มิลานแชมป์โลก!ปิปโป้เบิ้ลถล่มเละ4-2

เกมสำคัญเอซี มิลาน

บอกไม่เคยปล่อยให้หลุดมือหลังฉวยโอกาสปิดสกอร์สุดเด็ดขาดจากปิปโป้ อินซา กี้คนเดียวสองประตูพาเอซี มิลานล้างแค้นต้อนตือโบคา จูเนียร์เละ 4-2 คว้าแชมป์สโมสรโลกอย่างยิ่งใหญ่ในเกมที่มีผู้เล่นถูกไล่ออกฝั่งละคน

โบคา จูเนียร์ 2 - 4 เอซี มิลาน

ประตู : 0-1 อินซากี้ น. 21,1-1 ปาลาซิโอ น.23,1-2 เนสต้า น.50,1-3 กาก้า น.61,1-4 อินซากี้ น.70,2-4 อัมโบรซินี่ น.84(ทำเข้าประตูตัวเอง)

ช่วงแรกโบคาพาบอลมาป้วนเปี้ยนแถวหน้าประตู"ปิศาจแดงดำ"บ่อยครั้งกว่าเล่นเอาแนวรับหน้าเครียด และโอกาสแรกของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 4 จากลูกยิงของคาร์โดโซ่ที่ยิงประตูในรอบรองได้บอลก่อนพลิกยิงหน้า เขตโทษแต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป

แต่อีกนาทีเดียว

โอกาสแรกของมิลานก็เกือบเป็นประตูทันทีจากลูกที่ซีดอร์ฟโชว์เหนือกระดกข้ามหัวเซน เตอร์ให้อินซากี้หลุดไปหักข้อยิงตรงมุมกรอบ 6 หลาแต่บอลบดเลยถากผ่านเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น 

มิลานเริ่มครองเกมมากกว่าและเริ่มเป็นฝ่ายเข้าทำโบคาได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่นาทีที่ 11 ดีด้ามางัดฟอร์ม เก่งให้คนญี่ปุ่นชมถึงที่หลังพุ่งออกมาคว้าบอลจากลูกเปิดทางปีกซ้ายของโบคาวืดยังดีที่ลูกซ้ำยิงไม่ตรงกรอบเอง

มิลานได้บอลมากกว่าก็จริง

แต่หาทางเจาะแนวรับของโบคาที่ตามบีบเร็วตลอดและนาที 19 ยอดทีมจาก อิตาลีเกือบขึ้นนำอีกครั้งหลังมัลดินี่ตั้งป้อมยิงมาแค่ไกลบอลแป๊กยิงผิดแต่กลายเป็นดีไปเข้าทางกาก้าที่วางเท้าซัด เต็มๆแต่ติดบล็อกแชมป์จากลาตินอย่างน่าเสียดาย อีกนาทีเดียวปาแลร์โม่เอาตัวรอดหน้าเขตโทษด้วยการกะดกบอลอยู่สองจังหวะก่อนยิงแหากอากาศยัง ดีที่ดีด้าไม่พลาด

แต่จังหวะสวนกลับของมิลาน

ก็กลายเป็นประตูทันทีเมื่อกาก้าพาบอลลากจากกลามสนามขึ้นมาก่อนยิง ด้วยอีซ้ายตรงเส้นกรอบโทษพอดีแต่ติดบล็อกและยังดีบอลมาเข้าทางอีกรอบเลยป้ายให้อินซากี้แปไร้ตัวประกบเข้า ไปไม่มีเหลือ

อย่างไรก็ตาม

เกมมันสุดขีดเมื่อแค่นาทีเดียวโบคาตามตีเสมอทันควันจากลูดเตะมุมสั้นและเร็วก่อนเป็น ปาลาซิโอโผนโหม่งคนเดียวแค่ 6 หลาเสียบมุมเข้าไป ดีด้ายืนงงที่เพื่อนไม่ตามประกบกันเลย แต่จะว่าไปแล้วจังหวะ เล่นเร็วนี้เร็วจนกระทั่งคนโหม่งเองยังมึนเพราะเด็กเก็บบอลเอาบอลมาวางมุมธงปุ๊บแข้งโบคาก็เล่นเร็วทันที

ปาลาซิโอวันนี้เล่นโดดเด่นมาก สงสัยซัมเมอร์นี้อาจย้ายมาเล่นกับทีมใหญ่อีกคนเพราะเท้าซ้ายคล้ายตีน ตะขอพลิ้วดีจริงๆ

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาทีเดียว

ซีดอร์ฟลืมแก่พาบอลจากกลางสนามลากมาถึงหน้าเขตโทษแล้วกด ครึ่งหลอดบอลพุ่งเลียดสุดแรงแต่ตรงตัวนายทวารที่ย่อตัวรับติดมือ จากนั้นหมดเวลาทั้งคู่เสมอกัน 1-1 ต้องมา วัดดวงกันใหม่อีก 45 นาทีที่เหลือ

ครึ่งหลังเป็นมิลาน

ที่ชวนทะเลาะเป็นฝ่ายครองเกมและพาบอลจากแดนกลางตามเชิงโดยเฉพาะกาก้า กับซีดอร์ฟรวมทั้งปิร์โล่เป็นหัวใจของแชมป์ยุโรปจริงๆ

