สรุปผลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 3 วันพุธที่ 22 กันยายน 2553

หงส์เด็กช็อก!ดวลเป้าพ่ายลีกทูร่วงคาร์ลิ่ง

หงส์แดงลิเวอร์พูลชุดผสมกลับบ้านเก่าอย่างรวดเร็วหลังถูกหมูเขี้ยวตันอย่างนอร์แธมป์ตันบุกมาสู้ขาดใจเสมอถึงรังแอนฟิลด์ 2-2 ก่อนโค่นดวลจุดโทษ 4-2 เข้ารอบ 4 คาร์ลิ่ง คัพสุดช็อก

คาร์ลิ่ง คัพรอบ 3

วันพุธที่ 22 กันยายน 2553


ลิเวอร์พูล 2-2 นอร์แธมป์ตัน

(นอร์แธมป์ตันชนะดวลจุดโทษ 4-2 หลังเสมอใน 120 นาที 2-2)

ประตู : 1-0 โยวาโนวิช น.9,1-1 แม็คเคย์ น.56,1-2 ยาคอบส์ น.99,2-2 เอ็นก็อก น.116


รอย ฮอดจ์สันทำตามที่สัญญาไว้กับมหาชนหลังส่งตัวผู้เล่นทั้งดาวรุ่งและสำรองลงสนามอย่างครบครันไม่ว่าจะบาเบิ้ล,เอ็นก็อก,ลูคัส,ปาเชโก้,สเปียริ่ง,โยวาโนวิช,เคลลี่,แดนนี่ วิลสันหรือคนที่ไม่ชอบโยนยาวอย่างดาเนี่ยล แอกเกอร์ด้วย

ครึ่งแรก

วันนี้ลิเวอร์พูลบุกจากขวาไปซ้ายหน้าจอแต่โชคร้ายไม่มีถ่ายทั้งทีวีและในเน็ต

เล่นมาแค่ 9 นาทีหงส์แดงขึ้นนำทันทีหลังแอกเกอร์เติมเกมรุกแล้วผ่านทะลุให้โยวาโนวิชซัดจ่อๆเต็มแรงตาข่ายแทบขาดแค่ 6 หลาเข้าไปไม่เหลือ เป็นลูกแรกของโยนับตั้งแต่ย้ายมาในช่วงซัมเมอร์อีกด้วย

จากนั้นเขี่ยไม่นานทีมเยือนจากลีกทูได้โอกาสยิงครั้งแรกจากธอร์ตันจากระยะ 25 หลาแต่เบาไปเข้ามือโจนส์สบายๆ

นาที 13 สเปียริ่ง,ลูคัสและปาเชโก้ประสานงานช่วยกันตรงกลางสนามก่อนครองบอลต่อท่ามกลางเหล่านักเตะทีมเยือน

นาที 21 ลูคัส เลว่าแข้งฟ้าประทานค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์เกือบฮือฮาอีกหลังยิงไกล 25 หลาจากลูกเคลียร์ของกองหลังนอร์ทแธมป์ตันแต่บอลลอยโด่งไม่มีลุ้น

แนวรับของลิเวอร์พูลเกือบทำทีมพังหลังปล่อยให้ลูกเปิดของจอห์น จอห์นสันเปิดบอลมาเข้ากบาลยาค็อบาส์ที่โขกจากระยะ 12 หลาข้ามคานออกไป

หลังยิงสเตอัว บูคาเรสต์ได้ตอนนี้เลว่าของขึ้นแล้วนาที 27 ยิงไกล 25 หลาแต่คราวนี้คริส ดันน์นายทวารทีมเยือนรำคาญเลยเซฟโชว์เข้าซองให้จบๆไป

ทีมเยือนเริ่มตั้งเกมได้และพยายามจะตีเสมอแต่ยังเจาะไม่เข้าเลยเน้นยิงไกล 2 หนข้ามคานออกไปหมด จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลที่เล่นยังไม่ไหลลื่นและมีปัญหาพอสมควรนำอยู่ 1-0


ครึ่งหลัง
ไรอัน บาเบิ้ลสงสัยจะนั่งสำรองยาวต่อไปเพราะเกมนี้นอกจากล้ำหน้าบ่อยก็จับบอลยาวบ้างเกินไปบ้างแถมลูกเปิดก็เบาก๋องเจอเคลียร์ทิ้ง ใครแอบเชียร์แข้งดัทช์ผู้นี้คงเข็นไม่ขึ้นแล้ว

