♥ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ไก่-หงส์ และ สาลิกา-สิงห์♥

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553

วันนี้มีการแข่งขันกัน 2 คู่



นิวคาสเซิ่ล (10) -vs- เชลซี (1) เวลา (20.30)


สเปอร์ส (6) -VS- ลิเวอร์พูล (9)  เวลา(23.00)


นิวคาสเซิ่ล (10) -vs- เชลซี (1) เวลา (20.30)


สนาม : เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
ราคาบอล : เชลซี ต่อ ครึ่งควบลูก


ผลการพบกันของทั้งสองทีม


23/09/10 เชลซี แพ้ นิวคาสเซิ่ล 3-4
04/04/09 นิวคาสเซิ่ล แพ้ เชลซี 0-2
22/11/08 เชลซี เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0
05/05/08 นิวคาสเซิ่ล แพ้ เชลซี 0-2
29/12/07 เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1
 
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด


นิวคาสเซิ่ล
20/11/10 แพ้ โบลตัน 1-5 เยือน พรีเมียร์ก
13/11/10 เสมอ ฟูแล่ม 0-0 เหย้า พรีเมียร์ลีก
11/11/10 แพ้ แบล็คเบิร์น 1-2 เหย้า พรีเมียร์ลีก
07/11/10 ชนะ อาร์เซนอล 1-0 เยือน พรีเมียร์ลีก
31/10/10 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-1 เหย้า พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก - แข่ง 7 ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 3 ได้ 15 เสีย 9 มี 8 แต้ม


เชลซี
24/11/10 ชนะ ซิลิน่า 2-1 เหย้า แชมเปี้ยนส์ ลีก
20/11/10 แพ้ เบอร์มิงแฮม 0-1 เยือน พรีเมียร์ลีก
14/11/10 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-3 เหย้า พรีเมียร์ลีก
11/1110 ชนะ ฟูแล่ม 1-0 เหย้า พรีเมียร์ลีก
07/11/10 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 เยือน พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก - แข่ง 7 ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 3 ได้ 11 เสีย 6 มี 10 แต้ม


สภาพความพร้อม
 
     นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ของผู้จัดการทีม คริส ฮิวจ์ตัน ผลงานช่วงหลังแผ่วงลงมาเยอทีเดียว เพราะนับตั้งแต่บุกไปชนะ อาร์เซน่อล 1-0 ถึง เอมิเรตส์ จากนั้นพวกเขาก็ยังไม่ชนะใครเลย(แพ้ 2 เสมอ 1) ทำให้สาลิกาดงตกมาอยู่อันดับที่ 10 ของตารางแล้ว ด้านความพร้อม กุนซือชาวเวลส์ ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน โจอี้ บาร์ตัน มิดฟิลด์จอมโหด ที่ตฃจะโดนแบนเป็นเกมสุดท้าย


     ขณะที่ปราการหลังอาร์เจนไตน์ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ และ ไมค์ วิลเลี่ยมสัน จะติดโทษแบนลงสนามไม่ได้เช่นเดียวกัน ภายหลังทั้งคู่โดนไล่ออกในเกมที่บุกไปโดน โบลตันถล่ม 5-1 ส่งผลให้ทีมจากแดนอีสานแทบไม่เหลือกองหลังตัวกลางให้ใช้งาน 


     ทั้งนี้ โซล แคมพ์เบลล์ อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง นอกจากนี้เดอะ แม็กพายส์มีแข้งเจ็บที่ยังต้องพักฟื้นอย่าง ไรอัน เทย์เลอร์(ข้อเท้า), ฮาเต็ม เบ็น อาร์ฟา(ขาหัก), สตีฟ ฮาร์เปอร์(ไหปลาร้าแตก) และ แดน กอสลิ่ง(เอ็นหัวเข่าฉีก)


     ด้านสิงโตน้ำเงินครามเชลซี ฟอร์มตกลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากพ่ายในเกมพรีเมียร์ลีกมา 2 นัดติด กับทีมระดับธรรมดาอย่าง ซันเดอร์แลนด์กับ เบอร์มิ่งแฮม อีกทั้งเกม ยุโรป นัดล่าสุดก็ทำได้แค่เบียดชนะทีมแจกแต้มอย่าง ซิลิน่า จากสโลวาเกีย 2-1 ในสแตมฟอร์ดบริดจ์


