ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือก วันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2553 กลุ่มจี มอนเตเนโกรบุกมายันเสมออังกฤษ 0:0 นำจ่าฝูงกลุ่มจีแบบไม่เสียประตู |
 สนาม : เวมบลีย์ ผู้ตัดสิน : มานูเอล กราเฟ (เยอรมัน) เวลาเตะ : 02.00 น. ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 ผู้ทำประตู : --- ผู้ชม : 73,451 คน เกมนี้สิงโตคำราม อังกฤษได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกครั้ง หลังบาดเจ็บไปนาน กองหลังมีปัญหาการบาดเจ็บของ จอห์น เทอร์รี่ จนต้องถอนตัว คาเปลโล่จึงเรียกโจลีออน เลสค็อตต์ เสียบแทน ทางด้านทีมเยือน มอนเตเนโกร มาในระบบ 4-4-1-1 โดยมี ราโดเมียร์ ยาโลวิช ยืนเป็นหน้าเป้า แต่เกมนี้จะไม่มี เมียร์โก้ วูชินิช ฮีโร่ในนัดที่แล้วที่ยิงได้แล้วถอดกางเกงโชว์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ครึ่งแรก เริ่มเกม ทีมชาติอังกฤษอยู่ในเสื้อสีขาวเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน ส่วนทีมเยือนอยู่ในชุดสีแดง-เลือดหมู ต้นครึ่งแรกทั้งสองทีมยังจดๆจ้องๆกันอยู่นาทีที่ 8 แอชลี่ย์ ยัง ลองซัดด้วยขวาบริเวณนอกกรอบ แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป นาทีที่ 16จากลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ดจ่ายออกมาด้านข้างให้เกล็น จอห์นสัน เปิดไปที่หน้าประตูให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ขึ้นโหม่งเหน่งๆ แต่ข้ามคานออกไป นาทีที่ 26อังกฤษได้ฟรีคิก แอชลี่ ยัง เปิดจากมุมหัวกะโหลกฝั่งซ้าย แต่บอลผ่านปากประตูออกไปแบบไม่รู้กันกับเพื่อน ผ่านมาครึ่งชั่วโมงเกมรุกของอังกฤษไม่ได้เหนือกว่ามอนเตเนโกรซักเท่าไหร่ แต่นาทีที่ 33ปีเตอร์ เคร้าช์ โดนทำฟาวล์ โอกาสอังกฤษได้ฟรีคิก อดัม จอห์นสัน ปั่นด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งเฉี่ยวเสาออกไป โอกาสสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นของอังกฤษ รูนี่ย์ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่เข้าซอง มลาเด้น โบโซวิช รับสบาย จบครึ่งแรก อังกฤษ เสมอ มอนเตเนโกร 0:0 ครึ่งหลัง เริ่มครึ่งหลังมอนเตเนโกรเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นบ้าง ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวของทั้งสองทีม นาทีที่ 49เกมของอังกฤษขึ้นมาฝั่งขวา เจอร์ราร์ดล็อกเข้าขวาเปิดมาหน้าประตู แต่ล้นไม่มีเพื่อนขึ้นโหม่งได้ เกมบุกของอังกฤษยังเจาะแนวรับมอนเตเนโกรไม่เข้า นาทีที่ 58จอห์นสันซัดฟรีคิกข้ามคานออกไปแบบหมดลุ้น นาทีที่ 59โอกาสใกล้เคียงที่สุดของอังกฤษ เจอร์ราร์ดไหลทะลุช่องมาให้รูนี่ย์ยิงตามน้ำในกรอบเขตโทษไปติด มลาเด้น โบโซวิช แล้ว ปีเตอร์ เคร้าช์ จะตามไปซ้ำแต่มลาเด้น โบโซวิชยังคว้าได้ทัน นาทีที่ 70อังกฤษเปลี่ยนตัว ปีเตอร์ เคร้าช์ ออกส่ง เควิน เดวิส กองหน้าตัวตัดเกมของโบลตันวัย 33 ปีลงมาแทน นาทีที่ 73 อังกฤษน่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดจ่อๆหน้าประตูแต่ไปติดท่อนแขน มลาเด้น โบโซวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน นาทีที่ 77มิลาน โยวาโนวิช แบ็กซ้ายมอนเตเนโกร ใช้แขนพักบอลลงในกรอบเขตโทษ แต่ มานูเอล กราเฟ ผู้ตัดสินชาวเยอรมันไม่เป่าให้จุดโทษ นาทีที่ 84มอนเตเนโกรเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ มิลาน โยวาโนวิช ยิงลูกใบไม้ร่วงด้วยซ้ายบอลไปชนคานดังสนั่น อังกฤษรอดพ้นการเสียประตู นาทีที่ 90เควิน เดวิส ป้ายบอลให้ แกเร็ธ แบร์รี่ ยิงด้วยขวาก็ยังไปติดเซฟโบโซวิชอีกครั้ง จบเกมอังกฤษทำได้แค่เสมอมอนเตเนโกร 0:0 ทำให้มอนเตเนโกรขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจีโดยยังไม่เสียประตู รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม อังกฤษ : ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท กองหลัง : เกล็น จอห์นสัน, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล กองกลาง : อดัม จอห์นสัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, แอชลี่ย์ ยัง(ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.74) กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ปีเตอร์ เคร้าช์(เควิน เดวิส น.70) ผู้เล่นสำรอง : เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค, แกรี่ เคฮิลล์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แจ็ค วิลเชียร์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เควิน เดวิส มอนเตเนโกร : ระบบ 4-4-1-1 ผู้รักษาประตู : มลาเด้น โบโซวิช กองหลัง : สเตฟาน ซาวิช, มิโอแดร็ก ซูโดวิช, มิลาน โยวาโนวิช, มาร์โก บาซ่า กองกลาง : เอลซาด ซเวโรติช, ซิมอน วุคเชวิช, มิโลราด เปโควิช, มิตาร์ โนวาโควิช(มลาเด้น คาสเซลาน น.62) กองหน้า : บรังโก้ บอสโควิช(ฟาตอส เบซิราจ น.83), ราโดเมียร์ ยาโลวิช(อันดริยา เดลิบาซิช น.77) ผู้เล่นสำรอง : บลาซิช, บาตัก, มลาเด้น คาสเซลาน, ฟาตอส เบซิราจ, โทมาเซวิช, เปโยวิช, อันดริยา เดลิบาซิช                  |
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือก วันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2553 กลุ่มจี มอนเตเนโกรบุกมายันเสมออังกฤษ 0:0 นำจ่าฝูงกลุ่มจีแบบไม่เสียประตู |
| สนาม : เวมบลีย์ ผู้ตัดสิน : มานูเอล กราเฟ (เยอรมัน) เวลาเตะ : 02.00 น. ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 ผู้ทำประตู : --- ผู้ชม : 73,451 คน เกมนี้สิงโตคำราม อังกฤษได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกครั้ง หลังบาดเจ็บไปนาน กองหลังมีปัญหาการบาดเจ็บของ จอห์น เทอร์รี่ จนต้องถอนตัว คาเปลโล่จึงเรียกโจลีออน เลสค็อตต์ เสียบแทน ทางด้านทีมเยือน มอนเตเนโกร มาในระบบ 4-4-1-1 โดยมี ราโดเมียร์ ยาโลวิช ยืนเป็นหน้าเป้า แต่เกมนี้จะไม่มี เมียร์โก้ วูชินิช ฮีโร่ในนัดที่แล้วที่ยิงได้แล้วถอดกางเกงโชว์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ครึ่งแรก เริ่มเกม ทีมชาติอังกฤษอยู่ในเสื้อสีขาวเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน ส่วนทีมเยือนอยู่ในชุดสีแดง-เลือดหมู ต้นครึ่งแรกทั้งสองทีมยังจดๆจ้องๆกันอยู่นาทีที่ 8 แอชลี่ย์ ยัง ลองซัดด้วยขวาบริเวณนอกกรอบ แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป นาทีที่ 16จากลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ดจ่ายออกมาด้านข้างให้เกล็น จอห์นสัน เปิดไปที่หน้าประตูให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ขึ้นโหม่งเหน่งๆ แต่ข้ามคานออกไป นาทีที่ 26อังกฤษได้ฟรีคิก แอชลี่ ยัง เปิดจากมุมหัวกะโหลกฝั่งซ้าย แต่บอลผ่านปากประตูออกไปแบบไม่รู้กันกับเพื่อน ผ่านมาครึ่งชั่วโมงเกมรุกของอังกฤษไม่ได้เหนือกว่ามอนเตเนโกรซักเท่าไหร่ แต่นาทีที่ 33ปีเตอร์ เคร้าช์ โดนทำฟาวล์ โอกาสอังกฤษได้ฟรีคิก อดัม จอห์นสัน ปั่นด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งเฉี่ยวเสาออกไป โอกาสสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นของอังกฤษ รูนี่ย์ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่เข้าซอง มลาเด้น โบโซวิช รับสบาย จบครึ่งแรก อังกฤษ เสมอ มอนเตเนโกร 0:0 ครึ่งหลัง เริ่มครึ่งหลังมอนเตเนโกรเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นบ้าง ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวของทั้งสองทีม นาทีที่ 49เกมของอังกฤษขึ้นมาฝั่งขวา เจอร์ราร์ดล็อกเข้าขวาเปิดมาหน้าประตู