ทอฟฟี่1-0แต่ร่วง!,โบโร่-โรม่า0-0ยังลิ่ว,โบลตันเฮ

เอฟเวอร์ตัน (อังกฤษ) 1 - ดินาโม บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) 0

ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน แม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจด้วยการเชือด ดินาโม บูคาเรสต์ จากโรมาเนีย 1-0 แต่ไม่เพียงพอในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป เมื่อรวมสองนัด ดินาโม ชนะ 5-2 ส่งให้ทอฟฟี่เป็นทีมจากอังกฤษทีมแรกที่กระเด็นตกรอบยูฟ่าคัพ ขณะที่ มิดเดิ้ลสโบรซ์ แม้เสมอ ซานธี 0-0 แต่รวมสองนัด โบโร่ เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-0 ด้าน โรม่า ทีมดังแห่งเซเรีย อา ไม่สามารถเข่น อาริส ซาโลนิก้า ได้เสมอ 0-0 แต่รวมสองนัดโรม่าเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1 ในศึกยูฟ่าคัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลยูฟ่า คัพ
รอบแรก นัดสอง
วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2548



(รวมสองนัด ดินาโม บูคาเรสต์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-2)

เอฟเวอร์ตัน เปิดรัง กูดิสัน ปาร์ค รับการมาเยือน ดินาโม บูคาเรสต์ ศึกยูฟ่า คัพ รอบแรก นัดสอง โดยเกมนี้ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ต้องยิงถึงให้ได้ 4 เม็ดพร้อมทั้งห้ามเสียประตู ถึงจะเข้ารอบ หลังนัดแรกบุกไปพ่ายมาเละ 1-5

ครึ่งแรกหลังเขี่ยลูกได้ไม่กี่อึดใจ ทีมเยือนดินาโมมาได้ลุ้นทำประตูก่อนทันทีจากลูกฟรีคิก ฟลอริน บราตู วิ่งเข้ามาตะบันเต็มเท้าบอลพุ่งตรงกรอบ ไนเจล มาร์ติน โกล์เอฟเวอร์ตันปัดทิ้งออกมาก่อนกองหลังเคลียร์ทิ้งได้ทัน และ ถัดมาอีกไม่กี่นาที เอฟเวอร์ตันมาได้โอกาสบ้าง เมื่อ ฟิล เนวิลล์ วางเท้ายิงเต็มข้อบอลถากเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

จากนั้นเป็นลูกทีมของมอยส์ที่โหมบุกหนักเพื่อหวังทำประตูนำให้ได้ นาทีที่ 11 โทนี่ ฮิบเบิร์ต ได้บอลทางกราบขวาแล้วเปิดครอสให้ ดันแคน เฟอร์กูสัน กระโดดโขกเต็มหัว แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไปได้ลุ้นทีเดียว

ถัดมาอีก 3 นาที เอฟเวอร์น่าได้ประตูนำเหลือเกิน แผงหลังดินาโมเคลียร์บอลออกมาไม่ดี บอลมาเข้าทาง ฟิล เนวิลล์ หนุนยาวกลับไปให้กับบิ๊กดังค์ โหม่งตั้งต่อให้ เจมส์ แม็คฟาดเดน ยิงโล่งๆจ่อๆระยะ 6 หลา แต่กลับซัดออกเสาไปอย่างน่าผิดหวัง

นาที 23 เดวิด มอยส์ ต้องตัดสินใจเปลี่ยนเอา เดวิด เวียร์ ปราการหลังประสบการณ์สูงลงมาเล่นแทน โทนี่ ฮิบเบิร์ต ที่บาดเจ็บจากการเข้าปะทะผู้เล่นสเตอัว

หลังจากบุกกดดันอยู่นาน ความพยายามของเอฟเวอร์ตันก็มาประสบผลสำเร็จ ในนาทีที่ 28 จากกที่ มิเกล อาร์เตต้า ดาวเตะสเปน คลึงบอลหลอกล่อผู้เล่นทีมเยือนทางด้านกราบขวาก่อนครอสยาวมาที่เสาให้ บิ๊กดังค์ โหม่งตั้งให้ ทิม เคฮิลล์ โถมโหม่งเต็มหัวเสียบใต้คาน เอฟเวอร์ตัน นำ 1-0

