เรือไม่แหล่ม!นำสองครั้งโดนลูกโลกตามเจ๊า 2-2


พรีเมียร์ ลีก

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554



เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประตู : 0-1 คาร์ลอส เตเบซ น.4,1-1 นิโกล่า ซิกิช น.23,1-2 อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ น.41,เคร็ก การ์ดเนอร์(จุดโทษ) น.77

อเล็กซ์ แม็คลิชนายใหญ่คนเก่งของเจ้าถิ่นเบอร์มิงแฮม ซิตี้ยังไม่สามารถใช้งานโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์กองหน้าความเร็วสูงที่เพิ่งยืมตัวมาจากรูบิน คาซานทำให้แนวรุกวางนิโกล่า ซิกิชหัวหอกร่างโย่งลงเล่นร่วมกับคาเมรอน เฌโรมดาวยิงขาประจำโดยมีเดวิด เบนท์ลี่ย์ปีกขวาตัวยืมคอยปั่นป่วนริมเส้น

ด้านทีมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้จัดทีมชุดใหญ่ลงสนามโดยแนวรับปรับมาใช้เฌโรม บัวเต็งจับคู่กับแวงซ็องต์ กอมปานีและให้อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟกับไมก้าห์ ริชาร์ดส์ขนาบอยู่ด้านข้างส่วนแนวรุกใช้คาร์ลอส เตเวซ,เอดิน เซโก้และดาวิด ซิลบาเป็นสามประสาน

ครึ่งแรก

เตเบซซัด!เรือนำเร็ว 1-0

เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาทีทีมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการขึ้นเกมของเตเบซไหลต่อให้ซิลบาบริเวณริมเส้นเขตโทษด้านขวาก่อนที่ดาวเตะทีมชาติสเปนจะใช้ความสามารถเฉพาะหลบผู้แนวรับเบอร์มิงแฮมและจ่ายกลับมาให้เตเบซได้ตวัดยิงด้วยขวา บอลพุ่งไม่แรงแต่ทิศทางยอดเยี่ยมเสียบเสาไกลเข้าไปทำให้ทีมเยือนบุกขึ้นนำก่อน 1-0

ซิกิชเกือบตีเสมอ

นาทีที่ 16 คาร์ขึ้นเกมมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนจะครอสบอลเข้ากลางไปลุ้นในกรอบเขตโทษและเป็นแนวรับแมน ซิตี้ที่สะกัดบอลไม่ดีมาเข้าทางซิกิชได้ยิงส่วน บอลเกือบฮุกเสียบคานอยู่แล้วทว่าฮาร์ทยังเหินปัดข้ามคานออกไปได้หวุดหวิด

ซิกิชเอาจนได้

ถัดมาอีกเพียง 7 ทีมเจ้าบ้านเบอร์มิงแฮมก็ได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ทีมตราลูกโลกได้ลูกฟรีคิกริมเส้นด้านซ้ายและเป็นเบนท์ลี่ย์ที่อาสาเปิดบอลโค้งเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนที่ซิกิชจะโฉบเข้าสะกิดบอลที่เสาแรกไปติดเซฟของฮาร์ททว่าบอลก็ยังกระดอนเข้าประตูไปส่งให้สกอร์เปลี่ยนมาเป็น 1-1 แล้ว

เซโก้ซัดหลุดนิดเดียว-ริชาร์ดส์,เดอ ยองได้เลือด

ต่อมาในนาทีที่ 29 ทีมเรือใบมีโอกาสลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้งโดยซิลบาอาศัยความขยันเข้าไปตัดบอลจากแนวรับเบอร์มิงแฮมได้ก่อนจะไหลต่อให้แบร์รี่บริเวณริมเส้นเขตโทษด้านซ้ายและจ่ายต่อให้เซโก้ได้ยิงเร็วด้วยขวาในกรอบเขตโทษทว่าบอลหลุดเสาซ้ายออกไปแบบได้ลุ้น
นาทีถัดมาไมก้าห์ ริชาร์ดส์พยายามเข้าโหม่งสกัดบอลแต่กลับไปปะทะศีรษะของไนเจล เดอ ยองเพื่อนร่วมทีมจนได้รับบาดเจ็บมีแผลแตกที่ศีรษะทั้งคู่ทว่าริชาร์ดส์เล่นต่อไม่ไหวทำให้มันชินี่ต้องเปลี่ยนโคโล ตูเร่ลงมาเล่นแมน

