กีฬาน่ารู้ : ที่มาของการยิงลูกจุดโทษตัดสินแพ้ชนะ

src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/012306551108300.jpg



src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/article-1037151-0155FFF300000578-216_468x476.jpg

ลื่น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ยิงพลาด!


เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่า ผู้ริเริ่มการยิงลูกจุดโทษตัดสินการแพ้ในเกมฟุตบอลนั้น คาร์ล วาล์ด อดีตกรรมการการแข่งขันฟุตบอลจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต เขาได้เสนอวิธีการตัดสินด้วยวิธีนี้ต่อสมาคมฟุตบอลรัฐบาวาเรียนของ เยอรมันในปี 1970 แต่เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการสมาคมคัดค้าน แต่ต่อมาไม่นาน สมาคมฟุตบอลเยอรมัน รวมถึงสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ก็ยอมรับข้อเสนอของเขา


อย่างไรก็ตามอีกแหล่งข้อมูล ก็อ้างว่า โยเซฟ ดาแกน ชาวอิสราเอล เป็นผู้คิดค้นวิธีการเตะลูกโทษขึ้น หลังจากที่ทีมชาติอิสราเอลถูกเขี่ยตกรอบออกจากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนใน ปี 1968 ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยวิธีการง่ายๆ จากการโยนเหรียญ ซึ่งดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมเอาซะเลย


สำหรับการยิงลูกโทษ แรกเริ่มนั้นแต่ละทีมไม่ได้สลับกันยิงประตูทีมละครั้ง แต่ทีมแรกจะยิงประตู 5 ครั้ง แล้วทีมที่สองจึงค่อยยิงตาม 5ครั้ง โดยเกมจะจบเมื่อมีทีมใดทีมหนึ่งยิงประตูได้มากกว่า ส่วนกรณีที่เสมอกัน ทั้งสองทีมจะต้องยิงประตูอีกฝ่ายละ 5 ครั้งอีกจนกว่าจะมีผู้ชนะ กระทั่งในปี 1976 ถึงจะมีกติกาให้สลับกันยิงประตูละครั้ง


8) ส่วนในอังกฤษ การยิงลูกโทษครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1970 ระหว่างทีมฮัล ซิตี้ กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อชิงถ้วยวัตนีย์ ซึ่งทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะไปได้ โดยนักเตะอังกฤษคนแรกที่ได้ยิงลูกโทษคือ จอร์จ เบสต์ และนักเตะคนแรกที่ยิงประตูพลาดคือ เดนิส ลอว์



src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/bbbb.jpg

เบสท์ กำลังซ้อมยิงจุดโทษกับสาวๆ อิอิ


ส่วนการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติครั้งแรกซึ่งใช้วิธียิงลูกโทษในการตัดสิน แพ้ชนะนั้น เป็นการแข่งขันชิงถ้วยยูโร 76 รอบสุดท้ายระหว่างทีมเชคโกสโลวะเกีย และเยอรมันตะวันตก ซึ่งทีมเชคโกสโลวะเกียชนะไป 5 ประตูต่อ 3โดย อันโตนิน ปาเนนกา เป็นผู้ยิงประตูแห่งชัยชนะ หลังจากที่ อูลิ เฮอเนส ของทีมเยอรมันตะวันตก เตะข้ามคานออกไปนิดเดียว
--------------------------------------------------------------
คุณพ่อที่แสนดี! เบ็ค พาลูกชายจอมซนเตะบอลสุดน่ารัก



ช่างเป็นคุณพ่อที่ผู้ชายทั่วโลกควรเอาเป็นแบบอย่างซะจริง สำหรับสุภาพบุรุษนักฟุตบอลอย่าง “เดวิด เบ็คแฮม” เพราะไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ก็ต้องมีลูกชายพ่วงติดไปด้วยตลอด ซึ่งขนาดวันมาซ้อมบอล กับทีมแอลเอ กาแล็กซี่ ในช่วงสายๆ ของวันเสาร์ พ่อเบ็คส์ ก็ไม่ปล่อยให้ลูกชายทั้งสามต้องอยู่บ้านเฉยๆ พากันออกมาเตะบอลด้วยกันกับคุณพ่อซะเลย!