ท้ายเกม นาที 38 เคฮิลล์ โหม่งเข้าประตูไปแล้วแต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจาก เฟอร์กูสัน ไปทำฟาวส์ ฮาเยอู โกล์ทีมเยือนจังหวะก่อนหน้านั้นเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาทีเดียว เอฟเวอร์ตันหวิดเสียประตูเช่นกัน จากลูกโต้กลับเร็ว ฟลอริน เปรเตร้ กระชากบอล วาเลนเต้ ก่อนเปิดเข้ากลางให้ ซิกู ยิงแบบไม่ต้องจบผ่านเสาออกนิดเดียวเท่านั้น จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตันนำอยู่ 1-0 แต่ต้องการอีกสามเม็ดถึงจะได้เข้ารอบต่อไป

ครึ่งหลังกองทัพทอฟฟี่สีน้ำเงินเปิดเกมบุกทันที นาที 53 นูโน่ วาเลนเต้ เปิดครอสจากทางด้านซ้ายให้ บิ๊กดั๊งก โหม่งต่อให้ ทิม เคฮิลล์ ได้ยิงในเขตโทษ แต่อูลาดซิเมียร์ ฮาเยอู มือหนี่งดินาโมออกมาป้องกันได้เพียงแค่เตะมุม และ จากลูกเตะมุมจังหวะนี้ เฟอร์กูสัน โด้โหม่งเต็มตัว แต่ไปเข้ามือ ฮาเยอู

เอฟเวอร์ตันหวิดเสียประตูเหมือนกันหลังบุกอยู่เพลินๆ ในนาทีที่ 56 ฟลอริน บราตู ไหลให้ ฟลอเรนติน เปเตร้ วิ่งเข้ามากดเต็มเท้า แต่ไนเจล มาร์ติน เหินตัวปัดทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาที 67 เควิน คิลบาน เปิดบอลยาวมาที่หน้าประตูให้ เจมส์ แม็คฟาดเด้น กระโดดโขกเหนือกองหลังดินาโม แต่บอลไปตรงตัว ฮาเยอู เสียก่อน และหลังจากนั้นอีกไม่กี่นาที เดวิด มอยส์ ไม่มีทางเลือกเมื่อต้องการประตูถึง 3 ลูก จึงตัดสินใจเปลี่ยนเอา มาร์คัส เบนท์ กับ เจมส์ บีทตี้ สองกองหน้าลงมาเล่นแทน นูโน่ วาเลนเต้ กับ เควิน คิลบาน

จากนั้น เอฟเวอร์ตันบุกกดดันอย่างหนักเพื่อทำประตูให้ได้ นาที 71 ฟิล เนวิลล์ ได้บอลทางกราบซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ ดันแคน เฟอร์กูสัน โหนโหม่งคนเดียวแต่บอลผ่านเสาออกไปอย่างเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นโหมบุกหนักแต่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขัน เอฟเวอร์ตัน ชนะ ดินาโม บูคาเรสต์ 1-0 แต่ต้องกระเด็นตกรอบไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-5

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน: ไนเจล มาร์ติน, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, มัตเตโอ แฟร์รารี่, นูโน่ วาเลนเต้, ทิม เคฮิลล์, ฟิล เนวิลล์, มิเกล อาร์เตต้า, เควิน คิลบาน, เจมส์ แม็คฟาดเด้น, ดันแคน เฟอร์กูสัน
ดินาโม บูคาเรสต์: อูลาดซิเมียร์ ฮาเยอู, จอร์จี กาลามาซ, กาเบรียล ทามาส, คอสมิน โมติ, คริสเตียน ปูลาช, ฟลอเรนติน เปเตร, อังเดร มาร์การิเตสคู, สเตฟาน กริกอรี, มิไฮตา เปลซาน, ฟลอริน บราตู, ยานนิส ซิกู

ซานธี (กรีซ) 0 - มิดเดิ้ลสโบรซ์ (อังกฤษ) 0
(รวมสองนัด มิดเดิ้ลสโบรช์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-0)

ซานธี ที่ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมมิดเดิ้ลสโบรซ์ ในเกมยูฟ่าคัพ โดยในเกมแรกเดอะโบโร่เอาชนะมาได้ 2-0 ส่วนทางทีมเยือนเลือกใช้ จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์ และ มัสซิโม่ มัคคาโรเน่ ลงล่าตาข่ายร่วมกันในแดนหน้า

