กัปตันเบ็กแฮม คอลัมน์ คุยสบายสไตล์ เอกราช เก่งทุกทาง



โดย เอกราช เก่งทุกทาง

ทีมชาติอังกฤษกำลังลุ้นว่าจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกปีหน้าได้หรือไม่ จากคิวเตะสำคัญ 1 นัดสุดท้ายซึ่งต้องชนะเท่านั้น

ถ้าเก็บโปแลนด์ได้ สิงโตคำรามก็ลอยลำแน่นอน

พูดถึงอังกฤษตอนนี้ใครๆ ก็จับประเด็นเรื่องความกดดันของ กุนซือสเวน โกรัน อีริคสัน ที่กำลังโดนสื่อมวลชนเพ่งเล็งหลังจากพลิกล็อกแพ้ไอร์แลนด์ เหนือในนัดหลังสุด ยิ่งกว่านั้นยังมีเรื่องความขัดแย้งภายในทีมระหว่าง เวย์น รูนีย์ กับ เดวิด เบ็กแฮม ปูดออกมาอีกต่างหาก

อีริคสันค่อนข้างเครียดพอสมควร เพราะนับวันยิ่งโดนล้วงลูก มีผู้สันทัดกรณี, นักวิจารณ์หลายคนรวมหัวกันโจมตีเรื่องการวางแท็กติกที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนทีมเล่นไม่ออกและแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด

แต่ผมว่าคนฉลาดอย่างเขา หาทางออกได้ไม่ยากหรอกครับ

แผนการเล่น 4-5-1 ที่ไม่เหมาะสม อีริคสันก็เตรียมโละทิ้งกลับไปเล่นง่ายๆ แบบที่เคยใช้มาตลอด ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด

ลดทั้งความกดดันให้ตัวเอง ลดทั้งความกดดันให้ทีม

แล้วเมื่อพูดถึงบรรยากาศซีเรียสภายในค่ายเก็บตัว มันก็ไม่น่ามีอะไรในกอไผ่นะครับ

รูนีย์กับเบ็กแฮมอาจเคืองกันจริง แต่นั่นก็เป็นแค่อาการข้างเคียงจากวันแพ้ไอริช และล่าสุดก็เคลียร์กันไปเรียบร้อยตามประสาลูกผู้ชายที่ไม่ชอบเก็บเรื่องจุกจิกมาคิดเล็กคิดน้อยให้เสียเวลา

ยิ่งเจ้าเบ็กแฮมเองเป็นกัปตันทีมอยู่ด้วย ยังไงๆ ก็ต้องแสดงบทบาทผู้นำ เป็นลูกพี่ที่ใจกว้างคอยดูแลรุ่นน้องตามสายงาน

เบ็กแฮมทำอะไรก็เนียนไปหมด เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้

คนเราพออายุย่างเข้าเลขสาม ชีวิตมันเหมือนตกตะกอน รู้จักหน้าที่ของตัวเอง รู้จักควบคุมเรื่องการแสดงออกว่าอะไรควร อะไรไม่ควรมากขึ้น

เดวิด เบ็กแฮม กำลังอยู่ในจุดสมดุลของชีวิตพอดิบพอดี

ว่ากันเรื่องบทบาทนอกสนาม เขารู้วิธีที่จะทำตัวให้เหมาะสม แม้จะเจ้าชู้ประตูดิน มีกิ๊กไปทั่ว ก็จัดการให้เรียบร้อยได้ตามหลักบริหารบุคคลที่ดี

เรื่องแบบนี้ยังไงๆ แม่บ้านกับลูกบ้านก็ต้องมาก่อนวันยังค่ำ

อีกอย่างที่ผมว่าเบ็กแฮมวางตัวเก่งมาก คือ การแสดงภาพผู้นำในทีมชาติอังกฤษ

ใครเป็นแฟนแมนฯ ยูฯคงจำได้นะครับว่า สมัยเล่นให้ปีศาจแดงหมอนี่แทบไม่มีปากมีเสียง ที่เด่นขึ้นมาก็แค่บังเอิญหล่อลาก เปิดบอลแม่น ยิงฟรีคิกคมกริบเท่านั้น

เรื่องที่จะออกมาแสดงบทบาทนอกสนาม หรือพูดแทนทีมแทบไม่เคยปรากฏมาก่อน


แต่พอถูกโปรโมตให้เป็นกัปตันทีมชาติ เจ้าเบ็กแฮมก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน



ทุกวันนี้เขาบิ๊กจนมีข่าวว่าเข้าไป ครอบงำการทำงานของสเวน โกรัน อีริคสัน เลยด้วยซ้ำ

เบื้องลึกเป็นยังไงไม่มีใครรู้หรอกนะครับ แต่ถ้ามองจากบารมี การแสดงออก ตลอดจนผลงานส่วนตัว ก็ต้องยอมรับแหละว่าเบ็กแฮมกลายเป็นขาใหญ่ในทีมชาติอังกฤษที่ใครๆ ก็เกรงใจ

นอกเหนือจากนั้นทุกคนยังยอมซูฮกเขาอย่างเต็มอก

เดวิด เบ็กแฮม เมื่อ 3-4 ปีก่อนกับเดี๋ยวนี้ต่างกันเยอะ มันไม่ใช่มีจุดขายแค่หน้าหล่อเป็นใบเบิกทาง แต่ฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นมา รวมทั้งฟอร์มการเล่นกับเรอัล มาดริด ต่างก็ช่วยผลักดันให้เขาก้าวขึ้นเป็นเวิรลด์สตาร์ระดับโลกไปเรียบร้อยแล้ว

ทุกวันนี้เบ็กแฮมเก่งจริง และเป็นส่วนหนึ่งในทีมรวมดาวของเรอัล มาดริด ด้วยฝีเท้าเพียวๆ

เมื่อประกอบกันทั้งชื่อเสียง บารมี ตลอดจนผลงานอย่างนี้ อิทธิพลของเขาต่อทีมชาติอังกฤษจึงสูงมากขึ้นทุกวัน

ถ้าสิงโตคำรามเข้ารอบบอลโลกก็คงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า กัปตันเบ็กแฮมพา (เรา) ไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์