เดอะค็อปในแอนฟิลด์นั่งหง่าวสุดๆเพราะตั้งแต่ได้ลูกแรกแล้วพวกเขาไม่ได้ทำอันตรายหรือสร้างความหวาดเสียให้กับทีมเยือนเลยแม้จะได้บอลเยอะแต่เป็นทีมจากลีกทูที่ค่อยๆกลับสู่เกมเรื่อยๆ

นาที 53 หงส์แดงได้ฟรีคิกตรงหน้ากรอบเขตโทษระยะเสียวซ่านโดยมีปาเชโก้,แอกเกอร์,บาเบิ้ลและโยวาโนวิชยืนซ่องสุมกันแต่สุดท้ายเป็นปาเชโก้ที่รับหน้าที่ยิงบอลหลุดกรอบออกไป

และแล้วฝันร้ายมาเยือนแอนฟิลด์จนได้หลังอีก 3 นาทีต่อมานอร์แธมป์ตันตามตีเสมอได้สำเร็จหลังลูกครอสริมเส้นเลยแบร๊ด โจนส์ที่กระโดดไม่ถึงเลยปล่อยให้บิลลี่ แม็คเคย์โขกจ่อๆเข้าไปเลย 1-1 แล้ว

ทีมเยือนตอนนี้น่ากลัวมากแถมลูกทุ่มเจอโฮล์ททุ่มไกลเข้าเขตโทษต้องร้อนถึงโซติริออสช่วยโขกทิ้งออกมารวมทั้งแดนนี่ วิลสันรับมือกับลูกเปิดจากริมเส้นอีกต่างหาก

นาที 76 เจ้าถิ่นเพิ่งมีโอกาสสวยๆหลังบาเบิ้ลลากตัดจากซ้ายก่อนเปิดให้ปาเชโก้วอลเลย์ตามน้ำจังหวะแรกแต่พลาดเป้าอย่างน่าเสียดาย

เจ้าถิ่นมาลุยแหลกใส่หมายจะปิดเกมให้ได้ใน 90 นาทีนาที 85 เคลลี่เล่น 1-2 กับโยวาโนวิชแต่ลูกยิงแฉลบได้เตะมุม ปาเชโก้รับหน้าที่เตะมุมแต่โดนเคลียร์ทิ้งสเปียริ่งยิงสวนติดบล็อกอีก

วันนี้ปาเชโก้เหมือนได้ปลดปล่อยและอยากโชว์ว่าแอนฟิลด์คืออนาคตถึงรับเหมาหมดทั้งฟรีคิก,เตะมุมหรือแม้กระทั่งยิงไกลช่วงทดเจ็บนาทีแรกแต่บอลหลุดกรอบออกไป หมดเวลาเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที

ต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก
โผล่มา 2 นาทีบาเบิ้ลไหลให้เอ็นก็อกยิงตรงหน้าเขตโทษแต่บอลแฉลบกองหลังเซ็งกันไปอีก

อย่างไรก็ตามนาที 99 ฟ้าผ่ากลางแอนฟิลด์หลังเฮอร์เบิร์ตตัวสำรองเปิดบอลเข้าในเขตโทษแล้วเป็นไมเคิ่ล ยาค็อบส์มาซัดจ่อๆเข้าไป นอร์แธมป์ตันแซง 2-1!

ต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง
เจ้าถิ่นไม่มีอะไรจะเสียนาที 107 เอ็นก็อกพักอกลูกเปิดของเคลลี่แต่ตอนยิงโดนบล็อกได้เตะมุม

อีก 4 นาทีต่อมาหงส์แดงน่าจะตีเสมอได้หลังลูกยิงของลูคัสหน้ากรอบเขตโทษเฉี่ยวเสาออกไปแบบน่าเข้า

นาที 113 ลูเปิดของเชลเวย์โล้นซ่าถูกเคลียร์มเข้าทางเคลลี่ที่วอลเลย์ตูมออกนอกกรอบไป

เกมที่ดูเหมือนเจ้าถิ่นน่าจะแพ้เพราะทีมจากลีกทูลงไปอุดกันหมดแต่นาที 116 ดาวิด เอ็นก็อกที่รอย ฮอดจ์สันชื่นชอบเป็นพิเศษกลายเป็นผู้ยื้อชีวิตให้ลิเวอร์พูลหลังจากลูกเตะมุมของโล้นซ่าเชลเวย์โขกเหน่งๆ 6 หลาที่เสาสองเบียดระหว่างยาค็อบกับเสาเข้าไป