     สำหรับความพร้อมเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม ที่ยังคงพักรักษาตัวจากอาการเจ็บหลัง เช่นเดียวกับอีกหนึ่งคีย์แมน แฟร้งค์ แลมพาร์ด หัวใจในแดนกลาง ที่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบอีกสักพัก


   ขณะที่ มิชาเอล เอสเซียง ห้องเครื่องทีมชาติกาน่า ยังคงติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้ายในรอบ 3 เกม รวมทั้ง ยอสซี่ เบนายูน ปีกร่างเล็ก ปิดเทอมยาวเพราะเจ็บเข่า และ ยูริ ซีร์คอฟ แบ็กทีมชาติรัสเซีย เจ็บน่อง ไม่น่าจะฟิตพอที่จะลงสนาม


สถิติที่น่าสนใจ


 * ทั้งสองทีมพบกันมาทั้งหมด 130 ครั้ง ในพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิ่ล ชนะ 44 ครั้ง เชลซี ชนะ 52 ครั้ง


 * 3 ครั้งหลังสุดที่พบกันเดอะ แม็กพายส์ยิงประตูสิงบลูส์ไม่ได้เลย เท่ากับ 304 นาทีแล้ว ที่ นิวคาสเซิ่ล เจาะตาข่าย เชลซี ไม่ได้


 * 3 ครั้งหลังสุดที่ เชลซี บุกเยือนรัง เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ปรากฏว่าไม่แพ้ออกมาเลย อีกทั้ง 2 ครั้งหลังสุด ทีมจากลอนดอนเก็บชัยออกมาด้วยสกอร์ 2-0 มาลูด้า ยิงได้ทั้งสองเกม 


รายชื่อผู้เล่นที่น่าจะลงสนาม


     นิวคาสเซิ่ล (4-4-2) : ทิม ครูล ; แดนนี่ ซิมพ์สัน, โซลแมน แคมพ์เบลล์, ทามาส คาดาร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; แดนนี่ กูแธร์, อิสมาเอล ทิโอตี้, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ ; โชล่า อเมโอบี้, แอนดี้ คาร์โรล์
 
     เชลซี (4-3-3) :
ปีเตอร์ เช็ก ; เปาโล แฟร์เรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, แอชลี่ย์ โคล ; รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอร็อง มาลูด้า ; ซาโลมง กาลู, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า   
     
วิเคราะห์ / ฟันธง


     ฟอร์มแป้กด้วยกันทั้งคู่ แต่เจอกันครั้งนี้คงใส่กันมัน เพราะมีอันดับในตารางเป็นเดิมพัน เชลซี ถ้าพลาดท่าพ่ายมีสิทธิ์ตกจากบัลลังก์จ่าฝูง ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ถ้าไม่มีแต้มในบ้าน อาจถูกพวกทีมจากท้ายตารางแซงขึ้นมาเหมือนกัน เพราะแต้มตั้งแต่กลางลงมาใกล้กันมาก แต่เทียบศักยภาพกันแล้ว ทีมเยือนยังเป็นต่อเยอะ อีกทั้งเจ้าถิ่น มีปัญหาที่แผงหลัง เซ็นเตอร์ตัวหลักเจ็บทั้งคู่ ต้องส่ง แคมพ์เบลล์ กับ คาดาร์ มาปักหลักคู่กันเป็นครั้งแรกของฤดูกาล น่าจะทำให้มีปัญหาในการประสานงาน

     ยิ่งมาเจอกับเกมรุกที่ดุดันทั้ง ดร็อกบา, อเนลก้า มองภาพแล้วหวาดเสียวแทน และรู้ๆกันอยู่ว่า สาลิกาดงยามลงเล่นในบ้านตัวเองนั้นห่วยแค่ไหน 7 เกมหลังชนะแค่หนเดียว บวกกับสถิติที่ทั้งคู่เจอกัน เชลซี บุกมาชนะได้ถึง 3 จาก 4 เกมหลัง ดังนั้นมองภาพรวมชั่วโมงนี้แล้ว ทีมเยือนอาจจะแผ่วลงมาเยอะ แต่จากสถาการณ์หลายๆด้าน ยังเชื่อว่าสิงห์บลูส์จะใช้ความเก๋าบุกมาคว้าสามแต้มออกมาได้