แต่ล้นไม่มีเพื่อนขึ้นโหม่งได้ เกมบุกของอังกฤษยังเจาะแนวรับมอนเตเนโกรไม่เข้า นาทีที่ 58จอห์นสันซัดฟรีคิกข้ามคานออกไปแบบหมดลุ้น นาทีที่ 59โอกาสใกล้เคียงที่สุดของอังกฤษ เจอร์ราร์ดไหลทะลุช่องมาให้รูนี่ย์ยิงตามน้ำในกรอบเขตโทษไปติด มลาเด้น โบโซวิช แล้ว ปีเตอร์ เคร้าช์ จะตามไปซ้ำแต่มลาเด้น โบโซวิชยังคว้าได้ทัน นาทีที่ 70อังกฤษเปลี่ยนตัว ปีเตอร์ เคร้าช์ ออกส่ง เควิน เดวิส กองหน้าตัวตัดเกมของโบลตันวัย 33 ปีลงมาแทน นาทีที่ 73 อังกฤษน่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดจ่อๆหน้าประตูแต่ไปติดท่อนแขน มลาเด้น โบโซวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน นาทีที่ 77มิลาน โยวาโนวิช แบ็กซ้ายมอนเตเนโกร ใช้แขนพักบอลลงในกรอบเขตโทษ แต่ มานูเอล กราเฟ ผู้ตัดสินชาวเยอรมันไม่เป่าให้จุดโทษ นาทีที่ 84มอนเตเนโกรเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ มิลาน โยวาโนวิช ยิงลูกใบไม้ร่วงด้วยซ้ายบอลไปชนคานดังสนั่น อังกฤษรอดพ้นการเสียประตู นาทีที่ 90เควิน เดวิส ป้ายบอลให้ แกเร็ธ แบร์รี่ ยิงด้วยขวาก็ยังไปติดเซฟโบโซวิชอีกครั้ง จบเกมอังกฤษทำได้แค่เสมอมอนเตเนโกร 0:0 ทำให้มอนเตเนโกรขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจีโดยยังไม่เสียประตู รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม อังกฤษ : ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท กองหลัง : เกล็น จอห์นสัน, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล กองกลาง : อดัม จอห์นสัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, แอชลี่ย์ ยัง(ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.74) กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ปีเตอร์ เคร้าช์(เควิน เดวิส น.70) ผู้เล่นสำรอง : เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค, แกรี่ เคฮิลล์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แจ็ค วิลเชียร์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เควิน เดวิส มอนเตเนโกร : ระบบ 4-4-1-1 ผู้รักษาประตู : มลาเด้น โบโซวิช กองหลัง : สเตฟาน ซาวิช, มิโอแดร็ก ซูโดวิช, มิลาน โยวาโนวิช, มาร์โก บาซ่า กองกลาง : เอลซาด ซเวโรติช, ซิมอน วุคเชวิช, มิโลราด เปโควิช, มิตาร์ โนวาโควิช(มลาเด้น คาสเซลาน น.62) กองหน้า : บรังโก้ บอสโควิช(ฟาตอส เบซิราจ น.83), ราโดเมียร์ ยาโลวิช(อันดริยา เดลิบาซิช น.77) ผู้เล่นสำรอง : บลาซิช, บาตัก, มลาเด้น คาสเซลาน, ฟาตอส เบซิราจ, โทมาเซวิช, เปโยวิช, อันดริยา เดลิบาซิช |
|
สนาม : เวมบลีย์ ผู้ตัดสิน : มานูเอล กราเฟ (เยอรมัน) เวลาเตะ : 02.00 น. ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 ผู้ทำประตู : --- ผู้ชม : 73,451 คน เกมนี้สิงโตคำราม อังกฤษได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกครั้ง หลังบาดเจ็บไปนาน กองหลังมีปัญหาการบาดเจ็บของ จอห์น เทอร์รี่ จนต้องถอนตัว คาเปลโล่จึงเรียกโจลีออน เลสค็อตต์ เสียบแทน ทางด้านทีมเยือน มอนเตเนโกร มาในระบบ 4-4-1-1 โดยมี ราโดเมียร์ ยาโลวิช ยืนเป็นหน้าเป้า แต่เกมนี้จะไม่มี เมียร์โก้ วูชินิช ฮีโร่ในนัดที่แล้วที่ยิงได้แล้วถอดกางเกงโชว์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ครึ่งแรก เริ่มเกม ทีมชาติอังกฤษอยู่ในเสื้อสีขาวเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน ส่วนทีมเยือนอยู่ในชุดสีแดง-เลือดหมู ต้นครึ่งแรกทั้งสองทีมยังจดๆจ้องๆกันอยู่นาทีที่ 8 แอชลี่ย์ ยัง ลองซัดด้วยขวาบริเวณนอกกรอบ แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป นาทีที่ 16จากลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ดจ่ายออกมาด้านข้างให้เกล็น