โคลารอฟยิงฟรีคิกสุดสวย

นาทีที่ 40 เรือใบสีฟ้าได้ฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกด้านขวาและเป็นโคลารอฟที่รับหน้าที่สังหารก่อนที่แบ็คซ้ายตีนหนักจะปั่นบอลโค้งอ้อมกำแพงพุ่งแรงเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงามส่งให้ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง

ฟอสเตอร์ออกแรง

นาทีที่ 54 ทีมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีโอกาสลุ้นประตูที่ 3 จากจังหวะที่เอดิน เซโก้จ่ายมาให้เฌโรม บัวเต็งได้ยิงด้วยซ้ายจากด้านขวาของกรอบเขตโทษทว่ายังไปติดเซฟของเบน ฟอสเตอร์ที่ป้องกันเอาไว้ได้เยี่ยม

เจ้าบ้านฮึด

ถัดมาอีกเพียง 3 นาทีก็เป็นโอกาสของทีมเจ้าบ้านบ้างเมื่อเดวิด เบนท์ลี่ย์เปิดลูกฟรีคิกเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษและเป็นโรเจอร์ จอห์นสันที่ได้โขกในกรอบ 6 หลาแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียวสุดๆ

เตเบซทิ้งโอกาส

ต่อมานาทีที่ 72 เรือใบสีฟ้าได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อซิลบาจ่ายบอลคมกริบให้เตเบซได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะได้ดวลเดี่ยวกับฟอสเตอร์ทว่าเตเบซก็ยิงไปติดตัวของนายทวารร่างใหญ่ที่ออกมาปิดมุมได้อย่างสุดยอด

วิเอร่าทำเสียโทษ

อย่างไรก็ตามแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮในอีก 4 นาทีถัดมาเมื่อวิเอร่าตัวสำรองที่ลงมาแทนเดอ ยองไปทำฟาวล์เควิน ฟิลลิปส์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลชี้เป็นลูกจุดโทษทันทีและเป็นการ์ดเนอร์ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดส่งผลให้ ณ จุดนี้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2

ฟิลลิปส์โชว์

ในช่วงท้ายเกมเป็นเบอร์มิงแฮม ซิตี้เจ้าบ้านที่เล่นได้ดีกว่าเล็กน้อยโดยในนาทีที่ 90 เควิน ฟิลลิปส์ได้โชว์ทักษะเดาะบอลขึ้นมาก่อนจะตวัดยิงลูกใบไม้ล่วง บอลฮุกเกือบเสียบใต้คานทว่าฮาร์ทยังบินปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

ซิตี้เกือบเฮส่งท้าย

ในนาทีสุดท้ายโคลารอฟมีโอกาสปั่นฟรีคิกอีกครั้งบริเวณนอกกรอบเขตโทษด้ายเขตทว่าบอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้นโดยเมื่อจบจังหวะนี้ผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดยาวทันที

จบเกมทั้ง 2 ทีมเสมอกันไป 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนนโดยแมน ซิตี้ยังคงรั้งอันดับที่ 3 ของตารางแต่ตามแมนยูไกลสุดกู่ถึง 8 แต้มแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ : เบน ฟอสเตอร์ 6.5,มาร์ติน ยิราเน็ค 6,โรเจอร์ จอห์นสัน 6.5,เลียม ริดจ์เวลล์ 6.5,สตีเฟ่น คาร์ 6,เคร็ก การ์ดเนอร์ 7,แบร์รี่ เฟอร์กูสัน 6.5,ลี โบว์เยอร์ 6(ยีน บัวเซชูร์ล น.75 6),เดวิด เบนท์ลี่ย์ 6,นิโกล่า ซิกิช 5.5,คาเมรอน เจอโรม 6(เควิน ฟิลลิปส์ น.70 7)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 5.5,เฌโรม บัวเต็ง 6.5,แวงซ็องต์ กอมปานี 6.5,อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ 7.5**,ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ 6(โคโล ตูเร่ น.37 6.5),ไนเจล เดอ ยอง 6.5(ปาทริค วิเอร่า น.46 5),แกเร็ธ แบร์รี่ 6,เจมส์ มิลเนอร์ 6.5,คาร์ลอส เตเวซ 7,เอดิน เซโก้ 5*,ดาวิด ซิลบา 6.5



 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์