และนาที 50
 
มิลานมาขึ้นนำ 2-1 จากลูกที่ซีดอร์ฟถูกทำฟาว์ลตรงปีกขวาและเป็นปิร์โล่บหน้าที่เปิดและ ต้องบอกว่าลูกเปิดคล้ายตอนรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 2005 ที่มัลดินี่วิ่งมาซัดลิเวอร์พูลขึ้นนำแต่คราวนี้เป็นอัมโบรซิ นี่ที่วิ่งมากดตามนัดแต่จั่วลมและกลายเป็นดีเมื่อมาเข้าทางเนสต้าที่ตะบันเต็มตีนเตี่ยบอลพุ่งทะลุเสียบใต้คานราวกับ เป็นกองหน้าอาชีพ เกมกำลังมันได้ที่เพราะโบคาโหมจะตีเสมอให้ได้ส่วนมิลานคราวนี้ไม่ยอมเสียเร็วและรอสวนกลับเล่นงาน เม็ดสามอย่างระทึกสุดๆ

นาที 55

กาก้ารับบอลจากโบเนร่าหน้าเขตโทษและแม้จะพันแข้งพันแต่ก็ยังอุตสาห์ทำชิ่ง 1-2 กับอินซากี้ ก่อนหลุดเข้าไปหลอกยิงสองจังหวะจนสุดท้ายติดบล็อกแนวรับอย่างน่าเสียดาย อีก 3 นาทีโบคาน่าจะตีเสมอได้หลังอิบาร์ร่าแข้งจิ๋วแต่แจ๋วซึ่งเล่นดีไม่แพ้ปาลาซิโอรับบอลจากกลาง สนามก่อนล็อกหนีอัมโบรซินี่แล้วยิงไกลหน้าเขตโทษบอลพุ่งสุดแรงแต่ไปชนเสาดังสนั่นแถมปาแลร์โม่ตามซ้ำไม่ทัน อีก

แต่ถึงนาที 61

มิลานมปิดลูกที่สามจากความสามารถเฉพาะตัวของกาก้าที่ลากขึ้นมาคนเดียวแล้วเหมือน ถูกกองหลังต้อนไปมุมอับแต่ก็ยังยิงด้วยอีซ้ายแม้บอลไม่แรงรวมทั้งเหมือนจะไม่ตรงกรอบแต่ไปแฉลบขาผู้รักษา ประตูแล้วกระเด้งเข้าประตูไป มิลานนำ 3-1

ประตูนำห่างสองลูกทำให้"ปิศาจแดงดำ"เล่นสบายและต่อบอลกันเนียนอย่างชัดเจนแต่นาที 70 ปาลาซิ โอเกือบตีไข่แตกแต่ถูกคาลัดเซ่เข้าเร็วเลยต้องยิงเร็วบอลโด่งข้ามคานออกไป แต่นาที 70 จังหวะสวนพรวดเดียวของมิลานก็ยิงลูกสี่ได้อย่างง่ายดายจากลูกที่แนวรับโบคาพลาด โหม่งลูกโด่งวืดเลยไปตกที่เท้าซีดอร์ฟซึ่งลากขึ้นมาก่อนป้ายให้กาก้าในเขตโทษและเทพบุตรหน้าหล่อใจกว้างแปะ เข้ากลางเหมือนลูกแรกให้อินซากี้ตวัดยิงโล่งๆเข้าไปไม่มีเหลือ มิลานนำกระจาย 4-1

แต่ก่อนหมดเวลา 13 นาที

คาลัดเซ่ไปเปิดปุ่มน่าเกลียดใส่กาซิมจนถูกใบแดงไล่ออกทันควัน ช่วงท้ายๆมิลานบีบให้โบคาต้องยิงไกลและได้สองกันคนละทีสองทีจากบาเนก้าและบัตตาญ่าแต่ดีด้าล้ม ตัวรับติดหนึบทุกครั้ง นาที 83 คาฟูโชว์ฟิตวิ่งเลาะเส้นแบบไร้บอลทำทางให้ซีดอร์ฟก่อนได้สมใจอยากและเปิดตบเข้ากลางให้ กาก้าโหม่งแต่บอลหลุดกรอบออกไปหลังถูกตัวประกบตามคุมแจ

แต่อีกนาทีเดียว

โบคามาไล่มาเป็น 4-2 จากจังหวะเตะมุมที่บอลมาชุลมุนก่อนเป็นปาแลร์โม่ที่วิ่งมายิง เต็มข้อบอลพุ่งเป็นจรวดแต่ดีด้าโคตรหนึบปัดเหลือเชื่อแต่เลเดรสม่ามาตามซ้ำไปชนตัวอัมโบรซินี่เข้าประตูตัวเอง ซะงั้น แต่อีก 2-3 นาทีต่อมาเลเดรสม่าคนทำประตูมาถูกไล่ออกหลังเจตนาหวดกาก้าที่กระชากหนีอย่างน่า เกลียด กลายเป็นนัดชิงที่มีสองแดงแต่ไม่ได้โหดเถื่อนอะไรมากเลย

ช่วงเวลาที่เหลือ

มิลานปิดเกมส่งบอลไปมาให้แฟนบอลร้อง"โอเล่"ก่อนหมดเวลาคว้าแชมป์สโมสรโลกอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการล้างแค้นโบคาที่พวกเขาเคยแพ้มาในปี 2003 และเป็นครั้งแรกที่ทีมจากยุโรปได้แชมป์นี้นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจากโตโยต้า คัพเป็นฟีฟ่า เวิร์ลด คัพอีกด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์