เล่นแค่ 2 นาทีก็เหลือ10ตัวแต่ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ยังโชว์เจ๋งไล่บดเชือดนกแก้ว เอสปันญ่อล ดับคาถิ่น 1-0 มาร์เซโล่ สวมบทฮีโร่พาทีมจี้บาร์เซโลน่าเหลือเพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554
เอสปันญ่อล 0 - 1 เรอัล มาดริด
สนาม : เอสตาดิโอ เอล ปราต เด กอร์เนย่า
เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ กุนซืออาร์เจนไตน์ของทัพ นกแก้ว เอสปันญ่อล จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1ให้ หลุยส์ การ์เซีย, โจน เบร์ดู และ โฆเซ่ มาเรีย กาเยฆอน ทำเกมรุก วาง เซร์คิโอ การ์เซีย เป็นหน้าเป้า
ฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด กุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ส่ง เปเป้ ลงมายืนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เพื่อนร่วมชาติ ส่วน เซร์คิโอ รามอส ที่พ้นโทษแบนกลับมายังมีชื่อเป็นเพียงสำรอง ส่วนแนวรุกเป็นชุดเดิมทั้งหมดคือ อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คอยทำเกม วาง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนหน้าเป้า
เปิดฉากเริ่มเกมมาแค่2นาทีสถานการณ์ของ ราชันชุดขาว มาตกเป็นรองสุดกู่แต่หัววัน เมื่อ อีเกร์ กาซียาส ไปสะกิด โฆเซ่ มาเรีย กาเยฆอน ในจังหวะหลุดเดี่ยวล้มคว่ำลง ผู้ตัดสินไม่ลังเลชูใบแดงไล่ กาซียาส ออกจากสนามไปทันที ทั้งที่จากภาพช้าเห็นชัดเจนว่า กาเยฆอน เจตนาทิ้งตัวพุ่งล้ม
ทำให้ มูรินโญ่ ต้องถอด อังเคล ดิ มาเรีย ออกมา และส่ง อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูมือสองลงมาเฝ้าเสาแทน และ อาดาน ก็ต้องมาออกแรงเซฟชกลูกฟรีคิกของ หลุยส์ การ์เซีย ออกไปเป็นครั้งแรก
นาที 6 เกือบเป็น เรอัล มาดริด ออกนำไปก่อนจากการประสานของสองดาวเตะทีมชาติเยอรมัน โอซิล เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ ซามี เคดิร่า ทิ้งตัวสอดเข้ามาโขกบอลโด่งข้ามคานหวุดหวิด
สามนาทีต่อมา เคดิร่า มาได้โอกาสส่องติดต่อกัน โรนัลโด้ ไหลบอลมาให้ เคดิร่า กดบอลเรียดไปตรงตัว คาร์ลอส กาเมนี ล้มตัวรับสบาย
โอกาสลุ้นกลับเป็นของฝั่ง ราชันชุดขาว ที่มีตัวผู้เล่นน้อยกว่า ชาบี อลอนโซ่ ไหลบอลมาให้ มาร์เชโล่ ลากบอลมาซัดเต็มข้อบอลไแฉลบกองหลังเจ้าบ้านตกใส่คานบนหลุดออกหลังไป
นาที 22 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นบ้างจากลูกฟรีคิกระยะหวังผล ฆาเบียร์ มาร์เกซ ปั่นบอลข้ามกำแพง ทว่า อาดาน ยังไม่พลาดตามมาตะปบบอลรับอยู่หมัด
กระทั่งนาที 24 เป็น เรอัล มาดริด มาพังประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ โอซิล เก็บบอลที่กองหลังเจ้าบ้านเตะสกัดออกมาเข้าทางและแปะต่อให้ โรนัลโด้ ดึงจังหวะรอให้ มาร์เซโล่ เติมขึ้นมา ก่อนไหลบอลให้ มาร์เซโล่ ลากเข้าไปสับไกยัดแสกหน้า กาเมนี่ ที่เสาแรกตุงตาข่าย
ถัดมานาทีเดียว ราชันชุดขาว เกือบบวกเพิ่ม อลอนโซ่ ไหลบอลเรียดทะลุมาให้ อเดบาบอร์ ควบตามไปเอาบอลและสับไกเต็มข้อไปติดเซฟ กาเมนี ล้มตัวปัดบอลออกหลังไปได้
รูปเกมกลับเป็นของฝั่งทีมเยือนที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่าได้โอกาสลุ้นมากกว่า โรนัลโด้ สปีดไปเอาบอลและไหลบอลเข้ากลางมาให้ มาร์เชโล่ วิ่งเข้ามากดบอลเรียดตรงหัวกะโหลกไม่ผ่านมือ กาเมนี่ ล้มตัวรับบอลไว้ได้ทัน
นาที 39 อาคันตุกะมาได้โอกาสต่อเนื่อง โอซิล ดึงบอลและเปิดเรียดจากแดนตัวเองตัดแนวรับเจ้าบ้านมาให้ อเดบายอร์ ควบไปเอาบอลและแปบอลคืนมาให้ โรนัลโด้ ซัดบอลโด่งข้ามคานออกไปไกล