แต่อีก 2 นาทีต่อมาหงส์แดงเกือบช็อกเมื่อเคลลี่กลายเป็นฮีโร่เคลียร์บอลบนเส้นรอดตายหวุดหวิด

นาทีสุดท้ายหรือ 120 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกระยะน่ารักน่าลุ้นเยื้องทางซ้ายเป็นเชลเวย์เปิดให้คีย์เกียกอสโขกเข้าหาประตูแต่เดวิสเคลียร์ใต้คานอย่างไม่น่าเชื่อ หมดเวลาเสมอ 2-2 ต้องดวงจุดโทษวัดดวงกันและเป็นทีมจากลีกทูที่พลิกล็อกชนะ 4-2 บุกมาช็อกอย่างไม่น่าเชื่อ

รายชื่อผู้ยิงจุดโทษ
ลิเวอร์พูล 0-0 นอร์แธมป์ตัน : กินาน(ไม่เข้า)
ลิเวอร์พูล 0-0 นอร์แธมป์ตัน : เอ็นก็อก(ไม่เข้า)
ลิเวอร์พูล 0-1 นอร์แธมป์ตัน : ธอร์นตัน(เข้า)
ลิเวอร์พูล 1-1 นอร์แธมป์ตัน : เชลเวย์(เข้า)
ลิเวอร์พูล 1-2 นอร์แธมป์ตัน : เดวิส(เข้า)
ลิเวอร์พูล 2-2 นอร์แธมป์ตัน : แอกเกอร์(เข้า)
ลิเวอร์พูล 2-3 นอร์แธมป์ตัน : ยาค็อบส์(เข้า)
ลิเวอร์พูล 2-3 นอร์แธมป์ตัน : เอคเคลสตัน(ไม่เข้า)
ลิเวอร์พูล 2-4 นอร์แธมป์ตัน : ออสมัน(เข้า)


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
แบร๊ด โจนส์ 5.5,มาร์ติน เคลลี่ 5.5,โซติริออส คีย์เกียกอส 5.5,ดาเนี่ยล แอกเกอร์ 5,แดนนี่ วิลสัน 5.5,ดาเนี่ยล ปาเชโก้ 5(อินซ์ น.105,5.5),ลูคัส เลว่า 5.5,เจย์ สเปียริ่ง 6,มิลาน โยวาโนวิช 6.5(เอ็คเคลสตัน น.91,5.5),ไรอัน บาเบิ้ล 5(เชลเวย์ น.100,6),ดาวิด เอ็นก็อก 6

นอร์แธมป์ตัน : คริส ดันน์ 6,จอห์น จอห์นสัน 6.5,แอนดรูว์ โฮลท์ 7,เบน โทเซอร์ 6.5,เลียม เดวิส 6.5,พอล รอดเจอร์ส 6.5(เฮอร์เบิร์ต น.80,6.5),ไรอัน กิลลิแกน 6.5,เควิน ธอร์ตัน 8,อับดุล ออสมัน 7,ไมเคิ่ล ยาค็อบส์ 8 *,บิลลี่ แม็คเคย์ 7.5(กินาน น.83,6.5)
















 


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////


โอเว่นเบิ้ล!ผีโดนก่อนรัวสคันธอร์ปไส้แตก 5-2

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำเร้ด อาร์มมี่เสียวเล็กน้อยหลังเสียประตูขึ้นไปก่อนแต่อาศัยความเก๋ายิงคืน 5 ลูกรวดโดยไมเคิ่ล โอเว่นเหมาคนเดียวสองประตูถล่มสคันธอร์ปดับอนาถคาบ้าน 5-2 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปของศึกคาร์ลิ่ง คัพได้สำเร็จ

คาร์ลิ่ง คัพ

วันพุธที่ 22 กันยายน 2553


สคันธอร์ป 2 : 5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู :
1-0 จอช ไรท์ น.19, 1-1 ดาร์รอน กิ๊บสัน น.23, 1-2 คริส สมอลลิ่ง น.36, 1-3 ไมเคิ่ล โอเว่น น.49, 1-4 ปาร์ค จี ซุง น.54, 1-5 ไมเคิ่ล โอเว่น น.71, 2-5 มาร์ติน วูลฟอร์ด น.90+1

