มิลานเงิบ!ไก่สวนเปรี้ยงเดียวเจ๊งคาถิ่น 1-0

มิลานเงิบ!ไก่สวนเปรี้ยงเดียวเจ๊งคาถิ่น 1-0

เอซี มิลานถึงกับเงิบคาถิ่นซาน ซีโร่กันไปเลย หลังจากที่อุตส่าห์พยายามทำเกมกันจนสามารถบุกกดดันสเปอร์สในช่วงครึ่งหลังได้แล้ว แต่ก็มาโดนจังหวะสวนกลับอันเฉียบคมก่อนที่ปีเตอร์ เคร้าซ์จะซัดเข้าไป ทำให้ต้องพ่ายค่าถิ่นไป 1-0 แถมนัดหน้าจะไม่มีเจนนาโร่ กัตตูโซ่ที่เกมวันนี้เกเรเหลือเกินอีกด้วย

แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554


]เอซี มิลาน 0 : 1 สเปอร์ส

ประตู :
0-1 ปีเตอร์ เคร้าซ์ น.80

บิ๊กแมตช์ประจำแชมป์เปี้ยนส์ ลีกคืนวันอังคารนี้เมื่อเอซี มิลานเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของสเปอร์สที่ถือว่าทำผลงานในรายการนี้ได้น่าดูแชมป์

ทางเจ้าบ้านแม้จะไม่มีอังเดร ปิร์โล่แต่ในแดนหน้าก็ถือว่าน่ากลัวสุดๆสำหรับซลาตัน อิบราฮิโมวิชและโรบินโญ่

สเปอร์สเสียหายหนักเมื่อแกเร็ธ เบลปีกตัวเก่งนั้นมีอาการบาดเจ็บและไม่พร้อมลงเล่นในเกมนี้ แต่ก็ยังมีจอมทัพอย่างราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ตอยู่

ครึ่งแรก

มิลานรอดเสียจุดโทษ
เริ่มต้นเกมได้แป๊บๆเอซี มิลานก็รอดพ้นจากการเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ลูกเปิดของผู้เล่นสเปอร์สไปโดนแขนของเนสต้าในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรเพราะอาจจะมองว่าเป็นบอลทูแฮนด์ก็เป็นได้

ไก่ดีกว่าชัดเจน
ผ่านช่วง 15 นาทีแรกไป เกมส่วนมากจะเป็นทางสเปอร์สที่ทำได้ดีกว่า เพราะถ่ายบอลครองบอลกันได้ดีและมีจังหวะเซ็ตเกมรุกขึ้นไปกดดันแผงหลังของมิลานอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่จังหวะยังไม่เข้าแก๊บสักที

อับเบียติไม่ไหว
อีก 3 นาทีต่อมา อับเบียติโชคร้ายสุดๆหลังจากโชว์ฟอร์มเซฟประตูไปได้้หลายช็อตหลายดอก แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุโดนกระแทกเข้าไปที่ศรีษะ เจ้าตัวทนไม่ไหวต้องทิ้งตัวลงนอนกับพ้นก่อนที่จะถูกหามออกไป แล้วเปลี่ยนเอามาร์โก อาร์เมเลียลงไปเล่นแทน

อิบราร้อง!ร่วงในเขตโทษ
นาทีที่ 25 อิบราฮิโมวิชถึงกับร้องขอจุดโทษ ในจังหวะที่เขาโดนซานโดรเข้ามาแทคเกิ้ลจากข้างหลัง ก่อนที่จะล้มลงไปในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินก็เฉยและชี้มือบอกให้ลุกขึ้นมาแต่โดยดี

ตูอีกแล้ว!คราวนี้อิบราโดนศอก
ไม่รู้ว่าเป็นอะไรต้องเจ็บตัวอีกแล้วสำหรับอิบราฮิโมวิชที่คราวนี้โดนศอกของทางดอว์สันในจังหวะขึ้นแย่งกันโหม่งในกรอบเขตโทษอัดเข้าไปที่หลังหูจนล้มไปนอนกุมด้วยความเจ็บปวด แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร

มิลานดีขึ้นแต่ไม่สุด
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เกมของมิลานถือว่าดีขึ้นกว่าในช่วง 25 นาทีแรก เพราะได้มีโอกาสครองบอลและเซ็ตเกมขึ้นไปกดดันแนวรับของสเปอร์สได้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปหาโอกาสยิงหรือโยนบอลแม่นๆเข้าไปลุ้นได้เลย

ขณะที่ทางสเปอร์สนั้นก็อาจจะดร็อปลงไปบ้างจากช่วงแรก แต่ก็ยังคงมีการทำเกมขึ้นไปลุ้นอยู่เรื่อยๆ แต่ไอ้ที่ยังเหมือนเดิมก็คือจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่เฉียบสักเท่าไร

ฟาร์ตส่องไกลอย่างคม
นาทีที่ 42 ฟาน เดอร์ ฟาร์ตจัดการลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งแรงแล้วก็เหมือนจะฮุคมุดใต้คาน แต่อาเมเลียยังดีดตัวปัดเสยข้ามคานไปได้

จบ 45 นาทีแรกพร้อมสายฝนที่โปรยปราย มิลานยังคงเสมอกับทางสเปอร์สอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง

เอซี มิลานทำการจัดเต็มกองหน้า 3 ประสานด้วยการส่งอเล็กซานเดร ปาโต้ลงไปเล่นแทนคลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ

ซี๊ด!ฟาร์ตชิพหลุดไปนิดเดียว
นาทีที่ 51 อาเมเลียเกือบจะเสียท่าไปซะแล้ว เมื่อไปเจอลูกชิพที่แสนฉลาดของทางฟาน เดอร์ ฟาร์ตที่ได้บอลนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะพลิกตัวหนีการประกบแล้วจัดการชิพบอลทันทีและบอลก็ลอยข้ามหัวอาเมเลียที่ได้ยืนสารภาพแล้ว แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

โกเมสเซฟโคตร!
อีก 3 นาทีต่อมา เอซี มิลานโคตรน่าได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ได้เตะมุมแล้วเก็บตกบอลนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะตักเข้าในอีกที เป็นเยเปสที่สอดตัวขึ้นไปเทคโขกคนเดียวเน้นๆ ลูกนี้ใครเห็นก็คิดว่าหายชัวร์ แต่เป็นโกเมสที่พุ่งตัวไปปัดมือเดียวออกหลังได้อย่างสวยงาม

ฟ้ามณีเข้าบอลเสียวมาก
นาทีที่ 58 เสียวว๊าบกันทั้งสนาม เพราะการเข้าบอลแบบพุ่งเสียบขาคู่แถมหงายปุ่มสตั๊ดของฟลามินี่นั้นอัดทางชอร์ลูก้าเข้าจังๆ แม้ว่าจะโดนบอลแต่ก็เจ็บแสบน่าดู แต่ฟลามินี่โชคดีที่ผู้ตัดสินให้แค่ใบเหลืองเท่านั้น ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้เล่นทีมสเปอร์ส

ซึ่งหลังจากปฐมพยาบาลขั้นต้นไปแล้ว ชอร์ลูก้าเจ็บหนักไม่สามารถเล่นต่อไปได้ ทำให้สเปอร์สต้องเปลี่ยนเอาโจนาธาน วู้ดเกตลงไปเล่นแทน ซึ่งต้องดูกันว่าแฮร์รี่ เร้ดแนปป์จะปรับแนวรับยังไง

นี่ก็รอด!กั๊ตจังผลักหน้าโค้ชไก่
กลายเป็นเกมร้อนระอุดุเดือดไปเสียแล้ว เมื่ออารมณ์ของทั้งสองฝ่ายเร้าร้อนขึ้นมา ก่อนที่กัตตูโซ่จะไปมีปากเสียงกับทางโจ จอร์แดนโค้ชของสเปอร์ส ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวอิตาเลี่ยนจะระงับอารมณ์ไม่ไหวไปผลักหน้าจอร์แดนเข้าให้เต็มๆ แม้ผู้ช่วยจะเห็นเหตุการณ์ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คู่เดิม!โกเมสเซฟอีกแล้ว
จังหวะเตะมุมในนาทีที่ 63 ของมิลาน เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำแล้ว แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยโกเมสที่เซฟจังหวะโขกเน้นๆของทางเยเปสเอาไว้ได้ทันท่วงที ทำให้สเปอร์สยังคงไม่เสียประตูอยู่เช่นเดิม