จอห์นสัน เปิดไปที่หน้าประตูให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ขึ้นโหม่งเหน่งๆ แต่ข้ามคานออกไป นาทีที่ 26อังกฤษได้ฟรีคิก แอชลี่ ยัง เปิดจากมุมหัวกะโหลกฝั่งซ้าย แต่บอลผ่านปากประตูออกไปแบบไม่รู้กันกับเพื่อน ผ่านมาครึ่งชั่วโมงเกมรุกของอังกฤษไม่ได้เหนือกว่ามอนเตเนโกรซักเท่าไหร่ แต่นาทีที่ 33ปีเตอร์ เคร้าช์ โดนทำฟาวล์ โอกาสอังกฤษได้ฟรีคิก อดัม จอห์นสัน ปั่นด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งเฉี่ยวเสาออกไป โอกาสสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นของอังกฤษ รูนี่ย์ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่เข้าซอง มลาเด้น โบโซวิช รับสบาย จบครึ่งแรก อังกฤษ เสมอ มอนเตเนโกร 0:0 ครึ่งหลัง เริ่มครึ่งหลังมอนเตเนโกรเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นบ้าง ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวของทั้งสองทีม นาทีที่ 49เกมของอังกฤษขึ้นมาฝั่งขวา เจอร์ราร์ดล็อกเข้าขวาเปิดมาหน้าประตู แต่ล้นไม่มีเพื่อนขึ้นโหม่งได้ เกมบุกของอังกฤษยังเจาะแนวรับมอนเตเนโกรไม่เข้า นาทีที่ 58จอห์นสันซัดฟรีคิกข้ามคานออกไปแบบหมดลุ้น นาทีที่ 59โอกาสใกล้เคียงที่สุดของอังกฤษ เจอร์ราร์ดไหลทะลุช่องมาให้รูนี่ย์ยิงตามน้ำในกรอบเขตโทษไปติด มลาเด้น โบโซวิช แล้ว ปีเตอร์ เคร้าช์ จะตามไปซ้ำแต่มลาเด้น โบโซวิชยังคว้าได้ทัน นาทีที่ 70อังกฤษเปลี่ยนตัว ปีเตอร์ เคร้าช์ ออกส่ง เควิน เดวิส กองหน้าตัวตัดเกมของโบลตันวัย 33 ปีลงมาแทน นาทีที่ 73 อังกฤษน่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดจ่อๆหน้าประตูแต่ไปติดท่อนแขน มลาเด้น โบโซวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน นาทีที่ 77มิลาน โยวาโนวิช แบ็กซ้ายมอนเตเนโกร ใช้แขนพักบอลลงในกรอบเขตโทษ แต่ มานูเอล กราเฟ ผู้ตัดสินชาวเยอรมันไม่เป่าให้จุดโทษ นาทีที่ 84มอนเตเนโกรเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ มิลาน โยวาโนวิช ยิงลูกใบไม้ร่วงด้วยซ้ายบอลไปชนคานดังสนั่น อังกฤษรอดพ้นการเสียประตู นาทีที่ 90เควิน เดวิส ป้ายบอลให้ แกเร็ธ แบร์รี่ ยิงด้วยขวาก็ยังไปติดเซฟโบโซวิชอีกครั้ง จบเกมอังกฤษทำได้แค่เสมอมอนเตเนโกร 0:0 ทำให้มอนเตเนโกรขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจีโดยยังไม่เสียประตู รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม อังกฤษ : ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท กองหลัง : เกล็น จอห์นสัน, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล กองกลาง : อดัม จอห์นสัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, แอชลี่ย์ ยัง(ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.74) กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ปีเตอร์ เคร้าช์(เควิน เดวิส น.70) ผู้เล่นสำรอง : เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค, แกรี่ เคฮิลล์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แจ็ค วิลเชียร์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เควิน เดวิส มอนเตเนโกร : ระบบ 4-4-1-1 ผู้รักษาประตู : มลาเด้น โบโซวิช กองหลัง : สเตฟาน ซาวิช, มิโอแดร็ก ซูโดวิช, มิลาน โยวาโนวิช, มาร์โก บาซ่า กองกลาง : เอลซาด ซเวโรติช, ซิมอน วุคเชวิช, มิโลราด เปโควิช, มิตาร์ โนวาโควิช(มลาเด้น คาสเซลาน น.62) กองหน้า : บรังโก้ บอสโควิช(ฟาตอส เบซิราจ น.83), ราโดเมียร์ ยาโลวิช(อันดริยา เดลิบาซิช น.77) ผู้เล่นสำรอง : บลาซิช, บาตัก, มลาเด้น คาสเซลาน, ฟาตอส เบซิราจ, โทมาเซวิช, เปโยวิช, อันดริยา เดลิบาซิช |
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