นัดนี้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือหนังเหนียวเปลี่ยนนักเตะยกชุดจากเกมแดงเดือดที่เอาชนะลิเวอร์พูลมาได้ 3-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งไมเคิ่ล โอเว่น, เฟเดอริโก้ มาเคด้าและฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ 3 กองหน้าลงเล่นพร้อมกันหมด ส่วนเบเบ้แข้งนิรนามมีชื่อเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น

ครึ่งแรก

เจ้าบ้านไม่มีกลัว-ผีเกือบโดน
ช่วงต้นเกมเจ้าบ้านไม่ได้แสดงถึงความเกรงกลัวต่อทีมเยือนเลยแม้ชื่อชั้นจะเป็นรองอยู่มากก็ตามแถมเกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อนด้วยเมื่อโนแลนได้บอลหลุดขึ้นไปทางกราบซ้ายก่อนตบเข้ากลางมาให้วูลฟอร์ดได้ซัดเหน่งๆแต่คุสซ์แซคยังไม่พลาดปัดทิ้งออกไปได้

จนได้!ผีโดนส่องตามหลัง 0-1
นาทีที่ 19 และแล้วยูไนเต็ดก็เสียท่าโดนสคันธอร์ปทำประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่จอช ไรท์ได้บอลอยู่ที่หน้าเขตโทษแตะหลบกองหลังหาช่องแล้วกดเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

งามหยด!กิ๊บสันกระดกข้ามหัวโกล์
ตกเป็นฝ่ายตามหลังได้เพียงแค่ 4 นาทียูไนเต็ดเอาคืนได้ทันควันจากจังหวะที่สมอลลิ่งวางบอลยาวจากแดนหลังให้กิ๊บสันหลุดขึ้นไปทางฝั่งขวาของเขตโทษและกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเจ้าบ้านเข้าประตูไปเหนือชั้นสุดๆแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตีเสมอ 1-1

บราวน์ประกบพลาดผีเกือบไป
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกยูไนเต็ดยังคงแสดงความผิดพลาดในแนวรับออกมาให้เห็นอีกครั้งเมื่อบราวน์ประกบพลาดปล่อยให้ไบรน์ได้โขกเหน่งๆจากลูกเตะมุมแต่ยังโชคดีที่บอลข้ามคานออกหลังไป

น้องเล็กซัด!ผีแซงนำ 2-1
นาที 37 ยูไนเต็ดพลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายขึ้นนำได้สำเร็จจากจังหวะที่บราวน์แทงบอลทะลุช่องปาร์คหลุดขึ้นไปทางกราบขวาแล้วเปิดเข้ากลางให้สมอลลิ่งที่เติมขึ้นมาเล่นลูกฟรีคิกในจังหวะก่อนหน้านี้ดีดบอลเข้าประตูไป

มาเคด้าโขกเหน่งๆ 8 หลาหลุดเฉย
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกทีมเยือนน่าได้ลูกสามเหลือเกินเมื่อถั่วน้อยใช้ความเร็วสปีดไปเอาบอลที่เพื่อนเปิดทะลุช่องมาให้จนหลุดไปถึงเส้นหลังทางกราบซ้ายแล้วเปิดเข้ากลางมาให้มาเคด้าที่ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆไร้ตัวประกบแต่กลับโขกหลุดกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้จบครึ่งแรกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนำสคันธอร์ปอยู่แค่ 2-1 เท่านั้น


ครึ่งหลัง

โอเว่นมาแล้ว!ซัดลูกสามให้ผี
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 4 นาทีทีมเยือนมาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่โต้กลับเร็วเป็นโอเว่นที่รับบอลจากมาเคด้าหลุดไปดวลต่อตัวต่อกับผู้รักษาประตูแล้วก็ไม่พลาดซัดเข้าประตูไปยูไนเต็ดหนีห่าง 3-1

ไหล!ปาร์คกดนำห่าง 4-1
นาที 54 สกอร์ไหลเป็น 4-1 จากจังหวะที่สคันธอร์ปเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ดีมาเข้าทางปาร์คซัดสวนเข้าประตูไปตุงตาข่ายปีศาจแดงหนีห่างสุดกู่