ไก่เปลี่ยนโมดริชลง-ฟาร์ตออก
อีก 1 นาทีต่อมา สเปอร์สตัดสินใจถอดฟาน เดอร์ ฟาร์ตที่ไม่ได้ฟิตเต็ม 100% ออกไปพักและส่งลูก้า โมดริชจอมทัพอีกคนลงมาเล่นแทน

มิลานมาเรื่อยๆแล้ว
เกมเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตอนนี้กลายเป็นเอซี มิลานที่สามารถเซ็ตเกมของตัวเองและบุกกดดันใส่สเปอร์สได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยและแลดูว่าจะน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

เสียหาย!กั๊ตจังโดนเหลือง
นาทีที่ 75 ในที่สุดกัตตูโซ่ก็มาโดนใบเหลืองจนได้ หลังจากแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดไปหลายครั้งหลายหนจากจังหวะที่เข้าไปทำฟาวล์ผู้เล่นของสเปอร์ส ซึ่งนี่เป็นความเสียหายหนักเพราะจะทำให้เขาหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมที่ไวท์ ฮาร์ท เลนทันที

ครันชาร์ลงสนามแล้ว
อีก 3 นาทีต่อมา สเปอร์สเปลี่ยนเอาพีนาร์ที่ครึ่งหลังดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเงียบออกไปและส่งนิโก้ ครันชาร์ที่ช่วงหลังฟอร์มดีลงมาเล่นแทน

มิลานโดนจนได้!ไก่สวนไม่มีเหลือ
นาทีที่ 80 เกมสวนกลับของสเปอร์สยอดเยี่ยมเสียจริงๆ หลังจากโดนมิลานกดอยู่พักใหญ่ก็มาได้สวนตรงกลางสนามเป้นเลนน่อนที่กระชากจี้เข้าหากองหลัง ก่อนที่จะแตะหนีเยเปสแล้วป้ายบอลไปให้กับเคร้าซ์ที่ยืนรออยู่ในกรอบเขตโทษแปบอลจังหวะแรกทันที ผ่านมือของอาเมเลียเข้าไปไม่เหลือ สเปอร์สเฮดังๆนำแล้ว 1-0

เฮเก้อ!อิบราซัดโคตรงามแต่ไม่ได้
ช่วงทดเวลาเกือบมีการดราม่าเกิดขึ้นแล้ว เมื่อทางอิบราฮิโมวิชจัดการตีลังกาซัดประตูสุดสวยเข้าไปเสียบตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเป็นจังหวะฟาวล์ ซึ่งมาดูจากภาพช้าก็เป็นการฟาวล์จริงๆด้วยการผไปผลักดอว์สัน

จบ 90 นาทีเป็นทางสเปอร์สที่สามารถบุกมาเอาชนะเอซี มิลานได้ถึงถิ่น 1-0 ได้เปรียบสุดๆก่อนที่จะลงทำศึกในนัดที่สองที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน

มีเหตุวุ่วายเกิดขึ้นนิดหน่อย เมื่อกัตตูโซ่ที่วันนี้หงุดหงิดเป็นพิเศษเข้าไปหาเรื่องโจ จอร์แดนคู่เก่าคนเดิม ก่อนที่จะเอาหัวไปโขก ตามด้วยการสาวหมัดเข้าหน้าบาสซงผู้เล่นสำรองของสเปอร์สที่เข้ามากัน ทำให้ต้องห้ามปรามกันยกใหญ่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอซี มิลาน :
คริสเตียน อับเบียติ,มาริโอ เยเปส,อเลสซานโดร เนสต้า,ลูก้า อันโตนินี่,อิกนาซิโอ้ อาบาเต้,ธิอาโก้ ซิลวา,คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ,มาติเยอร์ ฟลามินี่,เจนนาโร่ กัตตูโซ่,โรบินโญ่,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

สเปอร์ส : โกเมส,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,วิลเลี่ยม กัลลาส,เบนอต์ อัสซู-เอก็อตโต้,เวดราน ชอร์ลูก้า,วิลสัน ปาลาซิออส,ซานโดร,สตีเว่น พีนาร์,แอร่อน เลนน่อน,ปีเตอร์ เคร้าซ์,ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์