สเปอร์ส (6) -VS- ลิเวอร์พูล (9) เวลา (23.00)


สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน
ราคาบอล : สเปอร์ส ต่อ ครึ่งลูกลบห้า


การพบกันล่าสุด


21/01/10 ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 2-0
16/08/09 สเปอร์ส ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
24/05/09 ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 3-1
13/11/08 สเปอร์ส ชนะ ลิเวอร์พูล 4-2
02/11/08 สเปอร์ส ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1


ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม


สเปอร์ส
25/11/10 ชนะ เบรเมน 3-0 เหย้า แชมเปี้ยนส์ ลีก
20/11/10 ชนะ อาร์เซน่อล 3-2 เยือน พรีเมียร์ลีก 
13/11/10 ชนะ แบล็คเบิร์น 4-2 เหย้า พรีเมียร์ลีก
10/11/10 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 เหย้า พรีเมียร์ลีก
06-11-09 แพ้ โบลตัน 2-4 เยือน พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก - แข่ง 7 ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 11 เสีย 7 มี 12 แต้ม 


ลิเวอร์พูล
21/11/10 ชนะ เวสต์แฮม 3-0 เหย้า พรีเมียร์ลีก
14/11/10 แพ้ สโต๊ค 0-2 เยือน พรีเมียร์ลีก
11/11/10 เสมอ วีแกน 1-1 เยือน พรีเมียร์ลีก
07/11/10 ชนะ เชลซี 2-0 เหย้า พรีเมียร์ลีก
05/11/10 ชนะ นาโปลี 3-1 เหย้า ยูโรป้า ลีก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก - แข่ง 7 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 4 ได้ 4 เสีย 11 มี 5 แต้ม 


ความพร้อมล่าสุด


     ไก่เดือยทองท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ฟอร์มร้อนแรงมากๆ ชนะมา 3 เกมติดทุกรายการ รวมทั้งเกมยุโรปนัดล่าสุดที่เปิดฉากยำ แวร์เดอร์ เบรเมน 3-0 น่าสนใจว่าพวกเขาจะสามารถเก็บชัยเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันได้หรือไม่ เพราะคู่ต่อสู้วันนี้เป็น ลิเวอร์พูล


     ด้านความพร้อม แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือชาวอังกฤษ พร้อมส่ง เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลังจากเกมที่แล้วมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง ในเกมกับ เบรเมน ขณะที่ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท จอมทัพคนเก่ง มีโกาสลงสนามอยู่ที่ 50-50 หลังจากเกมล่าสุดไม่มีชื่ออยู่ในทีม


     ส่วน ไมเคิ่ล ดอว์สัน สลัดอาการบาดเจ็บหัวเข่ากลับมาซ้อมได้แล้วตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ แต่คงไม่น่าจะพร้อมลงเล่นวันนี้ เพราะไม่ฟิต น่าจะรออีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์เช่นเดียวกับ เล็ดลี่ย์ คิง ปราการหลังกระดูกยุง ที่ถูกอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบรบกวน น่าจะหลุดจากทีมเช่นกัน รวมทั้ง เจอร์เมน จีนาส ที่กะเผลกออกจากสนาหลังเล่นไปได้ 20 นาที ในเกมกลางสัปดาห์ ต้องเข้ารับการตรวจบริเวณน่องอย่างละเอียดอีกครั้ง และ ทอม ฮัดเดิลสตัน ยังคงเจ็บอยู่


     ด้านผู้มาเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังหลุดๆอยู่ แต่ยังแก้ตัวได้ในเกมลีกล่าสุดที่เปิดฉากถล่ม เวสต์แฮม 3-0 แต่เกมนี้ต้องออกไปเยือน ทีมแกร่งอย่าง สเปอร์ส ถือว่าหนักหนาสาหัสทีเดียว อีกทั้งอาคันตุกะจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ยังไม่สามารถมิดฟิลด์ไดนาโม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ที่เจ็บมาตั้งแต่นัดที่อังกฤษอุ่นเครื่องกับฝรั่งเศส