เริ่มเกมเป็นทางฝ่ายเจ้าบ้านที่เปิดเกมบุกหวังเอาประตูแรกให้ได้โดยเร็ว และมีจังหวะลุ้นประตูจากจังหวะยิงของ โกเมส อันดราเด้ แต่ว่าบอลเหินข้ามคานไป

ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนก็เกือบที่จะได้ประตูเช่นกันจากการตะบันเต็มแรงของ จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์ แต่ว่า ปีเตอร์ ปิซานอฟสกี้ ทุบทิ้งออกไปได้หวุดหวิด จบครึ่งแรกเกมยังเสมอกันอยู่ 0-0

เข้าสู่ในช่วงครึ่งหลังยังคงเป็นทางซานธีที่เป็นฝ่ายเดินหน้ารุกไล่อยู่ตลอด จนทำให้กองหลังทีมเยือนต้องถอยร่นลงไปตั้งรับกันแทบทั้งหมด จนทำให้ สตีฟ แม็คคลาเรน ต้องแก้เกมด้วยการส่ง ยาคูบู อเย็กเบนี่ และ ซิลลาร์ด เนเม็ธ ลงมาแทน มัคคาโรเน่ และ ฮัสเซลเบงค์ ที่เล่นไม่ออก

แต่เกมส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลบุกและน่าจะได้ประตูอย่างที่สุดจากลูกโขกของ เอเมอร์สัน แต่ว่า เนเม็ธ ลงไปโหม่งทิ้งออกไปได้หวุดหวิด หลับจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันเพิ่มได้ จบเกม มิดเดิ้ลสโบรซ์ผ่านเข้าไปสู่รอบต่อไปได้ด้วยสกอร์ 2-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ซานธี : ปีเตอร์ ปิซานอฟสกี้, ยอนนิส ปาปาดิมิตริอู, วาสซิลอส โทรอสซิดิส, วาเน่ ซิคอฟ, ฌักเกต์ ปาเวียต์, ปาราสเควาส อันต์ซาส, เลวาน มาการัดเซ่, ลูเชียโน่ เดอ ซูซ่า, สตาฟรอส ลาบริอากอส, เอเมอร์สัน, โกเมส อันดราเด้
มิดเดิ้ลสโบรซ์ : แบร็ดลีย์ โจนส์, อาเบล ซาเวียร์, แกเร็ธ เซาธ์เกต, คริส ริกก็อตต์, เอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์, ฟร้องก์ เกอดรู, กุยโดนี่ จูเนียร์ โดริว่า, จอร์จ บัวเต็ง, เจมส์ มอร์ริสัน, มัสซิโม่ มัคคาโรเน่, จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์


อาริส ซาโลนิก้า (กรีซ) 0 - โรม่า (อิตาลี) 0


(รวมสองนัด โรม่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)

อาริส ซาโลนิก้า ทีมระดับดิวิชั่น 2 กรีซ กลับมาเล่นในรังของตัวเองรับมือ โรม่า ทีมดังแห่งเซเรีย อา อิตาลี ในศึกยูฟ่า คัพ รอบแรก นัดสอง ซึ่งนัดแรก ทีมหมาป่า ต้อนชัยมาขาดลอย 5-1 ดังนั้นจึงทำการพักบรรดาตัวหลักหลายรายไล่ตั้งแต่ กัปตันทีม ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ, ชาบานี่ นงด้า, วินเชนโซ่ มอนเตลล่า และส่งนักเตะดาวรุ่งลงหลายราย

เกมในครึ่งแรกโรม่ามีลุ้นหลายครั้ง จากจังหวะเข้าทำของ โรดริโก้ ทัดเด นักเตะบราซิล แต่ยังไม่เฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย ส่วนที่เหลือแนวรับของ อาริส ก็ยังป้องกันได้เหนียวแน่น ทำให้สกอร์ยังหยุดนิ่งอยู่ที่ 0-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก

ครึ่งเวลาหลัง โรม่า ยังเป็นฝ่ายที่คุมเกมได้เหนือกว่า และมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวหลายครั้ง แต่ไม่อาจทำอะไรเจ้าบ้านได้ จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันจืดชืด 0-0 รวมผล 2 นัด ทีมหมาป่า ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยประตูรวม 5-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาริส ซาโลนิก้า : ดิมิทริส คารัตซิโอวาลิส, คริสตี วานเจลี่, ดีเร็ก เดแคมป์ส, คอลต์ซิดาส, นาอินตอส, คอนสตันตินอส เนเบเกลราส, มิไฮลิส บอลลอส, อัฟรัม ปาปาโดปูลอส, ชาราลัมบอส มอยเซียดิส, โยอาคิม เบนิสคอส, อันโตนิโอ คาเซเรส
โรม่า : อเล็กซานเดอร์ โดนี่, คริสเตียน ปานุชชี่, ฟิลิปป์ เม็กแซส, คริสเตียน คิวู, เชซาเร่ โบโว่, อัลแบร์โต้ อากวิลานี่, โอลิวิเย่ร์ ดากูร์, ฮุสซีน คาร์จา, เอ็ดการ์ อัลบาเรซ, สเตฟาโน่ โอกาก้า, โรดริโก้ ตัดเดอี


โลโคโมทีฟ พลอฟดิฟ (บัลแกเรีย) 1 - โบลตัน (อังกฤษ) 2


(รวมสองนัด โบลตัน เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)

ที่สนาม นาฟเท็กซ์ สเตเดี้ยม โลโคโมทีฟ พลอฟดิฟ เปิดบ้านลงต้อนรับ เดอะ ทร็อตเตอร์ส โบลตัน วันเดอเรอร์ส โดยเกมนี้เจ้าถิ่นขนผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม ขณะที่ โบลตัน ขาดกำลังสำคัญที่บาดเจ็บไปหลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อิบัน คัมโป, นิคกี้ ฮันท์, ราดี้ จาอิดี้ และ แกรี่ สปีด โดยที่ ยาริค โฟยุท กองหลังดาวรุ่งวัย 17 ปี มีรายชื่อเป็นตัวสำรอง

เกมในช่วง 15 นาทีแรก เจาบ้านครองเกมได้ดีกว่ามาก ทำให้โบลตันไม่สามารถที่จะครองบอลได้ และต้องอาศัยการบอมบ์เข้าช่วย

นาทีที่ 23 โบลตันได้จังหวะสวนกลับ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ได้กระชากเข้ากรอบโทษ สับไกด้วยซ้ายเต็มที่แต่บอลดันลอยเหินข้ามคาน เกมเริ่มสนุกขึ้นนาทีที่ 25 วานเดฟ มีโอกาสได้ส่องหน้ากรอบโทษของโบลตัน แต่ลูกนี้ข้ามคาน

โอกาสกลับมาเป็นของโบลตันอีกครั้งในนาทีที่ 32 โอโคชา ทุ่มบอลเข้ากรอบเขตโทษ ให้กับ ฟาบริซ แฟร์กน็องด์ ปรี่เข้ามายิง น่าเสียดายที่เบาไปทำให้ลูกนี้ไม่อันตรายมากนัก

นาทีที่ 44 อิเลียฟ มีโอกาสหลุดเข้าไปในกรอบโทษ แต่เป็น วอล์คเกอร์ ที่ถลันออกมาปัดจากเท้าได้ ทำให้เป็นลูกเตะมุม และจากจังหวะเตะ ทำให้บอลมาเข้าหัวดิมิตรอฟ ที่ได้โขก แต่บอลข้ามคาน

ช่วงเวลาที่เหลือยังไม่มีอะไรมากนัก จบเกม 45 นาทีแรก ทั้งคู่ยังเสมอกันที่ 0-0

เริ่มเกมในครึ่งหลัง โบลตัน มีการปรับเปลี่ยนมาเป็น ระบบ 4-3-3 จนในนาทีที่ 50 ฟลอฟดิฟ ออกนำเป็น 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ อิเลียฟ มีโอกาสยิงในกรอบโทษและทำให้บอลพุ่งเสียบมุม หมดโอกาสที่วอล์คเกอร์จะพุ่งรับได้ ทำให้สกอร์รวมตามมาเป็น 2-2 แล้ว และ ฟลอฟดิฟ กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที

นาทีที่ 66 ฟลอฟดิฟ น่าได้จุดโทษ เมื่อทัล เบน ฮาอิม ไปทำฟาวล์ อิเลียฟ ในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่น ฟลอฟดิฟ สถานการณ์ทำให้โบลตันต้องบุกหนัก นาทีที่ 75 เบน ฮาอิม ครอสจากทางกราบขวาเข้าหัวดิยุฟ ที่ได้ขึ้นโขก แต่เป็น โคเลฟ ที่รับไว้ได้

