เฮดโค้ช เน้นเกมรุกเป็นพิเศษเพื่อหวังเก็บ 3 แต้มให้ได้
 
โดยปรับแผนการเล่นมาใช้ระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู อุกฤษณ์ วงศ์มีมา กองหลัง 4 คน คมกริช คำโสกเชือก, ธนพล อุดมลาภ, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ กองกลาง 3 คน นฤพล อารมณ์สวะ, สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์ และกองหน้า 3 คน อรรถพงศ์ หนูพรหม, รณชัย รังสิโย (กัปตันทีม) และณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ


 เริ่มต้นครึ่งแรกเป็นกัมพูชาที่ครองเกมบุกได้มากกว่า ขณะที่ทีมไทยรอจังหวะสวนกลับ นาที 11

ไทยมีโอกาสได้ทักทายก่อนจากจังหวะทำชิ่งของ รณชัย รังสิโย และ นฤพล อารมณ์สวะ แต่จังหวะสุดท้าย รณชัย กระดกบอลเบาไปทำให้ยังไม่เป็นประตู จากนั้นแฟนบอลไทยได้เฮลั่นเมื่อ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ยิงประตูให้ไทยขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อรรถพงศ์ หนูพรหม จ่ายให้ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ แตะหลบกองหลังบริเวณกรอบเขตโทษก่อนจะซัดบอลด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม


 หลังขึ้นนำไทยเริ่มครองเกมรุกได้มากกว่านาที 34 ไทยเกือบได้ประตูที่ 2

จากจังหวะที่กองหลังกัมพูชาสกัดบอลไม่ดีบอลเลยมาถึง รณชัย รังสิโย ลากบอลหลุดเดียวเข้าไปดวลกับ อุม วิเชต ผู้รักษาประตูกัมพูชา แต่ รณชัย รังสิโย ยิงไม่ดีถูกผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้ ถัดมาอีก 5 นาที ไทยได้ลูกฟรีคิกระยะ 19 หลา แต่ อรรถพงศ์ หนูพรหม ปั่นบอลข้ามคานออกไป ท้ายครึ่งแรกไทยโหมบุกหนักหวังทำประตูที่สอง ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่คทมพอทำให้ยังคงนำอยู่เพียง 1-0 ประตู


 ครึ่งหลัง กัมพูชาเปลี่ยนเอา แก้ว ซกง่อน นักเตะที่ค้าแข้งอยู่กับทีม สมุทรสาคร เอฟซี ทีมในดิวิชั่น 2 ออก และให้ ซก เปียง ลงเล่นแทน นาที 47 กัมพูชาได้โอกาสฟรีคิกระยะ 20 หลา ท่วา ชิน ชอึน ห้องเครื่องตัวเก่งกลับยิงข้ามคานออกไปแบบไม่มีลุ้น จากนั้นไทยที่ขึงเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียวพลาดประตูที่สองอีกครั้งจากจังหวะที่ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ได้โอกาสโขกบอลหน้ากรอบเขตโทษบอลชนคานเด้งออกมา ปกเกล้า อนันต์ วิ่งขึ้นมาโขกซ้ำแต่บอลข้ามคานออกไป


 นาที 60 ไทยเปลี่ยนตัวเอา เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ลงมาแทน นฤพล อารมณ์สวะ และทันทีที่ลงมาสัมผัสแรกก็ได้โอกาสยิงไกลระยะ 30 หลา

แต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตู นาที 68 ไทยเกือบโดนตีเสมอจากการโหม่งของ ซก เปียง แต่ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ยังเซฟไว้ได้ ถัดมาเพียงนาทีเดียวไทยเปลี่ยนตัวเอา ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ผู้ยิงประตูขึ้นนำออกและให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงเล่นแทน ทันทีที่ลงมา อดิศักดิ์ ไกรษร ได้จังหวะลากบอลเข้าไปยิงเต็มข้อบอลพุ่งชนคานเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย


 หลังควานหาประตูที่สองอยู่นานความพยายามของไทยก็ประสบความสำเร็จในนาที72 จากจังหวะที่ ซีเกต หมาดปูเต๊ะ
 
เปิดบอลจากทางด้านซ้ายเข้ไปในกรอบเขตโทษ อรรถพงศ์ หนูพรหม ทิ้งตัวโขกบอลเสียบเสาแรกให้ไทยนำห่าง 2-0 ประตู แม้ว่าจะนำห่างแต่ไทยยังไม่ผ่อนเกมบุก นาที 76 ไทยได้ประตูหนีห่าง 3-0 จากจังหวะที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ตวัดยิงบอลไปเสาแรกผู้รักษาประตูกัมพูชาปัดบอลมาเข้าทาง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ยิงไม่เหลือซาก
 นาที 83 ไทยได้ประตูชัย จากจังหวะที่ รณชัย รังสิโย เก็บบอลในแดนหน้าได้ก่อนจะพักบอลให้ อรรถพงศ์ หนูพรม วิ่งเข้ามายิงเต็มข้อบอลตุงตาข่ายให้ไทยนำห่าง 4-0 และเป็นประตูที่สองของตัวเอง จบเกมไทย ชนะ กัมพูชา 4-0 เก็บ 3 แต้มแรกสำเร็จ ขณะที่กัมพูชาตกรอบเป็นทีมแรก ส่วนนัดต่อไปทีมไทยจะลงสนามพบ ‘เจ้าภาพ’ อินโดนีเซีย วันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. เวลา 19.00 น. ที่สนาม เกโลร่า บังการ์โน


 ผลอีกคู่ในกลุ่ม เอ อินโดนีเซีย ชนะ สิงคโปร์ 2-0 ประตู ขณะที่สาย บี ฟิลิปปินส์ ชนะ ลาว 3-2 ประตู


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์