รีวีวพรีเมียร์ลีก match day 7 โดยเบน ฟรีคิก



รีวิวหนนี้ขอจับกระแสเด่นกระแสดังไปที่วันวิปโยคของเหล่าเดอะค็อปกันก่อนเลยนะครับเพราะว่าตอนนี้หลายคนตกใจหลายคนหดหู่และหลายคนยังทำใจไม่ได้

ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น...ขนาดผมเลิกอินกับการเชียร์ลิเวอร์พูลเข้าเลือดมานานน่าจะ 6-7 ปีได้แล้วแบบว่าแพ้แล้วเครียดหรือวีนใส่คนรอบข้าง ไม่อยากอ่านข่าวไม่อยากอ่านหนังสือพิมพ์หรือนอนไม่หลับ อันนี้ไม่มี เฉยๆมานานมาก

แต่ปีนี้ฤดูกาลนี้ผมกลับรู้สึกหวิวๆชอบกลโดยเฉพาะวันที่แพ้แบล็คพูลคาแอนฟิลด์ 2-1 หน้ามันชา รู้สึกแปลกๆ ผมไม่ได้โกรธใครไม่ได้โยนขี้ไปให้ปลิงมะกันหรือเกลียดรอย ฮอดจ์สันหรือมองไปถึงระบบการเล่น มองนั่นมองนี่

เพราะว่าเหตุผลคือการแพ้แบล็คพูลคาบ้านด้วยรูปเกมที่สู้ไม่ได้และทีมเวิร์คเหมือนไม่ได้ซ้อมกันมาเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงหากมองถึงตัวผู้เล่นและความได้เปรียบที่คุณอยู่ในพรีเมียร์ลีกมานานผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าทีมเล็กๆที่เพิ่งมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นหนแรก

ผมเคยบอกให้เวลาปู่รอย 3 ปีแต่ก็ไม่คิดว่าจะเละขนาดนี้ คิดว่าเออ...เจอทีมใหญ่อาจสู้ไม่ได้บ้างอาจแพ้หมดรูปบ้างนั่นก็เพราะผู้จัดการทีมเข้ามาปรับเปลี่ยนนักเตะยังตามไม่ทัน หรือผู้เล่นต้องจูนกันพักนึงแต่เมื่อเจองานง่ายแถมเล่นในบ้านตัวเองอย่างน้อยก็ต้องเหนือกว่าบ้างแต่แบบเมื่อวันอาทิตย์ผมนั่งดูตาค้างและตอนโดน 2-0 ผมรู้เลยว่าสภาพทีมในยามนี้จะไล่แซงคงอยากเลยพิมพ์พาดหัวรอเอาไว้ตั้งแต่พักครึ่งเลย

ผมเองก็ไม่ทราบว่าเบื้องลึกเบื้องหลังในการซ้อมเนี่ยปู่รอยได้สั่งให้ลูกทีมเล่นอย่างแล้วไม่ได้ดั่งใจอันนี้ผมไม่ทราบ อันนี้ทำให้ผมเลยไม่อยากพูดอะไรมาก ของงโดยลำพังอยู่คนเดียวล่ะกัน ฮา

แต่ที่ผมจับประเด็นปัญหาหลักๆ ณ ตอนนี้ได้และพอพูดได้คือทีมที่ลงเล่นกับหงส์แดงไม่กลัวแล้วทุกคนพร้อมวิ่งไล่บีบเพราะรู้ว่าเดี๋ยวเสียบอลแน่ คนที่เตะบอลบ่อยๆจะทราบดีเวลาลูกบอลไปอยู่กับคนอ่อนที่สุดในทีมคุณรู้ว่าถ้าปรี่เข้าใส่เดี๋ยวต้องมีอะไรดีๆแน่ อันนี้แบล็คพูลและทีมอื่นๆกำลังทำกับลิเวอร์พูลอยู่ บางคนพอเจอไล่บีบมาทีนี้ร้อนรนเพราะปกติทีมก็ไม่ค่อยมีมูฟเมนท์อะไรอยู่แล้วเลยเห็นช่องหรือฝากบอลต่อน้อยมาก