เกือบ 5!มาเคด้าซัดตรงตัว
เข้าสู่นาที 66 ยูไนเต็ดยังคงไม่เพลาเกมรุกและเกือบได้ประตูที่ 5 จากจังหวะที่แอนเดอร์สันตัดบอลสคันธอร์ปที่พยายามจะสวนกลับได้แล้วแทงทะลุช่องให้เพื่อนหลุดขึ้นไปทางกราบขวาแล้วเปิดเข้ากลางมาให้มาเคด้าได้ยิงจ่อๆแต่ว่าไปตรงตัวผู้รักษาประตูเซฟเอาไว้ได้

5 แล้ว!โอเว่นซ้ำไม่เหลือ
นาที 71 ยูไนเต็ดอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วนำมาซึ่งประตูที่ 5 เมื่อปาร์คได้บอลที่กลางสนามเลี้ยงขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนหักเข้ากลางแล้วกดเต็มข้อทันทีบอลไปตรงผู้รักษาประตูปัดออกมาได้แต่ไม่ขาดโอเว่นตามซ้ำเข้าประตูไปอย่างง่ายดายปีศาจแดงหนีอีก 5-1

มาแล้ว!ผีเปิดตัวเบเบ้ส่งลงแทนปาร์ค
เชื่อว่าหลายๆคนรอดูเกมนี้เพราะนาทีนี้หลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ฤกษ์เปิดตัวเบเบ้แข้งใหม่สักทีส่งลงสนามมาแทนปาร์คในนาทีที่ 74

ลงสนามมาได้ไม่นานเบเบ้เรียกเตะมุมให้กับทีมได้จากจังหวะที่ได้บอลอยู่ทางกราบซ้ายแล้วล็อกตัดเข้ากลางมาซัดเต็มข้อไปติดกองหลังได้ลูกเตะมุม

คุสซ์แซคออกแรงบ้าง
นาที 86 คุสซ์แซคเริ่มมีงานทำบ้างหลังครึ่งหลังงานเบาลงกว่าครึ่งแรกเยอะคราวนี้ต้องออกแรงปัดลูกยิงฟรีคิกของสคันธอร์ปออกไปได้

ผีเผลอ!สคันธอร์ปไล่มา 5-2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บยูไนเต็ดพลาดเสียประตูจากจังหวะเตะมุมที่สคันธอร์ปเปิดเข้ามาจังหวะแรกสกัดออกไปได้แต่ไม่ขาดไปเข้าทางผู้เล่นเจ้าบ้านอีกครั้งเปิดกลับเข้ากลางมาแล้วเป็นวูลฟอร์ดแหย่ขาจิ้มบอลเข้าประตูไป

จากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมทำให้จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกมาถล่มสคันธอร์ปไปได้ 5-2


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สคันธอร์ป :
โจ เมอร์ฟี่ย์ 5.5, คลิฟฟ์ ไบร์น 5, เดวิด เมอร์ฟิน 5, เอ็ดดี้ โนแลน 5.5, ไนออลล์ คาราวาน 5.5, แซม ท็อกเวลล์ 5.5 (คอลลินส์ น.72), ไมเคิ่ล โอ คอนเนอร์ 5.5 (แกรนท์ น.61,6), มาร์ติน วูลฟอร์ด 7, จอช ไรท์ 7, คริส ดักนัลล์ 7 (ก็อดเด่น น.81,6), โจนาธาน ฟอร์เต้ 6.5

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : โทมัสซ์ คุสซ์แซค 8, เวส บราวน์ 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6.5, คริส สมอลลิ่ง 8.5, ราฟาเอล ดา ซิวา 6.5, ปาร์ค จี ซุง 8 (เบเบ้ น.74,7), ดาร์รอน กิ๊บสัน 7, แอนเดอร์สัน 7.5, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ 6.5 (โอแบร์ตอง น.68,6), ไมเคิ่ล โอเว่น 8.5**, เฟเดอริโก้ มาเคด้า 6.5

























































 


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////


โคตรดราม่า!นิวเจ๋งบุกเขี่ยเชลซี 10 คนร่วง 4-3

ยกให้เป็นเกมสุดมันลุ้นสนุกตื้นเต้นตลอด 90 นาทีสุดท้าย นิวคาสเซิล หักปากกาเซียนพลิกสถานการณ์บุกไปโค่นเจ้าถิ่น เชลซี ที่ผู้เล่นเจ็บจนเหลือ 10 คนสกอร์สุดระทึก 4-3 ทำให้จ่าฝูงพรีเมียร์ตกรอบเร็วเกินคาด

ผลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 3
วันพุธที่ 22 กันยายน 2553


เชลซี 3-4 นิวคาสเซิล

ประตู:
1-0 แพทริค ฟาน อันโฮลท์ น.6,1-1 นีล แรนเจอร์ น.27,1-2 ไรอัน เทย์เลอร์ น.32,1-3 โชล่า อเมโอบี้ น.49 ,2-3 นิโกล่าส์ อเนลก้า น.69,3-3 นิโกล่าส์ อเนลก้า(จุดโทษ) น.86,3-4 โชล่า อเมโอบี้ น.90


ครึ่งแรก

เชลซีทีเผลอนำแล้วจ้า
เปิดฉากแค่ 5 นาทีเท่านั้นเจ้าบ้านฉวยโอกาสที่แผงหลังนิวคาสเซิลยังไม่ทันตั้งหลักอะไรเลยขึ้นนำ 1-0 คาคูต้า กระชากบอลแหวกแนวรับเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนหักเข้ากลางให้ อันโฮลท์ วางเท้ายิงด้วยข้างเท้าเต็มแรงติดปลายมือ ครูล นายทวารปัดแต่เอาไม่อยู่บอลสู่ก้นตาข่าย

นิโก้ลองบ้าง
ขึ้นนำเร็ว สิงห์ไฮโซ ยังดูเหนือกว่าทุกอย่างขณะที่ นิวคาสเซิล ทำได้แค่วิ่งไล่ตามบอลเท่านั้นผ่าน 15 นาทีแรก อเนลก้า พาบอลไปเองกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายเกือบสุดเส้นหลังยังดีที่นายทวารนิวคาสเซิลออกมาได้เร็วปิดมุมบังคับให้ยิงเข้าซอง



เชลซีจ๋อยโป้งเดียวเจ๊า 1-1
ตลอดทั้งเกม นิวคาสเซิล ดูไม่มีวี่แววทำอะไรเจ้าถิ่นได้เลยแต่โอกาสครั้งแรกกลายเป็นประตูทันทีในนาที 27 เฟอร์กูสัน ทะลุจากทางซ้ายแหงนหน้ามองเปิดบอลยาวไปยังเสาสองให้ แรนเจอร์ ล้มตัวสไลด์เข้าไป


สิงห์ช็อตนิวช็อคแซง 2-1
พอเสียประตูเกมรับ เชลซี เสียกระบวนดื้อๆ 6 นาทีถัดมาโดน นิวคาสเซิล ตามหลอนได้ประตูแซง 2-1 จากจังหวะทำฟาวล์ระยะอันตราย กรนรมการเป่าฟรีคิกใกล้เส้นเขตโทษเยื้องทางซ้าย 20 หลา เทย์เลอร์ เห็นช่องกำแพงเจ้าถิ่นยืนกันไม่ดีเลยวิ่งมากดเต็มตีนเตี่ยบอลพุ่งแรงเสียบตาข่ายสุดสัญญาที่นายทวารเจ้าถิ่นจะต้าน กอ่นเวลาที่เหลือแม้เจ้าถิ่นพยายามรวบรวมสติเพื่อกลับมาแต่เจาะไม่เข้าจบครึ่งแรกกลายเป็นว่าตามหลังทีมเยือนหน้าตาเฉย

ครึ่งหลัง

เชลซีล้มทั้งยืนตาม 1-3
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่แค่ 3 นาทีกว่าๆเท่านั้น เชลซี ดูเหมือนจะมึนงงไม่หายเลยโดน นิวคาสเซิล ซัดหนีเป็น 3-1 จากจังหวะจ่ายพลาดของ เฟอร์ไรร่า โดนตัดได้ อเมโอบี้ กระชากไปได้สักระยะก่อนปั่นไซด์ 25 หลาหนีมือ เทิร์นบูลล์ นายด่านเสียบตาข่าย

อันเช่หน้าซี้ด!กาลูหาม
นอกจากสกอร์ตามหลังแล้ว เชลซี ยังต้องเซ่นสังเวยเมื่อ ซาโลมง กาลู วิ่งอยู่ดีๆกล้ามเนื้อยึดดื้อๆถึงกับนอนลงไปกองกับพื้นเล่นต่อไม่ไหวต้องลงเปล ดูแล้วคงต้องพักยาวแน่เลนเอา คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือถึงกับหน้าเสียในนาที 56

