ป๋าหวังผีหยุดสถิติไม่ชนะรังสิงห์

  เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ยอมรับคาดหวังให้เกมวันอาทิตย์นี้ เป็นการหยุดสถิติไม่ชนะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของทีมตน ที่มีมาอย่างยาวนาน ลงให้ได้ เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นแชมป์ลีกสมัย 19 

     แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถบุกชนะ เชลซี ได้ตั้งแต่ปี 2002 แต่ซีซั่นนี้ ปีศาจแดง ยังไม่แพ้ใครใน 16 เกม ผิดกับ สิงห์บลูส์ ที่เก็บได้แค่ 6 แต้มจาก 7 เกมหลัง  
  
     นี่คือเกมสำคัญมาก เฟอร์กี้ ระบุ เราเคยมีสถิติแย่มากในการไปเยือนเชลซี แม้ช่วงหลังๆ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่เราก็ไม่ชนะพวกเขาที่นั่นมานานพอสมควร
  
     มันเป็นเกมใหญ่ของเรา และเราพร้อมสำหรับมันแล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้มันยาวนานไปกว่านี้ได้อีก 
  
     มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยาวไกลสำหรับการคว้าแชมป์ นี่คือเกมใหญ่มากสำหรับยูไนเต็ด

     โดยผลงานของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ตั้งแต่ปี 2002

     2009/2010 : เชลซี 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0
 
     ประตูชัยของ จอห์น เทอร์รี่ จากการเปิดของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ช่วยให้เชลซี จ่าฝูงขยับหนีปีศาจแดงไปเป็น 5 แต้มในพรีเมียร์ลีก ก่อนจะเข้าป้ายคว้าดับเบิลแชมป์ไปอย่างมีสไตล์ 

     2008/2009 : เชลซี 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 1
 
     ลูกโขกตีเสมอของ ซาโลมง กาลู ในช่วงก่อนหมดเวลา 10 นาที ช่วยให้เชลซี ยืดสถิติไม่แพ้ใครที่บ้านในเกมลีกออกไปเป็น 85 เกม หลังจากที่ พาร์ค ชี-ซอง กระทุ้งให้ผู้มาเยือนออกไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 18 

     2007/2008 : เชลซี 2 - แมนฯ ยูไนเต็ด 1
 
     มิชาเอล บัลลัค ซัดจุดโทษประตูชัยให้เชลซี เบียดชนะ 2-1 หลังจาก ไมเคิ่ล คาร์ริค ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ โดยเป็นบัลลัคที่โขกให้สิงห์บลูส์ขึ้นนำในนาทีที่ 45 ก่อน เวย์น รูนี่ย์ จะไล่ตีเสมอให้ปีศาจแดง และชัยชนะนัดนี้ช่วยให้เชลซี ขยับขึ้นไปมีแต้มเท่ากับยูไนเต็ด ด้วย 

     2006/2007 : เชลซี 0 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0
 
     เร้ด เดวิลส์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะบุกมาเยือนเดอะ บริดจ์ ในเกมนี้ พร้อมได้รับเกียรติจากนักเตะเจ้าบ้านที่ยืนเข้าแถวปรบมือให้อีกด้วย และไม่แปลกที่เกมจะจบลงแบบจืดชืด เมื่อทั้งสองทีมต่างพักพวกสตาร์แมน เพื่อเก็บไว้อัดกันในนัดชิงเอฟเอ คัพ ที่เจอกันพอดีนั่นเอง ซึ่งเชลซี เบียดชนะไป 1-0 จากประตูชัยของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในช่วงต่อเวลาพิเศษ  

     2005/2006 : เชลซี 3 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0
 
     นอกจากจะถล่มผู้มาเยือนอย่างสะใจแล้ว ยังเป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปีที่ 2 ติดต่อกันอีกต่างหาก ทั้งที่เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ โชเซ่ เดอะ สเปเชียล วัน มูรินโญ่ ขณะนั้น ต้องการแค่แต้มเดียวเพื่อฉลอง แต่ 3 ประตูจาก วิลเลี่ยม กัลลาส, โจ โคล และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ก็ช่วยให้งานปาร์ตี้ของพวกเขามันสุดเหวี่ยงกว่าเดิมหลายร้อยเท่า 

     2004/2005 : เชลซี 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0
 
     ประตูของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ในนาทีที่ 14 ช่วยให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เพิ่งเป็นกุนซือคนใหม่ของเชลซี แบบสดๆ ร้อนๆ พาทีมคว้าชัยชนะได้ตั้งแต่นัดแรกที่ประเดิมคุมสิงห์บลูส์เลยทีเดียว 

     2003/2004 : เชลซี 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0
 
     เชลซีในยุคของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ได้ประตูชัยจากจุดโทษของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในนาทีที่ 29 หลังจาก โจ โคล โดน รอย คีน ทำฟาวล์ แต่ทั้งสองทีมก็ไม่มีโอกาสได้เฉียดกรายถ้วยพรีเมียร์ลีกแม้แต่น้อย เพราะเป็นอาร์เซน่อล ที่คว้าแชมป์ในซีซั่นไปครองแบบไร้พ่าย 

     2002/2003 : เชลซี 2 - แมนฯ ยูไนเต็ด 2
 
     เพียงนัดที่ 2 ของฤดูกาลเท่านั้นที่ต้องคู่ต้องมาเจอกัน ก่อนจบลงด้วยเกมที่เต็มไปด้วยความระทึกจาก 4 ประตูที่เกิดขึ้น วิลเลี่ยม กัลลาส พาเชลซี ทะยานตั้งแต่ต้นเกม แต่ เดวิด เบ็คแฮม ก็เปลี่ยนสกอร์บอร์ดให้เท่ากันในนาทีที่ 26 เบาเดอไวน์ เซนเด้น สอยให้สิงห์บลูส์ออกนำอีกครั้ง หลังเริ่มครึ่งหลังได้ไม่กี่อึดใจ ก่อนที่ ไรอัน กิ๊กส์ จะช่วยยิงเซฟแต้มให้ปีศาจแดงได้ในที่สุด

จากสยามกิเลน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์