นักเตะของลิเวอร์พูลยกเว้นเจอร์ราร์ดหรือโจ โคลเวลาได้บอลจะลนลาน เก็บบอลไว้ไม่อยู่ เกมมันก็ไม่เดิน ซึ่งสังเกตได้ว่าตอนนี้ทีมคู่แข่งใครก็ตามเล่นห่วยฟอร์มตกมาเจอหงส์แดงจะกล้าเล่น กล้าจี้กล้าโชว์

อีกปัญหาคือปีนี้แนวรับอดีตแชมป์ 18 สมัยรั่วหนักมาก บอลฝ่ายตรงข้ามจากกลางไปถึงหลังเร็วมากและค่อนข้างเปิดโล่งแบบนี้เซนเตอร์ตายอย่างเขียดครับ สมัยราฟาเอล เบนิเตซยอมรับว่าผมไม่ชอบที่คุมทีมมา 6 ปีแต่เจอทีมเล็กทีมเวิร์คลิเวอร์พูลสู้ไม่ได้ เงินใช้มากกว่าทีมเล็กแต่รูปแบบการเล่นไม่มีหลักมีฐานแต่เปิดสนามมา 7 นัดผมมองว่าแนวรับหงส์แดงกำลังโคม่าอย่างที่สุด

การขาดฮาเวียร์ มาสเคราโน่นี่เห็นผลชัดเจนหากเจอคู่แข่งที่ชอบเปิดเกมบุกเข้าใส่แต่พวกคนที่เล่นช้าค่อยๆเล่นเนี่ยลิเวอร์พูลยุคราฟาจะชอบมาก

ที่ผมจ้องดูตาไม่กระพริบคือแบ็คโฟว์ลิเวอร์พูลไม่คุมตัวคืออย่างเกมในวันอาทิตย์ตอนแบล็คพูลกำลังจะบุกแล้วปีกยืนว่าง GJ เค้าไม่ขยับไปยืนชิดกับปีกแต่กลับมายืนใกล้ๆเซนเตอร์พอปีกได้บอลก็ค่อยวิ่งเข้ามา ไม่ใช่เกมนี้เกมเดียวครับเป็นมาทุกนัดจึงไม่แปลกที่แบ็คสองข้างโดนเจาะเสียประตูมากมายเหลือเกิน

อีกจุดนึงที่ผมไม่เข้าใจเวลาแนวรับลิเวอร์พูลยืนตัวมากกว่า 4 คนแล้วนักเตะทีมเยือนได้บอลหน้าเขตโทษแต่กลับไม่ยอมมีใครเข้า คือแต่ละคนเลือกยืนคุมตรงเส้น 18 หลาอยู่อย่างนั้น แบบนี้คือระเบิดเวลานะครับ เท่ากับว่าคุณเชื้อเชิญให้ตัวมีบอลได้มองเห็นช่องมีเวลามองมูฟเมนท์ของเพื่อนทำให้กลายเป็นประตู 2-0 ในช่วงทดเจ็บ

ตัวมากกว่าต้องเข้าไปตัวนึงอย่างน้อยก็ทำให้คนที่มีบอลต้องรีบคิดรีบกระชากหนีหรือไม่ก็ม้วนหนีย้อนไปมุมแคบ มีตัวมากกว่าแต่ดันปล่อให้เค้ามีเวลาเหลือเฟือแบบนี้สู้หลุดเดี่ยวตัวตัวไปเลยดีกว่า อันนี้ผมกำลังสงสัยว่าใช่เพราะปู่รอยสั่งหรือเพราะนักเตะไม่มั่นใจกลัวรั่ว อันนี้ผมไม่ทราบผมเลยเง็งๆมากกว่าจะเป็นอารมณ์เดือด

ผมเห็นมีแฟนบอลหลายคนบอกทำไมลิเวอร์พูลไม่เล่นแบบท้ายเกมที่บุกใส่ข้างเดียวทั้งในเกมพบซันเดอร์แลนด์และแบล็คพูลตั้งแต่นาทีแรกไปเลย อันนี้ผมตอบได้เลยว่าไม่ใช่ว่าไม่เล่นแต่เป็นเพราะสองทีมดังกล่าวตั้งใจตั้งรับเพื่อเอาแต้มอย่างเดียวในช่วงท้ายมันเลยดูเหมือนหงส์แดงจะเหนือกว่าแต่ถ้าลองสู้กันเลยผมว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลเป็นรองทุกทีมครับเพราะแนวรับตอนนี้จัดระเบียบกันได้น่าเป็นห่วงอย่างที่สุด