อย่างไรก็ตาม เป็นโชคช่วยของโบลตันที่ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จในนาทีที่ 78 เมื่อ โอโคชา ทุ่มบอลให้พีเดอร์เซ่น ที่ครอสเข้ากลางไม่ดีนัก ทำให้บอลไปเช็ดหัว ทูนเชฟ ทำให้บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป เป็นสกอร์ 1-1 ทันที

โบลตันมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 85 เควิน เดวี่ส์ ได้บอลทางกราบซ้ายโยนเข้ากลางให้ เควิน โนแลน ยิงเต็มเท้า จนบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย โบลตันนำ 2-1

เวลาที่เหลือไม่มีอะไรมากนักจบเกมโบลตันเอาชนะ 2-1 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 4-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โลโคโมทีฟ พลอฟดิฟ : สโตยัน โคเตฟ, ยอร์ดานี่, วลาดิเมียร์ อิวานอฟ, คิริล โคเตฟ, โรเบิร์ต เปตรอฟ, อเล็กซานเดอร์ ทูนเชฟ, จอร์จี้ อิเลียฟ, คริซมานิช, ดิมิตรอฟ, ยานเชฟสกี้, วันเดฟ
โบลตัน : เอียน วอล์คเกอร์, ทาล เบน ฮาอิม, บรูโน่ เอ็นก็อตติ, อับดุลเลย์ เฟย์, ฟาบริซ แฟร์กน็องด์, สติลิออส ยานนาโคปูลอส, เจย์ เจย์ โอโคชา, โจอี้ โอไบรอัน, ฮาเร็ด บอร์เค็ตติ, เอล ฮัดจิ ดิยุฟ, เฮนริค พีเดอร์เซ่น


ดอมเซล (สโลวีเนีย) 1 - สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) 0


(รวมผลสองนัดสตุ๊ตการ์ทเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)

ทีมม้าขาว สตุ๊ตการ์ท บุกไปเยือนดอมเซลในเกมที่สองหลังเกมแรกเอาชนะมาได้ก่อน 2-0 โดยนัดนี้ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ยังส่งนักเตะชุดใหญ่เหมือนเดิม

ออกสตาร์ตมาแค่ 16 นาทีดอมเซลได้เฮกันลั่นเมื่อออกนำ 1-0 จากลูกที่ เออร์มิน ลาโควิช โยนบอลจากด้านขวามาให้ ดาริบอร์ สเตวาโนวิช หลุดไปยิงผ่านมือ ติโม ฮิลเดบรันด์ เข้าไป

จากนั้นเกมของม้าขาวก็ดีขึ้นโดยเฉพาะในครึ่งหลังโดยมีโอกาสตีเสมอหลายครั้งในนาทีที่ 50 ยอน ดาห์ล โทมัสสัน กองหน้าทีมชาติเดนมาร์กได้กลับตัวยิงในเขตโทษแต่ออกข้างไป

ถึงนาทีที่ 67 สถานการณ์ของดอมเซลที่ต้องการอีกประตูเพื่อความหวังเข้ารอบต่อไปก็ดับวูบลงเมื่อ ชาช่า เอลส์เนอร์ โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกไปทำให้เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเท่านั้น

จบเกมสตุ๊ตการ์ทแม้จะแพ้ 0-1 แต่เมื่อรวมผลสองนัดสามารถผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ดอมเซล : เนเมช, เด ซูซ่า, อิลิช, ซาฟรี่, คาซิชนิค, เซลจ์โกวิช, ดูราโนวิช, มาทิช, สเตวาโนวิช, ราโควิช, เอลส์เนอร์
สตุ๊ตการ์ท : ฮิลเดบรันด์, ฮิงเคิล, ไมร่า, เดลปิแอร์, แกร์เบอร์, ซอลโด้, ฮิทส์เซิ่ลส์แพร์เกอร์, เกนท์เนอร์, กรุนชา, คาเคา, โทมัสสัน

ซีเอสเคเอ โซเฟีย (บัลแกเรีย) 1 - ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน) 0


(รวมผลสองนัดซีเอสเคเอ โซเฟียผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-0)