     อย่างไรก็ตาม ลูคัส เลว่า ดาวรุ่งชาวบราซิเลี่ยน จะพ้นโทษแบนหนึ่งนัดกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง หลังจากโดนเหลือง-แดง กับ สโต๊ค เช่นเดียวกับ โจ โคล จอมทัพร่างเล็ก หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ฟิตพร้อมจะลงสนามอีกครั้ง ซึ่งน่าสนใจ เพราะช่วงซัมเมอร์ โคล เกือบย้ายไปร่วมงานกับ เร้ดแน็ปป์ ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน แต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนใจมาสวมยูนิฟอร์มหงส์แดง


สถิติที่น่าสนใจ


 * ทั้งสองทีมพบกันมาทั้งหมด 135 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะ 63 ครั้ง สเปอร์ส ชนะ 37 ครั้ง


 * ฤดูกาลที่ผ่านมา สเปอร์ส เปิดรังชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในลีก และ 4-2 ใน คาร์ลิ่ง คัพ 2 ปีที่แล้ว


 * ครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล บุกมาชนะที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน ก็คือในเดือน พฤษภาคม 2008 หงส์แดงบุกมาเอาชนะไปได้ 2-0 ตอร์เรส เหมา 2 ลูก


 * 4 ครั้งหลัง ที่ สเปอร์ส พบกับ ลิเวอร์พูล ในบ้าน พวกเขายังไม่แพ้ให้กับอริจากเมอร์ซี่ย์ไซด์เลย


 * ไก่เดือยทองยิงได้ถึง 16 ประตู ในเดือนพฤศจิกายน ในทุกรายการ


 * เกมถล่มขุนค้อน3-0 นับเป็นชัยชนะครั้งแรกของ ลิเวอร์พูล ในรอบ 3 เกมลีก


 * รอย ฮ็อดจ์สัน ไม่เคยพาทีมมาชนะ ที่บ้าน สเปอร์ส 4 เกมหลังสุดที่เขาคุมทีมมาตั้งแต่สมัย ฟูแล่ม มีสถิติอยู่ที่ เสมอ 2 และแพ้ 2    


รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม


     สเปอร์ส (4-4-2) : เอเรลโญ่ โกเมส ; อลัน ฮัตตัน, วิลเลียม กัลลาส, ยูเนส กาบุล, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ ; อารอน เลนน่อน, วิลสัน พาลาซิออส, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล ; โรมัน พาฟลิวเชนโก้, เจอร์เมน เดโฟ
 
     ลิเวอร์พูล (4-4-2) :
โฆเซ่ เรน่า ; เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ ; มักซี่ โรดริเกซ, ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส, โจ โคล ; เดิร์ก เคาท์, เฟร์นานโด ตอร์เรส  


วิเคราะห์ / ฟันธง


     เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ ลิเวอร์พูล มาเยือน สเปอร์ส ในฐานะทีมรอง แต่ต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้ไก่เดือยทองฟอร์มแรงจริงๆ ข้อได้เปรียบอย่างเดียวที่หงส์แดงเหนือกว่าก็คือสภาพร่างกาย เพราะทีมจากลอนดอนเพิ่งผ่านเกมกลางสัปดาห์มา และอย่างที่เห็นกันมาตลอดหลังเกมยุโรปก็คือ สเปอร์ส มักจะแพ้ซะเป็นส่วนใหญ่ เชื่อว่าทีมเยือน น่าจะใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายที่เหนือกว่าเข้าบด

     อีกทั้ง ลิเวอร์พูล น่าจะบุกมาแบบรัดกุม ไม่ผลีผลามเข้าแลก เพราะอย่างที่บอกว่ามาในฐานะทีมที่เป็นรอง ถ้าใช้แท็คติกเกมรับเข้าสู้ น่าจะสร้างความอึดอัดให้เจ้าถิ่นเหมือนกัน มองจากภาพรวม เจ้าบ้านเหนือกว่าก็จริง แต่ลิเวอร์พูล ได้พักมาตลอดสัปดาห์ ถ้าไม่เสียประตูเร็ว รูปเกมอาจจะเข้าทางทีมเยือน ที่สดกว่า จากราคา สเปอร์ส ต่อ ครึ่งลูก ยังน่าเสี่ยงรอง เพราะมุมเจ๊ามีเยอะทีเดียว และ สเปอร์ส ก็คงไม่เสียหายหากเก็บได้หนึ่งแต้ม


credit by : lomtoe.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์