10 สนามกีฬาคุณภาพในเมืองไทย

Sport.mthai ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสนามชั้นนำในเมืองไทย 10 อันดับ

โดยไล่เลียงจากการตรวจสอบของ
คณะกรรมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

และสมาพันธ์ ฟุตบอลเอเชีย (AFC)


Credit :
http://sport.mthai.com/home-sport-mthai/hilight-sport-mthai/51382.html

บทความโดย ติช เต ฉ่อ

อันดับ 10 : สนามกลีบบัว กาญจนบุรี

อันดับ 10  : สนามกลีบบัว กาญจนบุรี



เป็นสนามที่มีอัฒจรรย์โดยรอบและมีหลังคาเกือบรอบสนาม
(ขาดเพียงโซนกระถางคบเพ ลิงเ่ท่านั้น)
ตั้งอยู่ที่ตัวเมือง จ. กาญจนบุรี
มีความจุ 20,000 ที่นั่ง
ว่ากันว่าเป็นสนามที่มีความสวยงามด้วยธรรมชาติติด 1 ใน 5 ของเมืองไทยเลยทีเดียว

ปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของสโมสรกาญจนบุรี เอฟซี

อันดับ 9 : สนามจิระนคร สงขลา

อันดับ 9 : สนามจิระนคร สงขลา




ตั้งอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
มีความจุ 20,000 ที่นั่ง

สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มาออกกำลังกาย
รอบๆสนามยังมีพื้นที่รองรับสำหรับกีฬาหลายประเภท
เช่น เทนนิส ปิงปอง เปตอง ฯลฯ

ปัจจุบัน สโมสรสงขลา เอฟซี และหาดใหญ่ เอฟซี ใช้เป็นสนามเหย้า

อันดับ 8 : สนาม ติณสูลานนท์ สงขลา

อันดับ 8 : สนาม ติณสูลานนท์ สงขลา



เคยใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลนัดชิงอันดับที่ 3
ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ระหว่างไทยกับจีน  

ตั้งอยู่ที่เขตเทศบาลนครสงขลา
ปัจจุบันกำลังอยู่ในแผนปรับปรุงภายใต้งบ 20 ล้านบาท
คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2554

ซึ่งหลังจากนั้นสโมสรสงขลาเอฟซี จะใช้เป็นรังเหย้า
ในฤดูกาลหน้า ด้วยความจุ 20,000 ที่นั่ง

อันดับ 7 : สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ

อันดับ 7  : สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ



เป็น ที่รู้จักกันในชื่อ “สนามจุ๊บ”
ตั้งอยู่ในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นับเป็นสนามหญ้าเทียมที่สมบูรณ์แห่งแรกของประเทศไทย
มีอัฒจรรย์โดยรอบ จุผู้ชมได้เต็มที่กว่า 20,000 คน
มีความพร้อมในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
แสงไฟที่ได้มาตรฐานและยังมีศูนย์กีฬาที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอย่างครบครัน

นอกจากนี้ยังใช้เป็นสนามหลัก
ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในปลายปีนี้

ปัจจุบันใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรจุฬา ยูไนเต็ด


อันดับ 6 : YAMAHA Stadium เมืองทอง นนทบุรี

อันดับ 6  : YAMAHA Stadium เมืองทอง นนทบุรี



แต่เดิมชื่อสนาม Thunder Dome
ต่อมา YAMAHA ได้ร่วมให้การสนับสนุนปรับปรุงสนาม
จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น YAMAHA Stadium
โดยสร้างอัฒจรรย์รอบ มีความจุ 20,000 ที่นั่ง

และไม่มีลู่วิ่งคั่นกลาง

มีห้องรับรองแขก สื่อมวลชน และนักกีฬาที่สะดวกสบาย
มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม

รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันได้มาตรฐาน AFC

อันดับ 5 : สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ปทุมธานี

อันดับ 5  : สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ปทุมธานี



มีความจุ 25,000 ที่นั่ง

อัฒจรรย์รอบสนามเป็นเก้าอี้ทั้งหมด

มีหลังคาทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมลู่วิ่งยาง 9 ช่อง
สร้างเพื่อรองรับการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13
มีการเดินทางที่สะดวกสบาย พื้นที่จอดรถกว้างขวาง
โดยรอบมีศูนย์กีฬาที่ทันสมัย พร้อมสำหรับจัดการแข่งขันกีฬาแบบครบวงจร
ในทุกปีจะใช้สำหรับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยรอบคัดเลือก

ซึ่งปัจจุบันสโมสรที่เช่าเป็นเจ้าบ้านคือสโมสรอินทรีเพื่อนตำรวจ

อันดับ 4 : สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา

อันดับ 4 : สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา



สร้างขึ้นเพื่อรองรับกีฬาซีเกมส์ในปี 2550 ที่ จ.นครราชสีมาเป็นเจ้าภาพ
และเคยจัดการแข่งขันฟุตบอล King’s Cup ครั้งที่ 40

สนามแห่งนี้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีการวางระบบน้ำ-ไฟที่ทันสมัย
ปัจจุบันมีความจุ 25,000 ที่นั่ง

และสามารถขยายได้เป็น 40,000 ที่นั่งได้ในอนาคต

ซึ่งตอนนี้สโมสรฟุตบอลนครราชสีมา เอฟซี ใช้เป็นสนามเหย้า

อันดับ 3 : สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

อันดับ 3  : สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี



นับเป็นอีก 1 สนามกีฬาที่มีความครบวงจร
รอบๆมีสนามกีฬาต่างๆมากมาย อาทิ กอล์ฟ เทนนิส ยิงปืน ว่ายน้ำ แบดมินตัน
และอาคารกีฬาในร่มเอนกประสงค์

มีการจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ยังมีสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และมีบรรยากาศที่ดี
ตั้งอยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ก่อสร้างขึ้นในปี 2532
ตามโครงการสร้างสนามกีฬาเมืองหลักเฉลิมฉลอง 700 ปี นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

มีความจุ 25,000 ที่นั่ง สโมสรเชียงใหม่ เอฟซีใช้เป็นสนามเหย้า

อันดับ 2 : สนามศุภชลาศัย กรุงเทพ

อันดับ 2  : สนามศุภชลาศัย กรุงเทพ



นับเป็นสนามกีฬาประวัติศาสตร์ของไทย
ทั้งประวัติความเป็นมาและการใช้งานในระดับนานาชาติ

สนามศุภชลาศัยตั้งอยู่ที่เขตปทุมวัน
ซึ่งแต่เดิมเป็นพื้นที่ของพระราชวังวินเซอร์
โดยการสร้างสนามครั้งนั้นเพื่อใช้ในการแข่งขันกรีฑาที่หลวงศุภชาลัยได้ก่อตั้งขึ้น
สมัยนั้นเรียกว่า “สนามกรีฑาสถาน”
ต่อมาในปี 2484 กรมพลศึกษาได้เปลี่ยนชื่อเป็น

“สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาติ”

เพื่อให้เกียรติกับหลวงศุภชลาศัย
สนามแห่งนี้ได้ถูกจัดการแข่งขันขึ้นมากมาย
ทั้งเอเชี่ยนเกมส์
คิงส์คัพ
งานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์
และอีกมากมายนับไม่ถ้วน

อันดับ 1 : สนามราชมังคลากีฬาสถาน

อันดับ 1  : สนามราชมังคลากีฬาสถาน



สนามที่ใหญ่และดีที่สุดในเมืองไทย
ซึ่งเป็นสนามเดียวในไทย

ที่เข้าเกณฑ์ให้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกได้

ตั้งอยู่ที่เขตหัวหมาก กรุงเทพฯ
ออกแบบและสร้างในปี 2531

ในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ

และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก

สร้างแล้วเสร็จในปี 2541
พร้อมใช้เป็นสนามหลักในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13
ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

แรกเริ่มเดิมที่จุคนได้ถึง 80,000 ที่นั่ง
แต่มีการปรับปรุงเรื่องเก้าอี้รอบอัฒจรรย์
และห้องรับรองแขกพิเศษ

ความจุจึงลด ลงเหลือ 49,749 ที่นั่ง

เป็นเก้าอี้นั่งทั้งหมด

ส่วนในตัวสนามมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและครบครัน
อาทิ ที่ตั้งของสมาคมกีฬาต่างๆ
ห้องประชุมขนาดใหญ่
ห้องรับรองแขกพิเศษ
ห้องควบคุมการทำงานแสงสีเสียง
ห้องตรวจสารกระตุ้น
ห้องพักนักกีฬา ผู้ตัดสิน สื่อมวลชน
และโดยรอบยังมีสนามกีฬาหลัก

สนามเทพหัสดิน"

นอกจากนี้ยังมีสนามเทพหัสดิน
และสนาม 200 เมตรไว้สำหรับการฝึกซ้อม

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอาคารในร่มเอนกประสงค์ “นิมิบุตร”

ที่ได้รับมาตรฐานในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก

ปัจจุบันสนามศุภฯได้มีการปรับปรุงหลายครั้ง
นับได้ว่าเป็นสนามกีฬาแห่งชาติ
ที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยมากเลยทีเดียว

โดยมีความจุอยู่ที่ 35,000 ที่นั่ง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์