ซีเอสเคเอ โซเฟีย เปิดบ้านเจอไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลังจากนัดแรกบุกไปเชือดห้างขายยาถึงไบ อารีน่ามา 1-0 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นขนชุดที่ดีที่สุดลงสนาม ขณะที่เลเวอร์ฯนั้น ทางด้านรูดี้ โฟลเลอร์ กุนซือรักษาการณ์ขนชุดใหญ่ลงบู๊เช่นกัน นำมาโดยคู่หัวหอก ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ และอังเดร โวโรนิน

เปิดฉากครึ่งแรกมา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นบุกหนักหวังเอาประตูคืนให้ได้แต่ทว่าไม่คมพอทำให้ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง กลายเป็นเจ้าถิ่น ที่เล่นได้ดีกว่าและถึงนาทีที่ 67 ก็มาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อยาเนฟ เปิดให้ มูรัด ฮิดูอัด กองกลางโมร็อกโกโหม่งเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือแม้ทีมเยือนจะโหมบุกหนักแต่ก็ยิงคืนไม่ได้ จบเกมเลเวอร์คูเซ่นพ่ายต่อซีเอสเคเอ โซเฟียไป 0-1 รวมผลสองนัดโซเฟียเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-0

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ซีเอสเคเอ โซเฟีย : เดยัน มัคซิค, วาเลนติน อิลิเยฟ, โดสลาฟ ซาบาฟนิค, อิบราฮิมา กัวเย่ร์, ทิอาโก้ ซิลวา, ยอร์ดาน โทโดรอฟ, ยาริโควิช, มูรัด ฮิดูอัด, ฮริสโต้ ยาเนฟ, เอมิล การ์โกรอฟ, เวลิซาร์ ดิมิตรอฟ
เลเวอร์คูเซ่น : ฮันส์-ยอร์ก บุทท์, โรเก้ จูเนียร์, คาร์สเท่น ราเมโลว์, เคลเมนส์ ฟริตซ์, ทรานวิลโล่ บาร์เน็ตต้า, ไซม่อน โรลเฟส, กอนซาโล่ คาสโตร, อาเธียร์สัน, แบร์นด์ ชไนเดอร์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, อังเดร โวโรนิน

สรุปผลการแข่งขันคู่อื่นๆ


- อนอร์โธซิส ฟามากัสต้า (ไซปรัส) แพ้ ปาแลร์โม่ (อิตาลี) 0-4 (รวมสองนัด ปาแลร์โม่ เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-1)

- ไมปา (ฟินแลนด์) แพ้ กราสฮ็อปเปอร์ส (สวิตเซอร์แลนด์) 0-3 (รวมสองนัด กราสฮ็อปเปอร์ส เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)

- ราปิด บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) ชนะ เฟเยนูร์ด (ฮอลแลนด์) 1-0 (รวมสองนัด ราปิด เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)

- วิลเล่ม ทเว (ฮอลแลนด์) แพ้ โมนาโก (ฝรั่งเศส) 1-3 (รวมสองนัด โมนาโก เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)

-เมตาลูร์ห โดเน็ตส์ค (ยูเครน) เสมอ พีเอโอเค (กรีซ) 2-2 (รวมสองนัดเสมอ 3-3 พีเอโอเค เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)

-โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ บรานน์ เบอร์เก้น (นอร์เวย์) 3-2 (รวมสองนัด โลโคโมทีฟ เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3)

- ราซิ่ง สตราส์บูร์ก (ฝรั่งเศส) ชนะ กราซ เอเค (ออสเตรีย) 5-0 (รวมสองนัด สตราส์บูร์ก เข้ารอบด้วยประตูรวม 7-0)

- แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เยอรมัน) ชนะ อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 3-1 (รวมสองนัด แฮร์ธ่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)

- เลฟสกี้ โซเฟีย (บัลแกเรีย) ชนะ โอแซร์ (ฝรั่งเศส) 1-0 (รวมสองนัดเสมอ 2-2 เลฟสกี้ เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)