โดยลูกชายทั้งสองหน่ออย่าง โรเมโอ วัย 8 ขวบและครูซ วัย 6 ขวบ นั้นก็ต้องบอกได้เลยว่ามีแววนักฟุตบอลเหมือนกับคุณพ่ออยู่เหมือนกัน แต่เรื่องที่น่าตลก คือ ชุดบอลของลูกทั้งสองกับไม่ใช่ชุดทีมที่คุณพ่อเบ็คส์เคยค้าแข้งอยู่เลย ซึ่งลูกชายคนกลางโรเมโอ กับใส่เสื้อทีมอาร์เซน่อล ส่วนลูกชายคนเล็ก ใส่เสื้อทีม สเปอร์ส ซะอย่างงั้น!


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/b15.jpg

สอนเจ้าลิงน้อยครูซยิงฟรีคิก



src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/b31.jpg

โรเมโอน่าจะเหมาะกับกองกลางตัวตัดเกม เพราะดูจากเข้าบอลแล้ว


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/b41.jpg

พอซ้อมบอลกันเสร็จก็พาลูกๆไปทานไอศครีมกันต่อในเบเวอร์ลี่ ฮิลล์


--------------------------------------------------------------
รอดูชะตากรรมเด็กปืน เจ๊ประกาศสู้ตายบุกแหลกแลกหมัดแข้งจักรวาล


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/cesc-arse.jpg

ต้องบุกสู้แล้วล่ะ ณ นาทีนี้


อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือทีมอาร์เซนอลลเชส ฟาเบรกาสกัปตันทีมประกาศว่าจะต้องเปิดเกมรุกสู้กับบาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกสองที่จะบุกไปเยือนคัมป์นูในคืนวันอังคารนี้ แม้ว่าจะตุนสกอร์นำอยู่ 2-1 ก็ตาม


เวนเกอร์กล่าวว่า “เราต้องใช้นักเตะที่สดลงไปเล่นที่คัมป์นูเพราะว่าเราต้องวิ่งกันมาก เราจะไม่ปลอดภัยถ้าหากว่าลงไปตั้งรับ คุณไม่สามารถไปเล่นที่บาร์เซโลน่าและเล่นเพื่อสกอร์ 0-0 โดยไม่พยายามทำประตู มันไม่ใช่เป้าหมายหลักของทีมเรา เราต้องพยายามทำประตูเมื่อได้ครองบอล”


ด้านเชส ฟาเบรกาสกัปตันทีมกล่าวว่า “เราต้องเค้นฟอร์มสุดยอดออกมาถ้าเราอยากเข้าสู่รอบต่อไป (สถานการณ์)ในปีนี้มันยากเพราะจบเลกแรกด้วยสกอร์ที่นำอยู่และเรายังต้องเล่นเกมรุกในเลกสองด้วย บาร์ซ่าอาจจะครองบอลมากกว่าเพราะสไตล์การเล่นของเขาโดยเฉพาะเกมที่เล่นในบ้าน เรารู้ว่าเราจะทำอะไรเมื่อเราได้บอล เราต้องเล่นให้เร็ว ให้นักเตะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและทำประตูอเวย์โกล์ให้ได้”
--------------------------------------------------------------
ตกเก้าอี้ล่วงหน้า! เสื้อใต้เฉดหัวฟานกัลหลังจบฤดูกาลนี้


ความหวังสุดท้าย


บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าหลุยส์ ฟาน กัล กุนซือชาวฮอลแลนด์ของทีมจะแยกทางกับสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาฟาน กัลพาทีมแพ้สามเกมรวด ทำให้ทีมเสือใต้หมดลุ้นแชมป์บุนเดสลีก้าไปเรียบร้อยแล้ว


เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนในศึกบุนเดสลีก้า ฟาน กัลพาบาเยิร์นแพ้ทีมคาบ้านต่อทีมจ่าฝูงดอร์ทมุนต์ 1-3 ก่อนจะตกรอบเดเอฟเบ โพคาลด้วยน้ำมือของชาลเก้หลังโดนทีมราชันสีน้ำเงินบุกมาสยบคาบ้าน 0-1 และฟางเส้นสุดท้ายคือการบุกไปแพ้ฮันโนเวอร์ 96 ด้วยสกอร์ 1-3 ทำให้บาเยิร์นมีแต้มห่างจากดอร์ทมุนต์จ่าฝูงถึง 19 คะแนน


โดยบาเยิร์นทำสถิติแพ้ติดต่อกัน 3 เกมเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และจากการประชุมของสโมสร สุดท้ายแล้วได้ออกแถลงการณ์ว่าฟาน กัลจะแยกทางกับสโมสรในวันที่ 30 มิถุนายนนี้โดยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย โดยบาเยิร์นยังมีโอกาสลุ้นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ทีมเสือใต้ตุนความได้เปรียบในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการชนะอินเตอร์ มิลานมา 1-0 ในนัดแรก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์