สาเหตุที่เซลซี-อาเซนอลไม่เคยได้แชมป์แชมเปี้ยนลีกและสาเหตุที่แมนยูได้แชมเปี้ยนลีกน้อยกว่าทีมถ่อยๆ

ความคิดของผมก็คือ สร้างลิเวอร์พูลให้เป็นป้อมปราการที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ นโปเลียนก็ใช้ความคิดนี้ เขาต้องการเอาชนะโลกอันนองเลือดนี้ทั้งใบ ผมอยากให้ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ไม่มีใครทำอะไรได้ ความคิดของผมก็คือ สร้างลิเวอร์พูลให้สูงขึ้นๆ สูงขึ้น จนกระทั่งในที่สุด ทุกๆคนก็จะต้องยอมจำนนและถอยไป” บิล แชงคลีย์ ฝันของปรมาจารย์ท่านนี้น่าจะมีโอกาสเป็นจริง ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรม ในปี ค.ศ.1985 ที่ เฮย์เซล สเตเดี้ยมประเทศเบลเยี่ยม ระหว่างแมตช์ชิงยูโรเปี้ยนคัพ ของลิเวอร์พูลกับยูเวนตุส ด้วยเหตุที่แฟนบอลทั้งสองมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในสนาม จนทำให้อัฒจันทร์พังทลายลงมา มีผู้บาดเจ็บ 350 คน และเสียชีวิต 39 ราย โดยทั้งหมดคือแฟนบอลของทีมม้าลาย หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทางยูฟ่า ได้ประกาศให้ทีมสโมสรจากประเทศอังกฤษ ถูกแบนจากบอลระดับยุโรปเป็นเวลา 5 ปี แต่ด้วยเหตุที่แฟนบอลลิเวอร์พูลเป็นผู้กระทำผิด ? ก่อการทะเลาะวิวาทจึงต้องโดนแบน 6 ปี นั่นคือสาเหตุที่ทำให้สปอนเซอร์และนักเตะฝีเท้าเยี่ยมหลายคนปฏิเสธจะมาเล่นที่แอนฟิลด์ ในช่วงเวลาที่ถูกแบน หนึ่งในนั่นก็คือ ไมเคิล เลาดรูป มิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์ก ซึ่งหันไปเซ็น สัญญากับสโมสรใหญ่ในยุโรปชาติอื่นแทน ตลอดเวลา 20 ปี หลังเหตุการณ์ดังกล่าว แฟนลิเวอร์พูลมักจะโดน แฟนทีมสโมสรภายในเกาะ อังกฤษที่ได้แชมป์ลีกเหน็บเสมอว่า เป็นสาเหตุทำให้ทีมพวกเค้าไม่ได้เตะบอลถ้วยใหญ่ในยุโรป ซึ่งพวกเค้าอาจได้เชยชมถ้วย Big Ear เร็วกว่านี้ โดยที่พวกเค้าลืมไปว่า ถ้าเดอะ เรดส์ ไม่โดนแบนจากยุโรปพัฒนาการของทีมคงไม่สะดุด และพวกคุณทั้งหลายจะเสนอหน้า เบียดแย่งแชมป์กับกองทัพสีแดงแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ได้หรือ นักเตะฝีเท้าดีคนไหน ก็อยากสวมชุดสีแดงเพลิงแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ ก่อนชุดแดงแบบอื่นๆ หรือ ก่อนชุดสีน้ำเงินเมืองลิเวอร์พูล และด้วยนักเตะชุดรองแชมป์ ยูโรเปี้ยนคัพ 1985 ก็ดีพอที่จะเป็นแชมป์ยุโรปอีกอย่างต่ำสองสมัย แม้แต่ผู้จัดการทีมคู่แข่งบางทีมในอังกฤษยังยอมรับว่า ถ้าเร้ด แมชชีนไม่โดน โศกนาฏกรรมที่ เฮย์เซลและ ฮิลส์โบโร่ 1989 ลิเวอร์พูลคงจะพัฒนาการเป็นสโมสรที่ใครก็แตะต้องไม่ได้ ตามเจตนารมณ์ของ บิลแชงคลีย์ ย้อนกลับมาที่หลังเหตุการณ์ เฮย์เซล มีอดีตนักเตะและแฟนลิเวอร์พูล จำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม เจ้าหน้าที่และฝ่ายจัดการแข่งขันจึงรีบสรุปว่าแฟนบอลยูเวนตุสที่เสียชีวิต39 ราย มีสาเหตุมาจากแฟนบอลลิเวอร์พูลเข้าไปทำร้าย (และยูฟ่าก็ยืนยันเห็นด้วยไปในทิศทางเดียวกัน) แล้วทำไมทิ้งประเด็น ผู้เสียชีวิตเหล่านั้น เกิดจากสาเหตุอุบัติเหตุจากการพังทลายของสนามเฮย์เซล จริงอยู่การที่แฟนลิเวอร์พูลวิ่งออเข้าไปวิวาทยังฝั่งอัฒจรรย์แฟนยูเวนตุส ทำให้สนามส่วนนั้น รับน้ำหนักไม่ไหวจนถล่ม แต่แฟนลิเวอร์พูลที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น หลายคนก็ให้ปากคำว่า ถูกแฟนยูเวนตุส ขว้างปาสิ่งของยั่วยุก่อน (ซึ่งเราก็เห็นเหตุการณ์แฟนบอลอิตาลีขว้างปาสิ่งของต่างๆลงไปในสนามประจำ เวลาไม่พอใจการตัดสินหรือนักเตะฝั่งตรงข้าม) มีอดีตนักเตะและพยานแฟนบอลของลิเวอร์พูลหลายคนในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น ให้เหตุผลที่ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายผิดไว้อย่างเจ็บปวดว่า ที่เราผิดเพียงเพราะไม่มีเดอะค๊อปเสียชีวิตที่เฮย์เซล แล้วเหตุใดยูฟ่าจึงรีบด่วนสรุป.... มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมแฟนลิเวอร์พูลถึงวิ่งออไปฝั่งอัฒจรรย์แฟนยูเวนตุสได้อย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เกิดจากสาเหตุระบบรักษา ความปลอดภัยของฝ่ายจัดการแข่งขันมีน้อยนิดและไม่รัดกุม ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าในสมัยนั้นยังไม่มีการห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในสนามแข่ง และแน่นอนว่าแฟนบอลที่ เมาขาดสติจะก่อเหตุการณ์อะไรใครจะไปรู้ และถ้านี่เป็นสาเหตุเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมครั้งนั้น ใคร....จะต้องรับผิดชอบ...ครอบครัวผู้เสียชีวิตสามารถฟ้องร้องความเสียหายจากใคร... ถ้าไม่ใช่...ฝ่ายจัดการแข่งขัน ดังนั้น ยูฟ่าต้องรีบหาแพะสีแดงตัวใหญ่ (หรือสัตว์ปีกสักตัว) มาสังเวย ประเด็นสุดท้ายคือประเด็นของการกำหนดบทลงโทษให้แบนทีมจากอังกฤษ 5 ปี และเฉพาะลิเวอร์พูลเอฟซี 6 ปี มีเสียงซุบซิบกันว่าเดิมทียูฟ่าไม่ได้ตั้งบทลงโทษแบนทีมจากอังกฤษเป็นประเด็นหลัก เพียงแต่จะปรับเงินจำนวนมหาศาลและห้ามแฟนบอลจากทีมอังกฤษเดินทางไปเชียร์ทีมตัวเอง ในเกมนัดเยือนเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพราะยูฟ่ามองว่าถ้าบอลยุโรปทุกถ้วย ขาดทีมจากอังกฤษ .... กร่อยซิท่านรู้ๆกันอยู่ว่าทีมจากผู้ดีคือตัวเรียกแขกเรียกราคาถ่ายทอดทางทีวี แฟนบอลและสปอนเซอร์ก็จะหายไปส่วนหนึ่ง .... กล่าวกันว่าเหตุผลดังกล่าวทำให้ คณะผู้บริหารยูฟ่ากลุ่มหนึ่งกลุ้มกบาลมาก .... ว่าจะลงโทษอย่างไรถึงจะยังรักษาเม็ดเงินเข้าองค์กร ในภาวะนั้นเองก็มีมาเฟียในคราบผู้บริหารองค์กรฟุตบอลบางประเทศ ที่ต้องการให้ลูกหนังตัวเอง ขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในยุโรปแทนอังกฤษ ใช้ความสัมพันธ์กับคณะกรรมการบริหารยูฟ่าบางคน ยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับยูฟ่า เพื่อแบนทีมจากอังกฤษให้นอนเฝ้าบ้านเล่นสัก5-6 ปี ขืนพวกมันอยู่ บอลชาติกูไม่ได้เกิดแน่ๆ เพราะตั้งแต่เข้าทศวรรษที่ 1970 ถึง 1985 สโมสรชาติกูไม่เคยมีไอ้ BIG EAR เป็นเกียรติเป็นศรีสง่ามงคลแก่ลีกชาติกูเลย หมดพวกผู้ดีก็เหมือนหมดหอกข้างแคร่สำคัญไป ว่ากันว่าข้อเสนอ....มันคือเม็ดเงินนอกระบบที่มีมูลค่ามากกว่า ผลประโยชน์ของยูฟ่าจะได้รับหากมีทีมจากอังกฤษเข้าร่วมแข่งขัน อีกทั้งสมาคมฟุตบอลชาติพวกเค้าก็จะไม่แคะคุ้ยประเด็นที่ว่าฝ่ายจัดการแข่งขัน ขาดความรัดกุมระบบรักษาความปลอดภัย ดังนั้นข้อสรุปบทลงโทษทีมจากอังกฤษจึงออกมาอย่างรวดเร็วคือแบน 5ปี เฉพาะลิเวอร์พูล 6 ปี และเมื่อไร้เงาหัวทีมจากแดนผู้ดีในยุโรปก็ดูเหมือนว่า สโมสรจากสมาคมฟุตบอลชาตินั้นจะทำสำเร็จได้ช่วงหนึ่ง เพราะภายหลังพ้นโทษแบนกลับมา พัฒนาการของฟุตบอลสโมสรจากแดนผู้ดี มันก็ช้ากว่าชาติคนอื่นเค้า ทีมที่เป็นตัวแทนจากอังกฤษเข้าแข่ง กว่าจะได้ BIG EAR กลับสู่เกาะเป็นครั้งแรกหลังพ้นโทษแบนก็ ต้องรอตั้ง 9 ปี ด้วยฝีมือแมนยู และหลังจากนั้นอีกหกปี ถึงเป็นคิวของกองทัพแดงแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ อันเป็นวาระครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ที่เฮย์เซล พอดี ความทรงจำอันเจ็บปวดที่เดอะค๊อปได้รับมาตลอด20ปี ถ้ากฏแห่งกรรมมีจริง และถ้าชาติที่ว่านั้นเคยติดสินบนให้ยูฟ่าแบนทีมจากอังกฤษ ออกจากถ้วยยุโรปจริง ผมเชื่อว่ากรรมก็ต้องตามสนองวงการฟุตบอลชาติที่ว่านั้น ไม่นานก็จะบรรลัยด้วยเหตุเดียวกันคือการทุจริตติดสินบนต่างๆนานา แล้วถ้าเรื่องนี้เป็นจริงคุณคิดชาติไหนหล่ะที่พยายามทำให้บอลอังกฤษ โดนแบนจากบอลยุโรป ( สุดท้ายในระหว่างที่ผมเขียนบทความนี้อยู่ ผมเพิ่งสังเกตว่า แมนยูเป็นทีมแรกที่พาถ้วยนี้มาสู่อังกฤษในปี1968 แต่นั่นก็เป็นครั้งเดียวที่พวกเค้าพาถ้วยใหญ่สโมสรยุโรปกลับบ้านในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ ที่เฮย์เซล เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวกลายเป็นทีมอื่นที่พากันนำถ้วยใบใหญ่นี้กลับสู่อังกฤษ โดยเฉพาะลิเวอร์พูลที่พาถ้วยนี้กลับสู่อังกฤษถึง4ครั้ง และเมื่อพ้นโทษแบนมาก็เป็นแมนยูทีมแรกในอังกฤษอีกแล้วครับท่าน ที่ได้ถ้วยนี้ เราก็หวังว่านับแต่นี้ก็จะมีแต่ทีมลิเวอร์พูลและทีมอื่น ที่ไม่ใช่แมนยูพากันนำถ้วย BIG EAR กลับอังกฤษ เหมือนกับ ช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่เฮย์เซล สเตเดี้ยมในปี1985 .. ฮา. ท่อนนี้ Pheemarnz อ่านเจอทำใจไว้เลย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์