- กรอซลิน กรอดซิสค์ (โปแลนด์) แพ้ ล็องส์ (ฝรั่งเศส) 2-4 (รวมสองนัด ล็องส์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3)
- คอร์ก ซิตี้ (ไอร์แลนด์) แพ้ สลาเวีย ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) 1-2 (รวมสองนัด สลาเวีย ปราก เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
- กาลาตาซาราย (ตุรกี) เสมอ ทรอมโซ่ (นอร์เวย์) 1-1 (รวมสองนัด ทรอมโซ่ เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)
- สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) ชนะ วาเลเรนก้า ออสโล (นอร์เวย์) 3-1 (รวมสองนัด สเตอัว เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-1)
- ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบียฯ) แพ้ มัคคาบี้ เปทัช-ทิกว่า (อิสราเอล) 2-5 (รวมสองนัด มัคคาบี้ เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-4)
- ซิโรกิ บริเย็ก (บอสเนียฯ) แพ้ บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) 0-1 (รวมสองนัด บาเซิ่ล เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-0)
- มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก) แพ้ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) 1-3 (รวมสองนัด ซีเอสเคเอ เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-2)
- ดนิโปร ดนิโปรเปรตรอฟส์ก (ยูเครน) ชนะ ฮิเบอร์เนี่ยนส์ (สกอตแลนด์) 5-1 (รวมสองนัด ดนิโปร เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)
- เดเบรเซ่น (ฮังการี) แพ้ ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน) 0-2 (รวมสองนัด ชัคเตอร์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-1)
- อาแซด อัล์คม่าร์ (ฮอลแลนด์) ชนะ ครายัลย่า โซเวียตอฟ ซามาร่า (รัสเซีย) 3-1 (รวมสองนัดเสมอ 6-6 อัล์คม่าร์ เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
- เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) ชนะ บรอนด์บี้ (เดนมาร์ก) 2-1 (รวมสองนัด บรอนด์บี้ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
- วิสล่า คราคอฟ (โปแลนด์) แพ้ วิตอเรีย กิมาไรส์ (โปรตุเกส) 0-1 (รวมสองนัด กิมาไรส์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0)
- ไมนซ์ (เยอรมัน) แพ้ เซบีญ่า (สเปน) 0-2 (รวมสองนัด เซบีญ่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-0)
- มัลโม (สวีเดน) แพ้ เบซิคตัส (ตุรกี) 1-4 (รวมสองนัด เบซิคตัส เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)
- บราก้า (โปรตุเกส) เสมอ เซอร์เวด้า ซเวซด้า (เซอร์เบียฯ) 1-1 (รวมสองนัดเสมอ 1-1 เซอร์เวด้า เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
- โอซาซูน่า (สเปน) เสมอ แรนส์ (ฝรั่งเศส) 0-0 (รวมสองนัด แรนส์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
- ซามพ์โดเรีย (อิตาลี) ชนะ วิตอเรีย เซตูบัล (โปรตุเกส) 1-0 (รวมสองนัด ซามพ์โดเรีย เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)
- ออสเตรีย เวียนนา (ออสเตรีย) ชนะ ไวกิ้ง สตาเวนเจอร์ (นอร์เวย์) 2-1 (รวมสองนัดเสมอ 2-2 ไวกิ้ง เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
- เออีเค เอเธนส์ (กรีซ) แพ้ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 0-1 (รวมสองนัด เซนิต เข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
- ราซิ่ง เกงค์ (เบลเยียม) แพ้ ลิเท็กซ์ โลเวช (บัลแกเรีย) 0-1 (รวมสองนัด ลิเท็กซ์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
- เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) แพ้ ฮัมบูร์ก (เยอรมัน) 0-1 (รวมสองนัด ฮัมบูร์ก เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)
- ฮีเรนวีน (ฮอลแลนด์) ชนะ บานิค ออสตราว่า (สาธารณรัฐเช็ก) 5-0 (รวมสองนัด ฮีเรนวีน เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-2)
- โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) เสมอ เชอร์มินัล เบียร์ช็อต (เบลเยียม) 0-0 (รวมสองนัดเสมอ 0-0 ต่อเวลาพิเศษเสมอ 0-0 มาร์กเซย ชนะจุดโทษ 4-1)
- เอสปันญ่อล (สเปน) ชนะ เทปลิเซ่ (สาธารณรัฐเช็ก) 2-0 (รวมสองนัด เอสปันญ่อล เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)

- สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) เสมอ ฮาล์มสตัด (สวีเดน) 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ ฮาล์มสตัด ชนะ3-2 รวมสองนัดเสมอ4-4 ฮาล์มสตัด เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์