เรื่องกระแสเคนนี่ ดัลกลิชเสียบแทนปู่รอยผมก็ไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีหรือร้ายเพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่ปู่รอยต้องการในสนามเนี่ยเป็นเพราะเขาสั่งหรือตั้งใจอยากให้ลูกทีมเล่นเกมรับแบบนี้หรือเปล่า อาจเคืองๆเล็กน้อยตรงการปรับหมากแก้เกมยังช้าอยู่แถมไรอัน บาเบิ้ลที่ผมมองว่าเล่นห่วยอย่างไรก็น่าจะมีชื่อสำรองเผื่อไว้ก่อน ตัวรับในม้านั่งสำรองเยอะเกินครับ

ผลงาน 7 นัดชนะหนึ่งมี 6 แต้มเป็นผลงานแย่ที่สุดในรอบ 57 ปีหรือตั้งแต่ฤดูกาล 1953-54 ซึ่งในปีนั้นลิเวอร์พูลตกชั้นด้วย

เรื่องตกชั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเดอะค็อปอีกต่อไปแล้วครับเพราะการแพ้แบล็คพูลหรือแม้กระทั่งไล่ตามตีเสมอซันเดอร์แลนด์ในบ้านเป็นประทับตายืนยันว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลอยู่ในระดับไหนและต้องยืนอยู่บนความเป็นจริงกันได้แล้ว

ไม่รู้จะโกรธผมหรือเปล่าที่จะบอกว่าเท่าที่ดูบอลตั้งแต่เปิดฤดูกาลทีมเวิร์ค+ทรงบอลของหงส์แดงแย่ที่สุดในบรรดา 20 ทีม ขนาดนิวคาสเซิ่ลที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาชื่อชั้นนักเตะเป็นรองผมดูแล้วยังแอบทึ่งเพราะนักเตะไม่มีใครหวงบอล ใครยืนว่างยืนตำแหน่งดีกว่าก็ให้ ความเข้าใจในเกมลูกหนังถือว่าดีเอามากๆ รวมถึงเวสต์บรอมวิชวันที่มาแพ้ลิเวอร์พูลหรือบุกชนะอาร์เซนอลก็เล่นได้อย่าเข้าใจกันและกัน

ไม่ได้ซ้ำเติมนะครับแต่ผมกำลังจะบอกว่าปีนี้เดอะค็อปต้องรวมใจกันอย่างหนัก อย่าทะเลาะกันเอง ตอนนี้ผมเองก็รู้สึกผิดรู้สึกแย่ที่มาเปิดศึกเมื่อไม่นานมานี้เลยอยากขอสงบศึกเพื่อให้ทีมผ่านวิกฤติไปก่อน

เพราะนรกยังรอหงส์แดงอีกเยอะครับอีก 2 สัปดาห์เจอเอฟเวอร์ตันจากนั้นเจอแบล็คเบิร์นในบ้านตัวเอง อันนี้เสียวนะครับแซม อลาไดซ์มองออกหมดแล้วว่าต้องเล่นยังไงงานนี้ผมว่าแค่ไม่แพ้คาบ้านก็ถือว่าก็เก่งแล้วด้วย จากนั้นไปเยือนโบลตันอันนี้เสมอก็สอบผ่านและเจอเชลซีแพ้ไม่เยอะขอสู้ได้ก็น่าจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว

ใครที่คิดไปไกลถึงขั้นทีมแตกซูเปอร์สตาร์ย้ายหนีก็อย่าไม่ซีเรียสมากครับ นักเตะย้ายเข้าย้ายออกเป็นเรื่องธรรมดาแต่ที่จีรังยั่งยืนตกทอดรุ่นต่อรุ่นคือสโมสร ตราสโมสร ผมไม่เคยแคร์เลยว่าใครอยากจะย้ายสำหรับผมยากลำบากยามตกต่ำนี่แหละวัดใจกันไปเลย

ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต้ดแม้ฤดูกาลนี้เป็นทีมเดียวที่ไม่แพ้ใครร่วมกับฟูแล่ม 2 ทีมแต่เกมนอกบ้านเนี่ยยังแก้ไม่ตกเสมอ 4 เกมรวด

เรียกว่างานนี้ทำให้เกมในบ้านทุกนัดต้องเน้นต้องเครียดกันเป็นทวีคูณ สถิติชนะในโอลด์แทรฟฟอร์ด 3 นัดรวดฟังแล้วสวยหรูแต่ยังไม่ได้เจอของแข็งระดับเชลซีหรืออาร์เซนอล กลิ่นยังไม่ออก

เกมเสมอซันเดอร์แลนด์ 0-0 อาจไม่ถึงเลวร้ายเพราะทีมแมวดำก็ไม่ใช่ขี้หมาที่ไหนแต่ที่ทำให้เร้ดอาร์มี่เหนื่อยหน่ายใจคือเกมรุกนอกบ้านไร้จิตนาการเล่นแล้วไม่ได้ลุ้นนี่แหละครับที่บั่นทองความหวังสู้กับเชลซีไปเยอะมาก

จากสถิติเกมนี้ปีศาจแดงมีโอกาส 12 ครั้งเข้ากรอบแค่หนึ่งถือว่าน่าใจหายพอสมควร ยังดีนะครับที่ลูกทีมสตีฟ บรูซก็ไม่เข้าเป้าไม่งั้นฮาไม่ออกเพราะพี่ท่านได้โยกเอวลุ้นถึง 21 ครั้งแต่เข้ากรอบแค่ 3

ผมมองว่าหากยูไนเต็ดมีเพลย์เมคเกอร์สดๆที่จี๊ดจ๊าดอาจสร้างความแตกต่างได้มากกว่านี้เพราะมิดฟิลด์ที่มีอยู่อย่างคาร์ริค,เฟลทเชอร์,สโคลส์,อันแดร์สันผมว่าสไตล์คล้ายกันเกินไป

จุดเด่นริมเส้นสองข้างที่เฟอร์กี้ใช้มาทุกยุคทุกสมัยปีนี้ก็แห้งๆไปเยอะ นานี่ที่เคยเป็นตัวความหวังก็เหมือนจะแห้งๆเหงาๆ

ตอนนี้ปีศาจแดงต้องรีบแก้ปัญหาโดยเร็วเพราะถูกเชลซีทิ้งห่างไปแล้ว 5 แต้มซึ่งไอ้แต้มที่ว่าผมว่าไม่น่ากลัวเท่าเกมเยือนของลูกทีมป๋าที่อาจทำให้ฤดูกาลนี้อาจจบเร็วกว่าที่คาดไว้

เชลซีเอาชนะอาร์เซนอลในศึกลอนดอน ดาร์บี้แมทช์เมื่อวันอาทิตย์ถือว่า 3 แต้มนี้มีค่าเหมือนคูณ 2 กันเลยทีเดียวเพราะปืนใหญ่ก็ไม่ใช่ตาสีตาสาแวะซื้อปาท่องโก๋ไปวันๆ อาร์แซน เวนเกอร์ก็เป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์อีกทีมดังนั้นการโค่นหนึ่งในคู่แข่งได้มันหมายถึงเชลซีขยับก้าวนำไปหนึ่งก้าวและตัดแต้มไปในตัว

อย่างไรก็ตามอาร์เซนอลไม่ได้แพ้แบบสู้ไม่ได้ดังนั้นเรื่องความหดหู่หรือสภาพจิตใจผมว่าไม่มีลดน้อยถอยลงแน่ คงแค่เสียดายที่มีโอกาสบุกมีโอกาสยิงเยอะแทบจะเท่าเชลซีด้วยซ้่ำ

แบบนี้ครับเค้าเรียกว่าเอาไปต่อยอดได้เพราะอย่างที่ผมบอกว่าปืนใหญ่แพ้ใครก็ตามสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเอาไปจากพวกเขาได้คือระบบทีมเวิร์คเพียงแต่การจบสกอร์ไม่คมเอง นี่ถ้ากอสเชี่ยลนี่โขกจังหวะเตะมุมเข้าไปตั้งแต่นาทีแรกอาจมีเงิบกันแน่