เชลซีซวยซ้ำ!ยูนเจ็บเหลือ 10 คน
เท่านั้นยังไม่พออีก 5 นาทีถัดมา เบนายูน เจ็บคล้ายๆกันวิ่งอยู่ดีๆข้อเท้าพลิกดื้อๆเล่นต่อไม่ไหว แต่ อันเช่ เปลี่ยนตัวไปครบหมดแล้ว ทำให้ เชลซี จำต้องรับสภาพเล่น 10 คน

สิงห์ฮึดสู้!นิโก้ตีตื้น
แม้เหลือ 10 คนแต่ เชลซี สวมหัวใจสิงห์ไล่มา 2-3 ฟาน อันโฮลท์ แบ็กจอมบุกเติมเกมทางซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลาง อเนลก้า เปิดหน้าเท้ายิงเข้าไปในนาที 69

นิวอุดจนพังนิโก้ยิงเป้าเจ๊า 3-3
เวลาที่เหลือด้วยตัวผู้เล่นเหนือกว่าแถมสกอร์ยังนำอยู่ทำให้ นิวคาสเซิล ถอยร่นลงไปอุดหน้าปากประตูสุดท้ายยันไม่อยู่ดันไปดึง อเล็กซ์ ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ อเนลก้า รับหน้าที่ส้งหารไม่พลาด

โคตรดราม่า!อเมโอบี้เบิ้ลนิว 4-3
โมเมนตัมเอนมาทางฝั่ง เชลซี แล้วน่าจะได้ประตูชัยจาก เฟอร์ไรร่า ซัดไปชนเสาเต็มๆแต่เมื่อไม่ได้ นิวคาสเซิล เปิดเกมบุกแลกนาทีสุดท้าย กูเตียร์เรซ โยนลูกเตะมุมทางซ้ายไปยังจุดนัดพบ อเมโอบี้ ชิงจังหวะเทกตัวโหม่งเช็ดตุงตาข่าย นิวคาสเซิล นำ 4-3 และกลายเป็นประตูสู่ชัยชนะเขี่ยจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกตกรอบ


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี:
เทิร์นบูลล์,เฟอร์ไรร่า,เทอร์รี่(อเล็กซ์ น.46),บรูม่า,ฟาน อันโฮลท์,รามิเรส,เบนายูน,เซอร์คอฟ,คาคูต้า(กาลู น.46,แม็คอาชราน น.56),อเนลก้า,สเตอร์ริดจ์


นิวคาสเซิล: ครูล,ไรอัน เทย์เลอร์(วิลเลียมสัน น.63),แคมป์เบลล์,โคล็อชชินี่(ติโอเต้ น.63),เฟอร์กูสัน(บาร์ตัน น.90),แรนเจอร์,กูเตียร์เรซ,วูคคิช,สมิธ,อเมโอบี้,โลเวนครันด์ส











///////////////////////////////////////////////////////////////////////
เวสต์บรอมวิช 2-1 แมนฯซิตี้
ประตู:
0-1 โจ น.19,1-1 จานนี่ ซูเวอร์ลูน น.55,1-2 ไซม่อน ค็อกซ์ น.57

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช:
มายฮิลล์,ซูเวอร์ลูน,เมอิเต้,ปาโบล,ชอรี่ย์,โชยี่,รีด,ดอร์รันส์,บาร์นส์,เบดนาร์,ค็อกซ์


แมนฯซิตี้:กิฟเว่น่,วิดัล,โบยาต้า,เมีย,คันนิ่งแฮม,อดัม จอห์นสัน,วิเอร่า,อิบราฮิม,โจ ,ซานตา ครูซ,กุยเดตติ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
แอสตัน วิลล่า 3-1 แบล็คเบิร์น
ประตู:
0-1 กาแอล ชิเวต์ น.34,1-1 เอมิล เฮสกีย์ น.59,2-1 แอชลี่ย์ ยัง น.75,3-1 แอชลี่ย์ ยัง น.77
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
วีแกน 2-1 เปรสตัน
ประตู:
0-1 คีธ เทรียซี่ น.23,1-1 ยอร์ดี้ โกเมซ น.87,2-1 ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย น.90


##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์