ถัดมานาทีเดียว เอสปันญ่อล มารอดพ้นการเสียประตุท่สองหวุดหวิด อลอนโซ่ เปิดบอลมาให้ อเดบายอร์ กระดกบอลข้ามหัว กาเมนี่ ไปได้แล้วทว่าบอลกลับไปตกชนคานบนหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอาคันตุกะมาได้เสียวส่งท้าย โอซิล ปาดบอลต่อมาให้ โรนัลโด้ แต่งหาจังหวะสับไกบอลเรียดเต็มแรงไปติดเซฟ กาเมนี่ ทิ้งตัสสกัดบอลไว้ได้ทัน จบ 45 นาทีแรก เรอัล มาดริด บุกนำ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาถึงนาที 53 โรนัลโด้ โชว์ความสามารถสุดยอดลากบอลฝ่าแนวรับเจ้าบ้านมาสองสามคน ก่อนจะถูกดึงทำฟาลว์ก่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษ และเป็นเจ้าตัวอาสาขอซัดลูกฟรีคิกผ่ากำแพงมาได้ ทว่า กาเมนี่ ยังไม่ยอมพลาดซ้ำสองทิ้งตัวปัดบอลไว้ได้ทัน
เกมครึ่งหลังทั้งสองทีมแทบจะหาจังหวะลุ้นหวาดเสียวกันแทบไม่ได้เลย นาที 60 เจ้าบ้านต้องหันมาใช้วิธีส่องไกล กาเยฆอน เล่นลุกสูตรเตะมุมสั้นมาให้ เฆซุส ดาโตโล่ เลี้ยงบอลแปะต่อมาให้ ฆาเบียร์ โลเปซ โรดริเกซ อัดบอลนอกรอบหลุดเสาแรกออกหลังไป
นาที 67 กาเยฆอน มาได้โอกาสซัดบอลสองครั้งติดต่อกัน ทว่าก็ไปติดบล็อคกองหลัง เรอัล มาดริด ทั้งสองครั้ง
ห้านาทีต่อมา เอสปันญ่อล มาได้โอกาสจากลูกเตะมุม ดาโตโล่ โยนบอลออกมานอกกรอบให้ กาเยฆอน เอี้ยวตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายไม่ผ่านมือ อาดาน ทิ้งตัวรับบอลไว้ได้สวย
เจ้าบ้านเทหมดหน้าตักแล้วและน่าได้ลูกตีเสมอจาก กาเยฆอน เจ้าเก่าที่โอกาสส่องเพียบเหลือเกินในครึ่งหลัง โจน เบร์ดู ไหลบอลทะลุช่องให้ กาเยฆอน สปีดตามไปซัดบอลผ่านหน้าปากประตูหลุดเสาสอออกไป
ช่วงเวลาที่เหลือแนวรับของ ราชันชุดขาว สามารถหยุดเกมรุกของเจ้าบ้านไว้ได้หมด จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเฉือนชนะ เอสปันญ่อล 1-0 คว้าสามคะแนนเต็มมีเพิ่มเป็น 57 ตะแนน บีบช่องว่างตามหลัง บาร์เซโลน่า มาเหลือ 5 คะแนนจาการลงสนาม 23 นัดเท่ากัน
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เอสปันญ่อล : คาร์ลอส กาเมนี่ - ฆาเบียร์ โลเปซ โรดริเกซ, จอร์ดี้ อามัต, เอร์เนสโต้ กาลาน, ฟรานซิสโก้ ฆาเบียร์ ชิก้า ตอร์เรส - ฆาเบียร์ มาร์เกซ, ราอูล บาเอน่า - หลุยส์ การ์เซีย, โจน เบร์ดู, โฆเซ่ มาเรีย กาเยฆอน - เซร์คิโอ การ์เซีย
สำรอง : คริสเตียน ดาริโอ อัลบาเรซ, บิคตอร์ อัลบาเรซ เดลกาโด้, อัลบาโร่ บาซเกซ การ์เซีย, ฮวน ดาเนียล ฟอร์ลิน, อัลโด้ ดุสเชร์, รุย เปโดร ดา โรช่า ฟอนเต้, เฆซุส ดาโตโล่
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส - อัลบาร์โร่ อาร์เบลัว, เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มาร์เซโล่ - ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สำรอง :อันโตนิโอ อาดาน, เซร์คิโอ รามอส, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ราอูล อัลบิโอล, ริคารโด้ กาก้า, เอสเตบัน กราเนโร่, คาริม เบนเซม่า
ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มิเกล มาเตว ลาโอซ
ผลการแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน
- มาลาก้า เสมอ เคตาเฟ่ 2 - 2
- เรอัล โซเซียดาด ชนะ โอซาซูน่า 1 - 0
- เลบันเต้ ชนะ อัลเมเรีย 1 - 0
- เอร์กูเลส ชนะ เรอัล ซาราโกซ่า 2 - 1
- เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ชนะ บียาร์เรอัล 1 - 0
- เอสปันญ่อล แพ้ เรอัล มาดริด 0-1
เหล่าแข้งราชันเข้ามาร่วมยินดีกับประตูสุดสวยของ มาร์เชโล่
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ฟอร์มได้สมราคาแต่ไม่สามารถทำประตูได้ในนัดนี้
เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับจังหวะจบสกอร์มากมายแต่สุดท้ายก็เสียเปล่า
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