ปืนใหญ่เสียท่าแพ้มา 2 เกมติดแล้วเรียกว่านัดเจอเวสต์บรอมบุกยัดเยียดความปราชัยถึงบ้านส่งผลทำให้เกมแพ้เชลซีแต้มห่างไปแล้ว 7

บุกดีเล่นสวยสิ่งเดียวที่เวนเกอร์ยังไม่สามารถแก้ได้คือในวันที่ต้องการประตูมันมักไม่ค่อยมาแต่เวลายิงในเกมเดียวก็ไหลซะ 4-5 ลูกนี่คือจุดที่ต้องปรับโดยด่วนครับ

มาถึงม้ามืดที่ค่อยๆเคี้ยงเอื้องขยับมาเรื่อยๆคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ล่าสุดเอาชนะนิวคาสเซิ่ล 2-1 แต่ก็เรียกว่าหืดปูดคอสิวขึ้นหน้ากันเลยทีเดียว

เกมนี้ถูกบดบังรัศมีโดยเหตุการณ์ที่ไนเจล เดยองวิ่งมาหวดฮาเต็ม เบน อาร์กฟาถึงขั้นหักกันเลยทีเดียว

เรียกว่าตอนสไลด์บอลเบินไม่สนใจพุ่งถอนรากทั้งตัวไม่ได้เฉียดเป้าหมายที่คนทั้งสนามวิ่งไล่แย่งกันเลย งานนี้เสียงก่นด่ามาจากทั่วสารทิศรวมทั้งถูกถอดจากทีมชาติฮอลแลนด์ไปแล้ว เป็นอีกบทลงโทษกลายๆหลังสมาคมฟุตบอลไม่ได้แบนอะไรเนื่องจากผู้ตัดสินได้ให้ฟาว์ลจังหวะนั้นไปซึ่งตามกฏเมื่อเห็นแล้วตัดสินไปแล้วไม่สามารถลงโทษซ้ำซ้อนกันได้

ชื่อเสียงความเป็นฮาร์ดแมนเถื่อนถอยของเด ยองเลยถูกจารึกหนักยิ่งขึ้นไปอีกเพราะภาพกระโดดกังฟูใส่ชาบี้ อลอนโซ่ยังไม่ทันจางเลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามผลงานโดยรวมของเรือใบตอนนี้กำลังทำให้ท่านชีคยิ้มออกเพราะขึ้นมาเป็นรองฝูงตามหลังเชลซี 4 แต้มแต่ยังต้องปรับอะไรกันอีกเพราะเท่าที่ดูการเล่นติดขัดพอสมควร

วันนี้ขอพูดถึงทีมอื่นๆไม่ครบนะครับเพราะว่าระบายใส่หงส์แดงไปหมดแล้วก็ขอปิดท้ายที่สเปอร์สที่ออกตัวซาเล้งแต่ตอนนี้เครื่องชักติดโดยเฉพาะเกมรุกที่จ่าแฮร์รี่แกถนัดยามเล่นในบ้านเริ่มเก็บเกี่ยวชัยชนะอย่างต่อเนื่อง

ที่คุ้มทันตาเห็นคือราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ตยิงในลีกไปแล้ว 3 ลูกเรียกว่ากำลังเข้าขากับปีเตอร์ เคราช์ที่ทั้งชงทั้งเทน้ำร้อนประเคนกันอย่างสนุกสนาน

เร้ดแนปป์คุมทีมไหนเรื่องในบ้านเนี่ยหายห่วงครับไม่ว่าสมัยเวสต์แฮม,เซาแธมป์ตัน,ปอร์ทสมัธระบบ 4-4-2 มหาชนของแกได้ใจแฟนบอลทุกทีม

พวกปีกพวกตัวลุยนี่แจ้งเกิดกันทุกรายแต่คงต้องไปปรับเกมนอกบ้านกันหน่อยเพราะยังออกแนวหลวมๆหืดทุกที ตอนนี้ก็ยังรักษาตำแหน่งแถวบนรั้งที่ 5 มี 11 แต้มถือว่าไม่ขี้เหร่

วันนี้ลาไปก่อนสวัสดีครับ
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์